จุดอ่อน จุดแข็ง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

          งานฝึกอบรมผู้นำชุมชน ทำกันทุกปี ปีละหลายโครงการ มีอะไรดีขึ้นบ้าง ไม่ค่อยได้วัดผล งานในระบบราชการน่าเบื่อเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ แต่ก็พยายามทำ เท่าที่คนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทำได้



งานนี้ค่อนข้างถนัด ถอดความคิด ของผู้นำออกมาเป็นแผนผัง วิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง ถ้าคนเราสามารถวิเคราะห์ตนเองและชุมชนได้ การวางแผนจะทำอะไรก็จะง่ายขึ้น คนส่วนใหญ่จะรู้เขา แต่ไม่ค่อยรู้เรา(ไม่รู้จักตนเองดีพอ)



โดยส่วนตัวแล้ว เว็บนี้ จะช่วยสะท้อนให้เห็นจุดแข็งของตนเองค่อนข้างมาก เช่น ครั้งหนึ่งเห็นคุณแก้ว นำดินที่ไม่ค่อยดี ไปตาก จนแห้ง แล้วมาตำ จนละเอียด ก่อนจะไปผสมกับอาหารของพืช ก่อนการเพาะปลูก ทำให้ทราบว่าตนเอง มีจุดแข็งมาก ๆ ข้อหนึ่งคือ มีดินดีเหมาะแก่การเพาะปลูก และอีกหลาย ๆ อย่าง ที่ทำให้ทราบทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของตนเอง ท่านล่ะ...รู้สึกอย่างไร....ขอบคุณที่ติดตาม คิดถึงทุกคนค่ะ


 

ความเห็น

สำหรับพี่แล้ว แผนคือเครื่องมือการทำงาน เพียงแต่ความเป็นองค์กรทำให้เราต้องทำแผนเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ถ้าเป็นบุคคล หลายคนที่สำเร็จโดยการทำไปวางแผนไป ก้าวหน้าไปตามละดับ สำหรับชุมชนแล้วหน้าตาของแผนเป็นแบบไหนก็ได้ ให้ดูแล้วเข้าใจ จะเป็นแผนภาพ แผนผังก็ได้(ความเห็นส่วนตัว) แต่ผู้นำสมัยนี้เข้ามาเอาตำแหน่งอย่างเดียวก็มีให้เห็นเยอะแยะ

 พี่สร เปรี้ยวว่าถ้าเราทำ swot แล้วเอาผลจากการทำไปปฏิบัติตามแผนจริงจะเป็นประโยชน์ต่องานเรามากๆ อย่างน้อยเราก็พัฒนางานเราได้ถูกทางฉะนั้นแผนกลยุทธ์จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนางานอย่างยิ่ง

ในชีวิตประจำวันก็สามารถนำไปใช้ได้เหมือนกัน ส่วนใหญ่จะนำไปใช้โดยไม่รู้ตัว

อย่าลาออกเลยครับ เอาความรู้ความสามารถไปถ่ายทอดให้ชาวบ้าน จะได้ปรับพื้นฐานวิธีคิด ยกระดับชุมชนให้เข้มแข็ง จะได้มีภูมิคุ้มกันต่อโลกภายนอกครับ อุตส่าห์ทำswot แล้ว ต้องไปแนะนำชาวบ้านอีกอัน คือ พวก

พ : พึ่งพา พึ่งพิงได้, ว : ไว้วางใจ , ก : เกรงใจกัน ความรู้ถ่ายทอดกันได้ไม่รู้จบครับ การเรียนรู้ยังต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตเลย ใช่ป่าวครับ คุณสร

 

ชีวิตที่เพียงพอ ย่อมมาจากชีวิตที่พอเพียง

วิชาการกับการปฏิบัติจริง ยังไม่ค่อยสอดคล้องกันเลยค่ะคุณอ้วน สรเชื่อมั่นในภูมิปัญญาของชาวบ้านมากกว่านักวิชาการที่ยังไม่เคยลงมือปฏิบัติจริง แต่เจอเด็ด ๆ มาก็มาก ผู้นำบางคน นำวิชาการไปใช้ผสมผสานกับการปฏิบัติจริง จนประสบผลสำเร็จ จนสุดท้ายกลับเป็นวิทยากรให้นักวิชาการฟัง เยี่ยมมาก ๆ สนิทกันก็มีหลายคน

แลกวาไปประชุมแล้วกัน ว่าชุมชนเรามีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ต้องการให้แก้ไขอะไร  

เพราะชีวิต...คนเรา    เกิดมา....ไม่นาน ก็ต้องตาย
ต้องกลายเป็นความว่างเปล่า
Cr. เ่ท่าที่มี - กางเกง

มองจุดแข็งของตนเอง ชุมชน ให้ออก เพื่อพัฒนาตนเอง ไม่ใช่รอคอยความช่วยเหลืออย่างเดียว


มีหมู่บ้าน ๆ หนึ่ง ที่พี่คุ้นเคยดี ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว มีผู้นำ(ธรรมชาติ)ท่านหนึ่ง ได้เรี่ยไรเงินเพื่อซื้อที่ดิน ใกล้ ๆ กับศาลาประชุมหมู่บ้าน ปัจจุบัน หมู่บ้านนี้มีตลาดนัด มีรายได้จากการเช่าพื้นที่เดือนละหลายพันบาท มีรายได้จากการบริหารจัดการ ประปาหมู่บ้าน มีเครื่องเสียงให้เช่า สามารถจ้างเด็กมาทำงานบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ได้ 1 คน ผู้นำมีหลายฝ่าย แตกแยกกันทางความคิดกันไปบ้าง แต่แข่งขันกันทำงาน ในวันสำคัญ หมู่บ้านนี้จัดงานพิธีเอง มีชาวบ้านมาร่วมพอ ๆ กับที่ทางอำเภอจัด ฯลฯ

ยุคนี้ เป็นยุคของการวิเคราะห์ และวิจารณ์ เหมือนที่พี่สรบอกเปี๊ยบ พอทำเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้ปรับปรุงกันจริงจัง

อย่าว่าแต่ราชการเลยค่ะ  แม้แต่เอกชน ก็เหมือนกัน ถ้าองต์กรใหญ่หน่อย ปัญหาเดียวๆกันเลยค่ะ ไม่แตกต่าง

อยู่ตรงนี้ก็ดีแล้วค่ะ  ดีตรงที่ว่า  เรารู้ปัญหาแล้ว  ไปตรงไหนก็ไปเจอปัญหาใหม่อยู่ดีนะคะ


 

ใช่แล้วค่ะน้องแก้ว...แต่ถ้าคนเราได้มีโอกาส ได้ทำในสิ่งที่ชอบบ้าง เชื่อว่าเราจะสนุกกับการแก้ปัญหาใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน

key performance index ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ หรืออะไรสักอย่างนี้แหละ จำไม่ได้ครับ ก่อนออกจากงานทำมา สี่ปี พรีเซ้นเอง รวบรวมข้อมูลเองทุกอย่าง เอกชนที่มี kpi ถือว่าสุดยอดครับ ทำยากมาก ครับเป็นภาระคนเป็นลูกจ้างอย่างแท้จริง แต่วัดทุกระดับงานครับ (ปลูกกล้วยไข่ ตัดยาง รู้กะเขาด้วย) เว่อร์ไปหรือเปล่า พอดี ติดใจกับ ไอ้เจ้า KPI มาก ก่อนออกจากงาน แต่บ่นมานานไม่รู้ตัวเดียวกันหรือเปล่า 5555

เรียกไก่  ก็ได้ครับ(นาธารชื่อลูกชายครับ)

หน้า