รางจืด

หมวดหมู่ของบล็อก: 

    เนื่อง จากวันก่อนนำชารางจืดมาฝากแล้วไม่ได้บอกสรรพคุณละเอียดวันนี้ ขออนุญาตินำข้อมูลจากเวบมาฝากขอขอบคุณข้อมูลจากเวป  http://www.rspg.or.th /plants_data/herbs/herbs_20_4.htm

 

รางจืด

 ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Thumbergia laurifolia   Lindl.

วงศ์  Acanthaceae

ชื่ออื่น :  กำลัง ช้างเผือก ขอบชะนาง เครือเขาเขียว ยาเขียว (ภาคกลาง) คาย รางเย็น  (ยะลา)  จอลอดิเออ ซั้งกะ ปั้งกะล่ะ พอหน่อเตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ดุเหว่า (ปัตตานี) ทิดพุด (นครศรีธรรมราช) น้ำนอง (สระบุรี) ย่ำแย้ แอดแอ (เพชรบูรณ์) 

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ เลื้อย/ไม้เถา เนื้อแข็ง  ใบ ใบเดี่ยว

ออกตรงข้าม รูปขอบขนานหรือรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนเว้า  มีเส้น 3 เส้นออกจากโคนใบ ดอก มีสีม่วงอมฟ้า ออกเป็นช่อห้อยลงตามซอกใบ ใบประดับสีเขียวประแดง กลีบเลี้ยงรูปจาน ดอกรูปแตรสั้น โคนกลีบดอกสีเหลืองอ่อน เชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 4 อันผล เป็นฝักกลม ปลายเป็นจะงอย เมื่อแก่แตกเป็น 2 ซีก
ส่วนที่ใช้ :
 ใบ ราก และเถาสด

สรรพคุณ : รางจืดที่มีประสิทธิภาพ คือรางจืดชนิดเถาดอกม่วง

  • รากและเถา - รับประทานแก้ร้อนใน กระหายน้ำ

  • ใบและราก - ใช้ปรุงเป็นยาถอนพิษไข้ เป็นยาพอกบาดแผล น้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ทำลายพิษยาฆ่าแมลง พิษจากสตริกนินให้เป็นกลาง พิษจากดื่มเหล้ามากเกินไป หรือยาเบื่อชนิดต่างๆ เข้าสู่ร่างกายโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เช่น ติดอยู่ในฝักผลไม้ที่รับประทาน เมื่ออยู่ในสถานที่ห่างไกล การนำส่งแพทย์ต้องใช้เวลา อาจทำให้คนไข้ถึงแก่ชีวิตได้ ถ้ามีต้นรางจืดปลูกอยู่ในบ้าน ใช้ใบรางจืดไม่แก่ไม่อ่อนเกินไปนัก หรือรากที่มีอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป และมีขนาดเท่านิ้วชี้ มาใช้เป็นยาบรรเทาพิษเฉพาะหน้าก่อนนำส่งโรงพยาบาล (รากรางจืดจะมีตัวยามากกว่าใบ 4-7 เท่า) ดินที่ใช้ปลูก ถ้าผสมขี้เถ้าแกลบหรือผงถ่านป่น จะช่วยให้ต้นรางจืดมีตัวยามากขึ้น

วิธีใช้ :

  • ใบสด
    สำหรับคน 10-12 ใบ
    สำหรับวัวควาย 20-30 ใบ
    นำใบสดมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำซาวข้าวครึ่งแก้ว คั้นเอาแต่น้ำดื่มให้หมดทันทีที่มีอาการ อาจให้ดื่มซ้ำได้อีกใน 1/2 - 1 ชั่วโมงต่อมา

  • รากสด
    สำหรับคน 1-2 องคุลี
    สำหรับวัวควาย 2-4 องคุลี
    นำรากมาฝนหรือตำกับน้ำซาวข้าว แล้วดื่มให้หมดทันทีที่มีอาการ อาจใช้ซ้ำได้อีกใน 1/2 - 1 ชั่วโมง ต่อมา

คำเตือน :  การ ใช้รางจืดสำหรับถอนพิษยาฆ่าแมลง ยาพิษและสตริกนินนั้น ต้องใช้ยาเร็วที่สุดเท่าที่จำทำได้ จึงจะได้ผลดี ถ้าพิษยาซึมเข้าสู่ร่างกายมากแล้ว หรือทิ้งไว้ข้ามคืน รางจืดจะได้ผลน้อยลง

 

 

ความเห็น

ปลูกกับไอ้ไหรล่ะน้อง สนใจกันนิ จะสั่งมั่ง โรคประจำตัวพี่คือ ร้อนใน หาหมอเท่าใดกะไม่หาย หมอให้กินน้ำเยอะ ๆ อย่าเครียด พี่กินจนไม่พักทำไหร(หวางอีเหยี่ยว) แล้วกะไม่เครียด (หวางอีบ้า ๆ บอ ๆ)ก็ยังไม่หาย หมดปัญญาแล้วนิ เป็นแผลในปากประจำ กินไหรไม่ได้แรงอกนิ.........:nonono:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ไม่ทราบว่า รางจืดมีชนิดเป็นเหง้ากอเหมือนขมิ้นไหมครับ พอดีได้มาปลูกอยู่หนึ่งหัว ตอนนี้กำลังอนุบาลอยู่ ได้มาจากพี่ที่เรียนแพทย์แผนไทยที่พิษณุโลก เอามาฝาก ยังไม่เคยลองสรรพคุณเลยครับ

เมื่อจิตสงบ...ก็จะเห็นซึ่งปัญญา

มีทั้งแบบต้น (เถา) และเหง้า ลักษณะต้นเหมือนกระชายคับ ที่บ้านผมปลูกไว้ทั้ง 2 ชนิด เห็นเขาว่าแบบเถาสรรพคุณจะดีกว่า แต่ไม่เคยใช้ซักทีปลูกทิ้งไว้เฉยๆ การขยายพันธ์ แบบเถาใช้กิ่งมาปักชำได้เลยเป็นง่าย แบบเหง้าก้อใช้เหง้ามาปลูกเหมือนกระชายคับ

ต้นเป็นเถาคะคล้ายย่านางใบใหญ่กว่าเท่านั้นเองคะสรรพคูนแก้ไข้ร้อนในกระหายน้ำเวลาเด็กเป็นไข้นะคะทาน1เม็ดทุก4ชั่วโมง เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดีคะให้ทานได้ง่ายนะคะทานแบบแคมซูลคะแก้ไข้ร้อในกระหายน้ำหรือเป็นไข้คะ  พอดีตอนเข้าค่ายหมอเขียวนะคะไม่สบายคะพอดีมาถึงตอนกลางคืนด้วยคะเลยไม่รู้จะแก้ยังไงเลยซื้อแคบซูลลางจืดมาทานคะ2เม็ดคะสรรพคูณอย่างที่บอกคะแก้ไข้ร้อนไนคืนนั้นเลยหลับสบายทั้งคืนตื่นขึ้นมานะคะสดชื่นมากเลยคะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยละคะโอ้วิเศษจริงเหนออย่าได้เชื่อต้องลองเองคะเพราะอาจจะถูกกับเราคนอื่นอาจจะไม่ถุกคะแล้วแต่ธาตูคนะคะเลยชื้อเก็บมาฝากคนที่บ้านและญาติๆๆทานเวลาเด็กไม่สบายนะคะก็ทานได้คะเด็กทาน1เม็ดพอคะทุก4ชั่วโมงคะถ้ามีน้ำย่างนางด้วยก็ดีคะย่านางปั่นใบเตยบัวบกคะจะยิ่งดีคะปั่นกินและเช็ดตัวนะคะดื่มแทนน้ำเลยละคะและก็ตามด้วยแคบซูลรางจืดนี้ทานเหมือนยาแก้ไข้เลยละคะ(ไม่อยากให้ทานอย่าแก้ปวดเพราะไปกดทับประสาทให้ไม่รู้จักวปวดไม่ดีคะ)ที่บ้านตอนี้ยาหมอปัจจุบันไม่ต้องพูดถึงคะไม่เคยไปคะแถมประหยัดเงินเยอะคะยาสุนไพรนะคะถ้าเราใช้เป้นใช้ถูกกับเขานะคะหายเร็วคะแต่บางคนว่าใช้เวลาไม่ใช่เลยคะใครกำลังมีอาการที่ว่าอยู่นะคะลองทานดูคะบอกว่าเยี่ยมยอดมากๆๆคะไม่รู้จะซื้อที่ไหนเดี่ยวบอกที่ที่ไม่แพงและมีคุณธรรมคะต้องลองดูว่ามีใครสนใจไหมถ้าซื้อแบบซองจะถูกกกว่าคะเป็นแบบกระปุกแพงที่กระปุกปริมารอาจน้อยกว่าด้วยซ้ำไปคะพกพาก็ยากคะแบบซองจะง่ายกว่าคะ

อนาคตต้องทำให้ได้สอบแพทย์แผนไทยให้ผ่าน

หน้า