พาไปไหว้หลวงพ่อโต แล้วดูห้องน้ำสวยที่สุด
วันนี้วันดี วันที่10-10-2010 พาไปไหว้พระกันครับ
วิวด้านหน้าวัด
ประวัติความเป็นมาอ่านก่อนนะครับ น่าอ่านมาก
หลวงพ่อโต
วัดบางพลีใหญ่ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
“หลวงพ่อโต” วัดบางพลีใหญ่ใน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (สะดุ้งมาร) องค์พระเป็นทองสำริดทั้งองค์
มีขนาดหน้าตักกว้าง ๓ ศอก ๑ คืบ ลืมพระเนตร
เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดบางพลีใหญ่ใน
ได้รับการกล่าวขวัญถึงความศักดิ์สิทธิ์
เป็นที่เคารพสักการะของชาวบางพลีและพุทธศาสนิกชนทั่วไป
ตามตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ประมาณกาล ๒๐๐ กว่าปีล่วงมาแล้ว
ได้มีพระพุทธรูป ๓ องค์ ปาฏิหาริย์ลงมาจากทางเหนือ
ลอยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดมา
พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์นี้ เข้าใจว่าปวงชนในกรุงศรีอยุธยา
คงอาราธนาท่านลงสู่แม่น้ำ เพื่อหลบหนีข้าศึก
ด้วยในสมัยนั้นบ้านเมืองได้เกิดสภาวะสงครามขึ้นกับพม่า
พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ได้แสดงอภินิหารลอยล่องมาตามลำแม่น้ำ
และบางครั้งก็แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ผุดให้ผู้คนเห็นตามลำดับ
จนเป็นที่โจษจันกันทั่ว ถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน
ต่อมาภายหลังปรากฏว่า พระพุทธรูปองค์หนึ่งไปขึ้นประดิษฐาน
อยู่ที่วัดบ้านแหลม (วัดเพชรสมุทรวรวิหาร) จ.สมุทรสงคราม
ในเวลาไล่เลี่ยกันพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง
ไปขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรเทพวราราม จ.ฉะเชิงเทรา
ส่วนอีกองค์หนึ่งได้ล่องลอยเรื่อยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา
ปาฏิหาริย์ลอยวกเข้ามาในลำคลองสำโรง
ประชาชนพบเห็นต่างโจษจันกันไปทั่ว พร้อมกับได้อาราธนา
ขึ้นที่ปากคลองสำโรง แต่พระพุทธรูปไม่ยอมขึ้น
ในที่นั้น มีผู้มีปัญญาดีคนหนึ่ง ได้ให้ความเห็นว่า
คงเป็นเพราะบุญญาอภินิหารของท่าน
แม้จะใช้จำนวนผู้คนสักเท่าไรอาราธนาฉุดท่านขึ้นบนฝั่งไม่สำเร็จเป็นแน่
ควรจะเสี่ยงทายต่อแพผูกชะลอกับองค์ท่าน
แล้วใช้เรือพายฉุดท่าน ให้ลอยตามลำน้ำสำโรงและอธิษฐานว่า
“หากท่านประสงค์จะขึ้นโปรดที่ใด
ก็ขอจงได้แสดงอภินิหารให้แพที่ลอยมาจงหยุด ณ ที่นั้นเถิด”
เมื่อประชาชนทั้งหลายได้เห็นพ้องดีกันดังนั้นแล้ว
ก็พร้อมใจกันทำแพผูกชะลอกับองค์ท่านแล้วใช้เรือ
ซึ่งสมัยนั้นเป็นเรือพายทั้งสิ้น ช่วยกันจ้ำพายจูงแพลอยเรื่อยมาตามลำคลอง
เรือที่ใช้ลากจูงแพมานั้นมีชื่อแปลกต่างๆ กัน เช่นชื่อ ม้าน้ำ
เป็ดน้ำ ตุ๊กแก และอื่นๆ เป็นต้น และจัดให้มีการละเล่นต่างๆ
มีละครเจ้ารำถวายมาตลอดทาง และการละเล่นอื่นๆ ครึกครื้นมาตลอดทั้งลำน้ำ
ครั้นแพลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดพลับพลาชัยชนะสงคราม
หรือวัดบางพลีใหญ่ใน แพที่ผูกชะลอองค์ท่านเกิดหยุดนิ่ง
พยายามจ้ำและพายกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง แพนั้นก็หาได้ขยับเขยื้อนไม่
ประชาชนที่มากับเรือและชาวบางพลี จึงได้พร้อมใจกัน
อาราธนาตั้งจิตอธิษฐานว่า “ถ้าหลวงพ่อจะโปรดคุ้มครอง
ชาวบางพลีให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขแล้ว
ก็ขออาราธนาอัญเชิญองค์ท่านให้ขึ้นจากน้ำได้โดยง่ายเถิด”
และเป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก เพียงใช้คนไม่มากนัก
สามารถอาราธนาท่านขึ้นจากน้ำได้โดยง่าย
ทำให้ประชาชนต่างแซ่ซ้องในอภินิหารของท่านเป็นอย่างยิ่ง
และได้อาราธนาท่านขึ้นไปประดิษฐานอยู่ในวิหารนั้นเรื่อยมา
ครั้นต่อมาได้รื้อวิหารนั้นอีกเพื่อสร้างเป็นพระอุโบสถที่ถาวร
จึงต้องชะลออาราธนาองค์ท่านมาพักไว้ยังศาลาชั่วคราว
จนกระทั่งได้สร้างพระอุโบสถสำเร็จแล้ว
จึงได้อาราธนาท่านไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ
เพื่อเป็นพระประธานของวัดบางพลีใหญ่ใน
เล่ากันว่า เมื่อคราวสร้างพระอุโบสถเสร็จใหม่ๆ
ได้วัดช่องประตูพระอุโบสถกับองค์หลวงพ่อโต
ปรากฏว่า ช่องประตูใหญ่กว่าองค์พระประมาณ ๕ นิ้ว
ซึ่งสามารถนำองค์หลวงพ่อโตผ่านเข้าไปได้
แต่พอถึงคราวอาราธนาจริง กลับปรากฏว่าองค์หลวงพ่อใหญ่กว่าประตูมาก
คณะกรรมการจำนวนหนึ่งเห็นว่าควรทุบช่องประตูทิ้ง
แต่อีกจำนวนหนึ่งเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต
จึงได้พร้อมใจกันอธิษฐานขอให้หลวงพ่อโตสามารถผ่านเข้าประตูได้
เพื่อเป็นมิ่งขวัญคุ้มครองชาวบางพลีสืบไป
เมื่ออธิษฐานเสร็จก็อาราธนาหลวงพ่อโตผ่านประตูได้โดยสะดวก
การที่ท่านได้พระนามว่า “หลวงพ่อโต” คงเป็นเพราะองค์ของท่านใหญ่โต
คือ ใหญ่โตกว่าองค์ที่ลอยน้ำมาด้วยกันทั้ง ๒ องค์
จึงถือเป็นนิมิตอันดีให้ประชาชนพากันถวายนามว่า “หลวงพ่อโต”
เป็นสิ่งที่เคารพสักการะของชาวบางพลี ตราบเท่าทุกวันนี้
ต่อด้วยห้องน้ำภายในวัดครับ
เทียบโรงแรม 5 ดาวได้เลยครับ
พรุ่งนี้ทำงานตามปกติ เดินทางปลอดภัยทุกท่านนะครับ
ขอบคุณภาพสวยๆจากเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม
โดย คุณสุรงค์ โพชนิกร
- บล็อกของ chai
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 13359 ครั้ง
ความเห็น
chai
10 ตุลาคม, 2010 - 16:04
Permalink
น้องน้ำหวาน
ว่างก็ไปนะ อย่าไปคนเดียวละหาคนควงแขนไปด้ยนะ จะได้ไม่เหงา
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
น้ำหวาน
10 ตุลาคม, 2010 - 16:08
Permalink
พี่ชัยอ่ะ
พี่ชัยพอดีว่าแขนหวานมีตั้ง2ข้าง
ถ้าพาไปทั้ง2คนคงไม่ได้ไหว้พระหรอกค่ะ
ไปไหว้ครูแทนม้าง.....อิ อิ อิ
chai
10 ตุลาคม, 2010 - 16:10
Permalink
น้องน้ำหวาน
โห้....เด็กน้อยเอ่ย เวลาไหว้พระก็ปล่อยมือซิจ๊ะ
ไม่งั้นจะไหว้ได้ไงละ
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
ann
10 ตุลาคม, 2010 - 16:31
Permalink
ไปไหว้พระ
ได้บุญแล้ว.....ได้เข้าห้องน้ำอย่างหรู เป็นบุญ......อีก
.....
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
chai
10 ตุลาคม, 2010 - 18:33
Permalink
น้องแอน
ใช่เลยน้องแอน นอกจากอิ่มบุญแล้ว ยังได้บรรยากาศหรูหราอีกด้วย
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
นาย
10 ตุลาคม, 2010 - 17:10
Permalink
ขอบอก
ว่าอลังการงานสร้างจริงๆ
ขออภัยและขอบคุณค่ะ
chai
10 ตุลาคม, 2010 - 18:31
Permalink
ใช่ๆ
ใช่ครับ แต่เอ๊ะทำไมต้องขออภัยด้วยละ
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
จันทร์เจ้า
10 ตุลาคม, 2010 - 18:11
Permalink
ชัยๆๆ
พี่ว่า ห้องน้ำ น่านอนมากเลย อิอิ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
chai
10 ตุลาคม, 2010 - 18:30
Permalink
พี่จันทร์เจ้า
นอนเลยไหมพี่จันทร์เจ้า เดียวเอาหมอนมาให้เลย 555
รับรอง คนเดินไปเดินมามองเป็นตาเดียวกันแน่ๆ
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
10 ตุลาคม, 2010 - 20:32
Permalink
พิธีโยนบัว
ที่วัดมีพิธีโยนบัวด้วยค่ะ ปีหนึ่งจัดหนึ่งครั้ง เป็นพิธีที่มีคนมามากที่สุดในจังหวัดก็ว่าได้
แก้วเคยไปไหว้ท่านบ่อยๆ ไปขอกำลังใจ เพราะใกล้ที่ทำงานเก่า แต่ไม่เคยเข้าห้องน้ำเลย คราวหลังต้องไปชมเป็นบุญตาหน่อยแล้ว
หน้า