การเพาะฟักข้าว

หมวดหมู่ของบล็อก: 

โปรดอย่าอิจฉาสมาชิกใหม่นะคะ.... น่ารักมากค่ะ.... หลังจากกลับจากนครปฐม สวนฟักข้าวพี่น้อย... เกิดแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า ที่จะปลูกฟักข้าว แม้จะไม่ให้ใหญ่โตเหมือนพี่น้อย แต่อยากให้ฟักข้าวอยู่ในธรรมชาติให้มากที่สุด กลับมาถึงก็เริ่มเพาะฟักข้าวค่ะ 30 ตุลาคม 53



ทำการหาข้อมูล ศึกษาวิธีการเพาะเมล้ดจากหลาย ๆ ท่าน ที่เขียนไว้ในบ้านสวนฯ ทำทุกอย่างเช่น


1.  ทิ้งไว้ที่ชื้น ๆ


2.  ขลิบหัวเมล็ด แล้วตากฝนไว้ เพราะฝนตกทุกวัน


3.  แกะเมล็ดออกเปลือย ๆ ตากฝนไว้


ตากฝนโดยใส่ตะกร้าพลาสติกไว้ประมาณ 5 วัน ไม่ใช่แช่น้ำนะคะ บางเมล็ดก็แตกราก แตกใบ... แล้วเอาลงถุงชำ ส่วนมาก จะโผล่ ตุบ ๆ ขึ้นมาเล็กน้อย ลองแบ่งเมล็ดทั้ง 3 แบบ นั้นไปลงถุงเพาะเมล็ดด้วย



(แบบนี้งอกช้ากว่า)


แต่อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจคือ เอาเมล็ดที่ผ่านการตากฝนไว้มาใส่ถุงพลาสติก ปิดปากถุง แล้วทิ้งไว้ 2-3 วัน เปิดออกดูเห็นการเปลี่ยนแปลง



เมล็ดเริ่มแตกราก แตกหน่อค่ะ แยกออกมาเพื่อลงถุงชำหรือลงดิน





ใครมีประสบการณ์ในการเพาะแบบไหนบ้างคะ......แบบปันกันค่ะ....

ความเห็น

ดีใจมากเลยพี่น้อย.... กำลังใจล้นหลาม ที่สำคัญแรงบันดาลใจมาจากพี่นี่แหละ แต่ว่าจะปลูกคืนในป่าค่ะพี่ ไม่มีที่ราบที่เหมาะสม


พอดีคิดเอาเองว่าที่เราเคยได้กินมันมาจากป่าจากภูเขาที่สูง ถ้าเอาไปคืนป่า ที่เราสามารถเก็บกลับมาได้ง่าย ๆ ก็น่าจะดีค่ะ..... ขอบคุณข้อมูลจากพี่น้อยมาก ๆ ค่ะ

พี่แจ้ว เพาะได้ เก่ง มาก เลยครับ เอาใจ ช่วย ด้วย คนครับ

และให้กำลังใจค่ะ


ขอบอก ท่านประธานเรา เก่งจริงๆ

Laughingทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาชีวิตน้อยลงทุกวัน

ผลงานพี่แจ้วสุดยอดเลยครับ อีกหน่อยก็คงได้มีแปลงฟักข้าวสมความตั้งใจ

ผมเองก็ไปขอเมล็ดฟักข้าวจากพี่น้อยมาเมื่อต้นเดือน พ.ย. วันที่รายการออกอากาศ ที่พี่น้อยโทรคุยกับพี่แจ้วนั้นแหละ ด้วยความตั้งใจว่าจะลองปลูกในสวนผสมผสานที่กำลังทำอยู่ โดยพี่น้อยสอนวิธีการเพาะโดยการกระเปลือกส่วนหัวเมล็ดออกเล็กน้อย(พี่น้อยใช้มีดผ่า) เพื่อให้น้ำซึมเข้าได้ แล้วให้ฝังในขี้เถ้าแกบลึกประมาณครึ่งนิ้ว แล้วใช้พลาสติกคุม โดยให้เจาะรูพลาสติกที่คุมประมาณ 1/4  และเปิดรดน้ำและระบายอากาศเวลากลางคืน

ผมก็ทำตามพี่น้อยแนะนำ กระเทาะเปลือกและนำลงเพาะในวันที่  20 พ.ย.โดยเรียงเมล็ดฟักข้าวลงในกระบะ(กล่ิองโฟมผลไม้เก่าๆ) แล้วนำขี้เถ้าแกบมากลบคุมด้วยพลาสติกที่เจาะรูเพื่อระบายอากาศ ตั้งไว้ที่ลานหลังบ้าน เพื่อต้องการให้ได้รับแสงแดดบ้าง เพราะช่วงนั้นไม่ค่อยมีแดดอุณหภูมิต่ำสุด ตามรายงานของหนูนิวอยู่ที่ประมาณ 24-25 องศา

และทุกวันหลังเลิกงานกลับถึงบ้านประมาณสองทุ่มก็จะไปเปิดดูและรดน้ำทุกวัน ซึ่งอุณหภูิมิก็ปกติ เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์จนถึงวันเสาร์ที่ 25 พ.ย. ได้มีโอกาสอยู่บ้านตอนกลางวัน สังเกตุเห็นว่าตรงที่ตั้งกระบะเพาะฟักข้าวแดดจัดมากก็เลยไปเปิดแผ่นพลาสติกออกดู โอ้...ร้อนมาก ลองคุ้ยขี้เถ้าแกบออกดูปรากฏว่าควันออกเลยครับ เลยต้องทำการย้ายไปไว้ใต้ร้านกล้วยไม้ และได้สอบถามพี่สาวว่าแดดตรงที่ตั้งกระบะเพาะฟักข้าวแดดแรงมากี้วันแล้ว พี่สาวบอกว่าแรงมาสองสามวันแล้ว โอ้โห...สอง..สามวันแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเมล็ดฟักข้าวร้อนเกินไปจนสุกหรือเปล่า ซึ่ง ณ.วันนี้ยังคงต้องรอลุ้นต่อไปว่าจะงอกมั้ย

มีความคืบหน้าอย่างไรจะมารายงานให้ทราบอีกทีครับ

 

เพาะฟักข้าวเยอะจัง จะปลูกกี่ไร่คะนั่น

 

 

แค่เพาะไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สองไร่ครับ

โอ้โห เยอะขนาดนี้ต้องใช้พื้นที่ปลูกเท่าไหร่ครับพี่ :cheer3:

คงเหนื่อยอีกมากเลยน่ะพี่ :cheer3: :cheer3:

พื้นที่ที่ผมจะใช้จริงๆ สำหรับโครงการนี้แค่ 2 ไร่ครับวุฒิ เป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเป็นป่าเลย แต่ไม่ได้ตั้งใจจะปลูกฟักข้าวอย่างเดียวหรอกครับ จะปลูกผสมผสานกันหลายอย่าง

พี่ว่าถ้างอกหมดสงสัยต้องใช้ที่เป็นสิบไร่รึป่าวนี่ ...งานนี้พี่น้อยมีคู่แข่งแร้ว อิๆๆๆ

ยังไม่รู้จะงอกหรือเปล่าเลยพี่ เพราะว่าโดดแดดจัดอยู่หลายวันกลัวเมล็ดจะสูกหมดแล้ว และคงมิกล้าบังอาจเป็นคู่แข่งกับพี่น้อยหรอกครับ ขอแค่เป็นส่่วนหนึ่งของสมาชิกในกลุ่มของพี่น้อยเท่านั้น ส่วนเรื่องพื้นที่คงไม่ถึงสิบไร่หรอกครับ เพราะตามสูตรของพี่น้อยคือ ไร่ละ 400 หลุมๆ ละ 4 ต้น เท่ากับว่าไร่ละ 1600 ต้นครับ

 

หน้า