ความสุขจากการขายผัก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

หลังจากที่ผักผมให้ผลผลิต นอกจากการกินเอง แบ่งปันญาติพี่น้องเพื่อนบ้านแล้ว ก็ขายครับ หรือขายไปแบ่งปันไปก็แล้วแต่ วันนี้ได้ขายเป็นครั้งที่ 4 แล้ว 

ครั้งแรกไปขายในหมู่บ้านที่พี่สาวอยู่ พี่สาวช่วยขาย ได้มาประมาณ 500 บ.
ครั้งที่ 2 พ่อเอาไปขายให้ ได้มา 55 บ.
ครั้งที่ 3 พี่ๆ ที่ทำงานเก่ามาซื้อถึงบ้านได้มา 250 บ.
ครั้งที่ 4 ไปขายเองที่ทำงานที่ลาออกมาหมาดๆ ขายได้ประมาณ 800 บ.

ขายผักเองได้ 800 บ. มีความสุขมาก ดีใจ ตื่นเต้น ภูมิใจเคล้ากันไป เป็นความรู้สึกยากที่จะอธิบาย ตอนที่ได้รับเงินเดือนหลักหมื่นทำไมความรู้สึกแบบนี้ถึงไม่มี

การที่มีกิจการอะไรซักอย่างที่เรารักเราชอบเป็นของตัวเอง ชีวิตมันมีความสุขกว่าการเป็นลูกจ้างเช่นนี้เอง ผมแค่เริ่มต้นได้เงินเพียงเล็กน้อย แต่ได้ความสุขมากกว่า
สุขที่มีกิจการเป็นของตัวเองอย่างที่ตั้งใจไว้  ชีวิตเราทำไมต้องขึ้นกับคนอื่น ทำไมต้องเอาชีวิตไปฝากไว้กับคนอื่น ในเมื่อเราเลือกที่จะมีความสุขได้ สุขที่ได้อยู่กับพ่อแม่ ได้ดูแลพ่อแม่ สุขที่ได้แบ่งปัน สุขที่ได้กินผักปลอดสารพิษ สุขที่ขายของดีๆ ให้กับผู้ซื้อ สุขที่ได้เรียนรู้จากการกระทำจริง และได้แบ่งบันความรู้กับคนที่อยากรู้ 

ทุกคนเกิดมาต่างกัน รับผิดชอบต่างกัน มีหน้าที่ต่างกัน ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดตามความจำเป็น ผมเลือกเส้นทางเดินของผมแบบนี้ได้ ด้วยเพราะนิสัยผมส่วนหนึ่ง ที่ไม่เหมาะกับสังคมที่แก่งแย่งเพื่อผลประโยชน์ ไร้ความจริงใจ  ความชอบส่วนตัวส่วนหนึ่ง ที่สำคัญผมหลายปัจจัยต่างๆ รองรับ การตัดสินใจจึงง่าย

อยากบอกว่าใครที่เบื่อระบบ เบื่อองค์กร การทำเกษตร หรือกิจการส่วนตัวอื่นใด มันเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้มีความสุขได้ แต่ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินงาน เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ห้ามรวย ไม่ได้ห้ามใช้เงิน ...

เงินเป็นสิ่งจำเป็น ผมไม่เถียง แต่เงินไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง เงินก็ไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้

บางคนทุ่มเททำงานเพื่อเงิน จนลืมอะไรบางอย่างไปหรือเปล่า


ความเห็น

บุกเบิกพื้นที่พร้อมแล้วค่ะ 21 ไร่เศษ คำนวณจำนวนต้นตามผู้รู้บอกมา ไร่ละ 75 ต้นโดยประมาณใช่ไหมค่ะ วันที่ 15 มีนาขก.ที่ชุมแพ กองทุนสวนยางฯเปิดให้ลงชื่อเพื่อที่เขาจะเข้ามาดูแลไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไรบ้าง ความตั้งใจหลักคือ กล้ายางฟรีค่ะ แต่เห็นข่าวแล้วท้อค่ะ ไม่รู้จะทันฟ้าฝน ได้ตามโควตาที่ว่าจะให้หรือเปล่า กะว่าจะไปกางเต็นรอคิวเลยค่ะ เพราะที่ขก. 1 ต้นกล้า 45 บาทค่ะ ได้รับรู้แล้วท้อเลย เงินสำรองที่เตรียมไว้ก็น้อยลงทุกที ค่าบุกเบิกก็แพงมากค่ะ ความคิดที่สอง กะว่าถ้าได้กล้ายางตามที่เขาจะให้คงปลูกแค่นั้นก่อน หรือหากมีแหล่งพันธุ์ 600 ที่ไหนราคาย่อมลงกว่านี้ช่วยส่งข่าวด้วยนะคะ หากมีคนเห็นใจ หรือมีพันธุ์อยู่แล้ว ขอราคาที่ไม่แพงตามกระแสให้ลูกนกลูกกาตัวนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

พอเพียงจ้า

ยินดีด้วยครับพี่   โดนใจอย่างจังเลยครับ  ตอนนี้ยังมีแอกอยู่ครับยังไม่ได้เริ่มเลย  หลังเดือนตุลานี้คงได้ เริ่มต้นอย่างจริงจังเสียที  ดีใจครับที่มีคนที่คิดเหมือนกัน เขียนให้อ่านบ่อยๆน่ะครับเพื่อจะได้เป็นกำลังใจสำหรับคนจะเริ่มทำอย่างผม  ขอบคุณครับ

ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ สำเร็จไปอีกขั้น หายเหนื่อยเลยใช่ไหมค่ะ:dreaming:

ดีใจด้วยนะคะคุณโสทร  น่าตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะ  อยู่แคลิฟอร์เนียค่ะ ตอนนี้ผู้สาวเฒ่ากับแฟนกำลังเพาะต้นกล้า มะเขือเทศพันธ์ต่าง ๆ และแตงกวาค่ะ แล้วก็พวกซุกินี่หลายพันธ์ค่ะ หน้าร้อนนี้จะไปขาย  เดี๋ยวจะลงรูปความก้าวหน้านะคะ

ยินดีด้วยนะคะ แม่เคยบอกไว้อยุ่คะ ว่ามันเป็นเงินที่ได้มาแล้ว มีความสุขมาก  เด๋วจะมุ่งหน้าไปขลุกทำสักแปลง ชอบปลูกผักกาดคะ:cheer3Smile:

:bye: พี่โสธร คงจะคนพบกับความสุขที่แท้จริง เป็นนายของตนเอง เป็นความสุขที่เราสร้างเอง พอเพียง พอมี พอกิน และเพียงพอ กับลาภ ยศ เป็นความสุขที่เราสร้างขึ้นมาเอง :cute:

:crying2: ค่ะชอบกับความเห็นของคุณโสทรมากค่ะ ตอนนี้กำลังเคลียร์ปัญหาหนี้สินอยู่ค่ะ หมดเมื่อไหร่จะออกจากงานและมาลุยเกษตรพอเพียงเต็มตัวค่ะ ตอนนี้ก็ปลูกเพื่อกินไปก่อน แต่ที่ดินว่างมีน้อยค่ะแถมน้ำท่วมบ่อย แต่ก็จะสู้สู้ค่ะ (ขายไม้ยางเมื่อไรได้ปลูกอย่างจุใจแน่ๆๆๆๆ)

โคกโพธิื


 

:uhuhuh:


คุณรู้หรือป่าว  เสี่ยโสทร  สิ่งที่คุณคิดสิ่งที่คุณทำมันสุดยอดจริงๆ ผมอยู่ต่างประเทศและอยากจะกลับเมืองไทยมาก ผมทำตารางคะแนนการตัดสินใจ เพื่อจะเดินทางกลับเมืองไทย ผลออกมาคือกลับครับ       1 อยู่ใก้ลญาติพี่นอ้ง คะแนนเต็ม 10 ข้อนี้ติดลบ     2 ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก คะแนนเต็ม 10 ผมให้ แค่ 3 เต็มที่    3 ได้ทารอาหารที่ตัวเองชอบ คะแนนเต็ม 10 ผมไห้ 2  4.มีเงินใช้  เต็ม 10 ขอ้ นี้ดีหน่อย ให้ 5  5. ได้เที่ยวใช้ชีวิตอิสระ เต็ม 10 ให้ 1 (เพราะทำงานตลอด)   เมื่อดูคะเเนนทุกหัวข้อแล้ว 50 คะแนน ผมได้ แค่ 11 คะแนน สรุปแล้ว กลับบ้านทำนา ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก อยู่ใกล้ญาติพี่นอ้ง ได้ดูแลญาติพี่นอ้ง อยากทำอะไรที่มันพอเพียงไม่ตอ้งดิ้นรนให้มากนักพออยู่พอกิน และสุดท้าย อยากทำเหมือนที่คุณกำลังทำอยู่ คุณ คอือีกคนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจ  ทำไมผมจึง เรียกคุณว่า เสี่ย คือ เสี่ยคือ ผู้มั่งคั่ง มั่งมี  และคุณคือ ผู้มั่งคั่ง มั่งมี และ ผู้ให้ และแบ่งปัน ขอบคุณมากครับ

ยินดีกับผู้ใหญ่โสด้วยที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ทำแล้วมีความสุข สบายใจ ทำพอกินพออยู่ เหลือแจกจ่าย ขาย ก็คิดว่าเป็นส่วนกำไร

ป้าเกี้ยวปกติทำสวนทำไร่ไม่เป็น ดีแต่เห็นพืชผัก ก็ชื่นชมเตอนที่ออกลูก ออกดอก ออกผล 

ที่บ้่านแม่ก็แบ่งสวนมะพร้าวให้  พ่อบ้านป้าเกี้ยวปีนี้เออลี่ออกมาก็อยู่หนำในสวน ปรับปรุงต้นมะพร้าว ใส่ปุ๋ย ปลูกตะไคร้ มะนาว  มะม่วง ขนุน  ไม้ไผ่ ยาร่วง  กล้วย อ้อย   เลี้ยงไก่  เป็ดไว้กินข้าวเย็น  ตอนนี้ก็ค่อยเห็นผลผลิต  แต่เขาไม่คิดต้นทุน ทำไป ปรับปรุง ศึกษา วิธีการปลูก ปรับปรุงดิน เขาบอกทำเพื่อความ(ส)บายใจ ความชอบ ส่วนผลผลิตป้าเกี้ยวก็ช่วยนำไปแจกจ่ายญาติ ๆ เพื่อนบ้าน และเหลือก็ขาย เช่นมะนาวก็ออกลูกหลายต้น ร้านส้มตำสั่ง  1 โล 2 โล ตอนนี้ได้โลละ 70 วันก่อน 80 บาท   มะพร้าวมีพ่อค้ามาสอยเอง ล่าสุดได้ลูกละ  12 บาท ช่วงนี้พ่อบ้านอาสาสอยเอง ป้าเกี้ยวเอาไปขายร้านคั้นกะทิ ได้ลูกละ 15 บาท ครั้งละ  15  20 30 ลูก  ลูุกยาร่วงก็เป็นไม่มากปีนี้  เก็บมากิน  2 3 วัน ครั้งได้แบ่งไปให้ลุงแลงเลียง  ยำ  เหลือขายได้ 20 30  บาท เก็บตังค์ไว้เป็นซอง ๆ ค่ายาร่วง ค่ามะพร้าว ค่ามะนาว  บางครั้งก็เอามาหมุนเวียนซื้อของที่ต้องใช้ในสวน  

และที่คิดว่าผู้ใหญ่นี่มีบุญคุณกับชาว สมช. ไม่น้อย คือทุกคนได้แบ่งปันน้ำใจให้กัน ทั้งในด้านความรู้การเกษตร ท่องเที่ยว อาหาร และหลาย ๆ อย่าง  ตอนนี้ป้าเกี้ยวไปไหน ทำอะไรกิน ก็นึกถึง อยากแบ่งบัน  ต้องทำบล็อกแบ่งปันในบ้านสวนเสมอ   ขอบคุณผู้ใหญ่โสและทีมงานมาก  และให้บ้านสวนอยู่คู่เมืองไทยและดังไปทั่วโลกด้วยค่ะ

Low Tech แต่ใจรัก

เรื่องขอบคุณผู้ใหญ่โสเนี่ย ป้าเกี้ยวว่ามีบุญคุณต่อพวกเราน่ะ ใช่เลย เพราะการเปลี่ยนวิถีชีวิตตามที่ผู้ใหญ่โสนำทางมานั้น ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากมาย อย่างน้อยความสุขทางใจที่ได้รับจากเพื่อน พี่ น้องในที่นี้


แต่ก่อนนั้น ป้าเชื่อว่าหลายคนคิดเหมือนป้า ที่ได้แต่คิดๆๆๆๆ เก้ๆกังๆ เริ่มต้นไม่ถูกค่ะ ตอนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน คิดว่าการเริ่มต้นของเศรษฐกิจพอเพียงต้องเริ่มด้วยการซื้อที่ดินห้าไร่ สิบไร่ ซะก่อน แล้วถากถางลงทุนลงแรง แค่นั้นก็มึนตรึบสำหรับคนเมืองที่กินเงินเดือน เลยไม่กล้าขยับ


แต่มาวันนี้ เงินหมื่น ไม่มีความหมายอย่างพ่อใหญ่โสว่าจริงๆ ได้เงินค่าผักหลักสิบ กับได้แจกจ่ายให้คนใกล้ชิดกินของดีๆที่เราทำเอง มีความสุขที่สุดในโลก ... และป้ายังบอกตัวเองเลยว่า ต่อไปไม่อดตายแล้ว แม้ไม่มีเงินเดือน เพราะเราปลูกเอง หาเอง ทำเองได้ เมืองไทยนี้ดีหนักหนา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ปลูกผักตรงไหนก็ขึ้น แม้ไม่มีผืนดิน เรายังปลูกในกระสอบ บนปูนได้เลย... สุดยอดจริงๆพวกเรา....

หน้า