อืมส์ จะลองเอาไปเพาะเองมั่งคงจะดีไม่ใช่น้อย อิอิ
.................
ที่ร้านแอ๊ป ขายโลละ25บาทค่ะ แต่ไม่รู้ว่าปลอดสารรึปล่าว เพราะรับเขามาอีกที^^
^^อยู่กับความสุขที่พอเพียง^^
ขอบคุณครับ น่าสนใจมาก แต่ทำทำน้อยๆ กินเอง+แบ่งคนอื่น เอากระป๋องเล็กๆ แทนได้ไหมครับ
โห มีตำรวจตรวจภาษาด้วย ต้องระวังแล้วเรา ขอบคุณครับ ผู้ใหญ่
ลืมขอบคุณความรู้ดีๆครับ
ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง
มีใครบ้างไม่รู้จักถั่วงอก โดยเฉพาะถั่วงอกที่ได้จากถั่วเขียว ซึ่งมา เกี่ยวข้องกับอาหารประจำวันของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นผัดถั่วงอก หรือ เกาเหลาก็ต้องใส่ถั่วงอกทั้งนั้น แต่การที่จะได้ถั่วงอกปลอดสารพิษร้อย เปอร์เซ็นต์ก็ต้องเพาะเองเพื่อใช้ในครัวเรือน ดังนั้น จึงขอชักชวนทุกคนมาทำ ถั่วงอกไว้รับประทานเอง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเขียวซึ่งมีวัตถุดิบ พร้อมอยู่แล้ว แต่จะลงมือเพาะต้องหาอุปกรณ์และความรู้เท่านั้น วัสดุและอุปกรณ์ 1. เมล็ดถั่วเขียวที่มีคุณภาพดี (พันธุ์กำแพงแสน2) 2. ภาชนะผิวเรียบทรงสูงตรง เช่น ขวดน้ำมันพืชขนาด 2 ลิตร โถ พลาสติกหรือกระป๋องพลาสติก ใช้ตะปูเผาไฟเจาะรูระบายน้ำให้มีขนาดเล็ก กว่าเมล็ดถั่วเขียวที่ก้นภาชนะประมาณ 10-15 รู 3. ถุงเพาะสีดำ (สำหรับเพาะต้นไม้) ขนาด 5x10 นิ้ว 4. ผ้าขนหนูผืนเล็ก 5. อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ถังแช่เมล็ด ขันน้ำ ฝักบัวหรือสายยาง 6. น้ำสะอาด เช่น น้ำประปา หรือน้ำบาดาลที่ทิ้งให้ตกตะกอนและ เย็น 7. สถานที่เพาะควรเป็นที่ร่มและเย็น วิธีการเพาะ 1. ใช้เมล็ดถั่วเขียวประมาณ 1 ถ้วยตวง แช่ในน้ำอุ่นอุณหภูมิประ- มาณ 55-60 องศาเซลเซียส ประมาณ 1/2-1 ชั่วโมง แล้วล้างเมล็ดถั่ว- เขียวให้สะอาด โดยล้างเอาสิ่งเจือปนต่างๆ และเมล็ดที่พองตัวออกเพราะจะ เป็นเมล็ดอ่อน เมล็ดที่ถูกแมลงทำลายและเมล็ดที่เสื่อมคุณภาพ ซึ่งเป็น สาเหตุให้ถั่วงอกเน่าเสียหายได้ หลังจากนั้นแช่น้ำต่อไปอีก 8-10 ชั่วโมง หรือ 1 คืน 2. วันรุ่งขึ้นล้างเมล็ดที่แช่น้ำแล้ว นำขึ้นมาผึ่งในตะแกรงสักครู่เมล็ด จะพองตัวขึ้นได้ประมาณ 2 ถ้วยตวง จากเมล็ดถั่วเขียวแห้ง 1 ถ้วยตวง ถ้า เพาะในขวดน้ำมันพืชใช้เมล็ดที่แช่น้ำแล้วประมาณ 1 ถ้วยตวงต่อขวด สามารถเพาะได้ประมาณ 2 ขวด ใส่เมล็ดในภาชนะเพาะปิดทับเมล็ดด้วยผ้า ขนหนู รดน้ำให้ชุ่มทุก 2-3 ชั่วโมง 3. ปิดคลุมภาชนะเพาะอีกครั้งด้วยถุงเพาะสีดำ เพื่อไม่ให้โดนแสง นำไปวางไว้ในร่มและเย็น 4. เมื่อเพาะถึงวันที่ 3 (ประมาณ 65-72 ชั่วโมง) นำมาล้างเอา เปลือกถั่วเขียวออกจะได้ถั่วงอกสำหรับบริโภค 1-2 มื้อ 5. ระยะเวลาในการเพาะถั่วงอกขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในช่วงเวลา ระหว่างการเพาะ เทคนิคในการเพาะถั่วงอก 1. การเลือกเมล็ดถั่วเขียว ควรเป็นเมล็ดที่มีคุณภาพดีไม่ใหม่หรือ เก่าเกินไป อายุการเก็บรักษาประมาณ 3-6 เดือน 2. ภาชนะเพาะถั่วงอก มีให้เลือกหลายแบบและหลายชนิด ขึ้นอยู่ กับวิธีการเพาะและการใช้วัสดุเพาะ แต่ที่เหมาะสำหรับการเพาะถั่วงอกควร เป็นภาชนะผิวเรียบทรงตรง หรือปากแคบเล็กน้อย เพื่อเป็นการจำกัดพื้นที่ ในการงอกของเมล็ดถั่วเขียวจะทำให้ถั่วงอกมีลักษณะอวบอ้วนมากขึ้นและ ภาชนะควรมีสีดำ หรือสีทึบเพื่อป้องกันแสงสว่าง และข้อสำคัญภาชนะต้อง สะอาดก่อนนำไปเพาะถั่วงอกทุกครั้ง 3. การเตรียมเมล็ดก่อนเพาะ การแช่เมล็ดก่อนเพาะเป็นการช่วย เร่งให้ระยะเวลาเพาะถั่วงอกเร็วขึ้น ในกรณีที่เพาะหลายครั้งแล้วถั่วงอกยัง เน่าอยู่ ไม่แน่ใจว่าเมล็ดมีเชื้อโรคติดมาหรือไม่ ให้แช่เมล็ดในน้ำคลอรีนก่อน โดยใช้คลอรีนผง 1/2-1 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 ลิตร แช่นาน 1 ชั่วโมง เพื่อล้าง เชื้อโรคที่ติดมากับเมล็ด หลังจากนั้นจึงแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 55-60 องศา- เซลเซียส อีกประมาณ 8-10 ชั่วโมง จุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ในชั่วโมง แรกของการแช่น้ำของเมล็ด จะมีเมล็ดบางส่วนพองตัวอย่างรวดเร็ว เมล็ด ลักษณะนี้จะเป็นเมล็ดอ่อน เมล็ดที่ถูกแมลงทำลาย และเมล็ดที่เสื่อม คุณภาพ ต้องล้างหรือเก็บออกให้หมด รวมทั้งเมล็ดแตกด้วย เพราะเมล็ด เหล่านี้จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถั่วงอกเน่า ดังนั้น การล้างเมล็ดในช่วงนี้ เพื่อจะช่วยให้เมล็ดถั่วเขียวมีความงอกสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น 4. น้ำ เป็นปัจจัยสำคัญต่อการงอกของเมล็ด ควรเป็นน้ำสะอาด เช่น น้ำประปาหรือถ้าเป็นน้ำบาดาลต้องปล่อยทิ้งให้เย็นและตกตะกอนก่อนนำมาใช้รดถั่วงอก การให้น้ำถั่วงอกนอกจากใช้ในการเจริญเติบโตแล้ว ยัง ใช้ในการระบายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการหายใจระหว่างการเจริญเติบโต ของต้นอ่อนภายในภาชนะด้วยการให้น้ำ ควรให้อย่างสม่ำเสมอ ทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง การให้น้ำแต่ละครั้งควรให้ในปริมาณที่มากพอ กล่าวคือให้จน กระทั่งน้ำที่ไหลออกมาทางก้นภาชนะเย็นเท่ากับน้ำที่รดให้ การให้น้ำเพียง เล็กน้อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถั่วงอกเน่าได้ เพราะเกิดการสะสมความ ร้อนในภาชนะ 5. ระยะเวลาในการเพาะถั่วงอก ถั่วงอกปกติจะใช้เวลาเพาะประ- มาณ 3-4 วัน (นับตั้งแต่เริ่มแช่เมล็ดถั่ว) การเพาะในฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิ ต่ำ อาจใช้เวลาในการเพาะมากกว่าฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 6. ลักษณะของถั่วงอก ในสภาพอากาศหนาว ถั่วงอกจะมีลักษณะ ค่อนข้างอ้วนรากสั้นกว่าถั่วงอกที่เพาะในสภาพอากาศร้อน การเพาะใน ภาชนะปากแคบจะทำให้ถั่วงอกมีลักษณะอวบอ้วนกว่าภาชนะปากกว้าง 7. การใช้สารเคมีกับถั่วงอก สารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย คือ สารส้ม และน้ำมะนาวที่ใช้แช่ถั่วงอก เพื่อช่วยให้ถั่วงอกกรอบ มีสีขาวไม่เขียว คล้ำ การเพาะถั่วงอกด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ ทำให้ได้ถั่วงอกปลอดสารพิษไว้ รับประทาน เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคและประหยัดค่าใช้จ่าย และหาก เพาะในปริมาณมาก จะสามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวได้เป็น อย่างดี
จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคำว่า "เพียง" และ "พอ"จากหัวใจ
อุปกรณ์ในการเพาะถั่วงอกไร้รากค่ะ ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะแต่ว่าหาถั่วเขียวพันธุ์กำแพงแสน 2 ไม่ได้จริงๆนักวิชาการท่านแนะนำว่าให้ไปซื้อที่ลพบุรี แต่อาจารย์นิมิตร์ เทียมมงคล ต้นตำรับการเพาะถั่วงอกไร้รากท่านแนะนำว่าให้ลองเพาะดูก่อนได้เลยใช้ถั่วยี่ห้อ..นี้ไปก่อนเพราะเป็นถั่วพันธุ์กำแพงแสน 2 ค่ะ กะละมังสีดำทรงสูงค่ะ เจาะรู ที่ก้นกะละมัง ตาข่ายพลาสติกค่ะ หาได้ไม่ยากค่ะ ร้านมุ้งลวดน่ะค่ะ ไปขอซื้อเขาได้ย้ำนะคะว่าต้องเป็นตาข่ายไนล่อนไม่เช่นนั้นจะเป็นสนิมค่ะ (แต่เอได้มาฟรีเจ้าของร้านใจดี ให้เศษๆตาข่ายมาค่ะมนุษย์สัมพันธ์ดีก็อย่างเงี๊ยะ ;D ;D) กระสอบป่านมาตัดเป็นรูปวงกลมเท่ากับก้นของกะละมังค่ะ เริ่มด้วยการนำถั่วเขี่ยวไปล้างแยกเมล็ดที่เสียออกแล้วน้ำมาแช่น้ำค่ะในอัตราส่วนน้ำเดือด 1 ส่วนน้ำเย็น 1 ส่วนค่ะ แช่ไว้เป็นเวลา 4 ชั่วโมงค่ะ ขั้นตอนแรกค่ะเอาตาข่ายวางที่ก้น
มาต่อๆกันค่ะ นี่คือหน้าตาถั่วเขียวที่แช่เตรียมไว้ค่ะ เอากระสอบวางบนตาข่ายแล้วเอาตาข่ายวางข้างบนอีกชั้นค่ะแล้วนำเมล็ดถั่วที่แช่ไว้มาวางค่ะแต่อย่าวางหนานะคะเพราะถั่วจะเน่าได้ ให้วางแค่ระดับถั่วเขียวเม็ดเดียวค่ะ เกลี่ยๆให้เสมอกันค่ะทำเช่นนี้ค่ะให้ได้ซัก 5 ชั้นค่ะแล้วเอากระสอบวางปิดด้านบนค่ะแล้วเอากะละมังปิดไว้อีกที่โดยจะรดน้ำทุกๆ 3 ชั่วโมงค่ะยิ่งอุณภูมิต่ำๆถั่วงอกจะยิ่ง อวบๆเดี๋ยวเราจะมาดูหน้าตาถั่วงอกในอายุสองวันกันค่ะ พอรดน้ำไปได้ซัก 2 วันจะได้ถั่วงอกหน้าตาแบบนี้ค่ะ ขาวๆกลมๆอวบๆที่จริง โตขนาดนี้เราก็สามารถนำมาปรุงอาหารได้แล้วค่ะ แต่รูปชุดนี้เอถ่ายในการเพาะครั้งแรก(ตื่นเต้นๆๆ :o :o)เอเลยปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึงเช้าวันที่ 4 เอถึงมาตัดค่ะ วิธีการตัดรากถั่วงอกก็แสนจะสะดวกค่ะ เพาะเรามีตาข่ายช่วยยึดยากถั่วงอกไว้แล้วเราแค่เพียงนำมีดมาตัดๆๆๆถั่วงอกออกค่ะ (ถ้าเราจะสอนให้เด็กๆทำในการตัดถั่วงอกควรเป็นหน้าที่ของเด็กโตค่ะ เพื่อความปลอดภัยเซพตี้เฟืร์ส)
อีกรูปเพื่อความชัดเจน อย่างที่บอกข้างต้นแล้วว่าล๊อตนี้เอใช้เวลาในการเพาะนานไปถั่วเลยสูงเพรียว แต่ขาว และปลอดภัยนะคะ มาค่ะ เตรียม หมูสับ เต้าหู้ ต้นหอม เครื่องปรุง ไว้รอได้แล้วพร้อมที่จะแปลงร่างเป็น มังกรลุยไฟ(ผัดถั่วงอกไฟแดง) แล้วค่ะ
วันนี้ได้ถือโอกาสเพาะถั่วงอกแบบต่างๆ จะเห็นได้ว่าเราสามารถประยุกต์วัสดุใกล้ตัวมาเป็นภาชนะสำหรับเพาะถั่วงอกแบบปลอดสารค่ะ แบบแรกเอจะเพาะในกระถางดินเผาค่ะ ถั่วเขียวพันธุ์กำแพงแสน ๒ นำมาล้างและคัดแยกเมล็ดที่เสียออกค่ะ นำมาแช่น้ำเดือดเป็นเวลา ๔ ชั่วโมงค่ะ มาเตรียมภาชนะสำหรับเพาะค่ะ ตัดใบตองมา ๑ ก้าน เอาใบตองมาลองก้นกระถางดินเผาค่ะ ฉีกความกว้างประมาณ ๕ - ๖ นิ้ว ซ้อนกันประมาณ ๗ ชั้น นำถั่วเขียวที่แช่ไว้นำมาวางบนใบตองค่ะ เอใช้ถั่วเขียวประมาณ ๒ ขีดค่ะ นำใบตองฉีกขนาดเท่ากับข้างต้น และ นำไปซ้อนวางปิดถั่วเขียวค่ะ นำไม้ไผ่มาวางขัดเป็นรูปดาวแฉกค่ะ นำกระถางไปแช่น้ำค่ะ ในอ่างหรือโอ่งที่มีพอให้น้ำท่วมใบตอง นำกระถางมาคว่ำค่ะและ วางไว้ในที่ร่ม นำกระถางมาแช่น้ำเหมือนวิธีข้างต้นทุก ๆ ๔ ชั่วโมงค่ะ พอครบ ๓ วัน เอาใบตองออกนำถั่วงอกไปประกอบอาหาร และ นำไม้ และ กระถางมาล้างน้ำสะอาด ตากแดดให้แห้ง เพื่อเก็บไว้เพาะถั่วงอกในครั้งต่อไป
มาถึงการเพาะถั่วงอกในขวดโหลบ้างค่ะ เราอาจจะใช้ขวดกาแฟ โอวัลตินได้ค่ะ แต่ขวดโอวัลตินเอไม่ว่างใส่น้ำตาล เอเลยใช้ขวดใส่น้ำแทนเริ่มจากเอาถั่วเขียวที่เราแช่น้ำไว้มาใส่ขวดโหลที่เตรียมไว้ค่ะและใช้ผ้าตาข่ายบางๆหรือผ้าขาวบางมาปิดที่ปากขวดและรัดปากขวดให้เรียบร้อย นำซองเอกสาร หรือ ถุงกระดาษ ถ้าไม่มีก็เอากระดาษหนังสือพิมพ์ก็ได้ค่ะ มาห่อไว้เพื่อไม่ให้แสงสว่างเข้าไปที่ถั่วค่ะ เราจะรดน้ำทุกๆ ๔ ชั่วโมงโดยการเปิดน้ำก๊อกใส่ที่ปากขวดค่ะไม่ต้องแกะผ้าออกเมื่อน้ำเต็มโหลเราก็เทน้ำออกค่ะและนำถุงกระดาษมาห่อดังเดิม ทำเช่นนี้ ครบ ๓ วันเราจะได้ถั่วงอกปลอดสารพิษไว้สำหรับปรุงอาหาร สำหรับ ๑ จานละค่ะสำหรับท่านที่ไม่มีเวลารดน้ำตลอด ก่อนออกไปทำงานให้รดน้ำถั่วก่อนค่ะและนำโหลถั่วงอกไปแช่ในตู้เย็นค่ะจะช่วยคุมความชื้นได้ค่ะ แต่ ถั่วที่ได้จะไม่อวบอ้วนสมบูรณ์เท่าที่ควรค่ะ แต่เป็นวิธีแก้ปัญหาได้ดีค่ะ
There are currently 0 users online.
อืมส์ จะลองเอาไปเพาะเองมั่งคงจะดีไม่ใช่น้อย อิอิ
.................
ที่ร้านแอ๊ป ขายโลละ25บาทค่ะ แต่ไม่รู้ว่าปลอดสารรึปล่าว เพราะรับเขามาอีกที^^
^^อยู่กับความสุขที่พอเพียง^^
ขอบคุณครับ น่าสนใจมาก แต่ทำทำน้อยๆ กินเอง+แบ่งคนอื่น เอากระป๋องเล็กๆ แทนได้ไหมครับ
โห มีตำรวจตรวจภาษาด้วย ต้องระวังแล้วเรา ขอบคุณครับ ผู้ใหญ่
ลืมขอบคุณความรู้ดีๆครับ
ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง
มีใครบ้างไม่รู้จักถั่วงอก โดยเฉพาะถั่วงอกที่ได้จากถั่วเขียว ซึ่งมา เกี่ยวข้องกับอาหารประจำวันของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นผัดถั่วงอก หรือ เกาเหลาก็ต้องใส่ถั่วงอกทั้งนั้น แต่การที่จะได้ถั่วงอกปลอดสารพิษร้อย เปอร์เซ็นต์ก็ต้องเพาะเองเพื่อใช้ในครัวเรือน ดังนั้น จึงขอชักชวนทุกคนมาทำ ถั่วงอกไว้รับประทานเอง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเขียวซึ่งมีวัตถุดิบ พร้อมอยู่แล้ว แต่จะลงมือเพาะต้องหาอุปกรณ์และความรู้เท่านั้น
วัสดุและอุปกรณ์
1. เมล็ดถั่วเขียวที่มีคุณภาพดี (พันธุ์กำแพงแสน2)
2. ภาชนะผิวเรียบทรงสูงตรง เช่น ขวดน้ำมันพืชขนาด 2 ลิตร โถ พลาสติกหรือกระป๋องพลาสติก ใช้ตะปูเผาไฟเจาะรูระบายน้ำให้มีขนาดเล็ก กว่าเมล็ดถั่วเขียวที่ก้นภาชนะประมาณ 10-15 รู
3. ถุงเพาะสีดำ (สำหรับเพาะต้นไม้) ขนาด 5x10 นิ้ว
4. ผ้าขนหนูผืนเล็ก
5. อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ถังแช่เมล็ด ขันน้ำ ฝักบัวหรือสายยาง
6. น้ำสะอาด เช่น น้ำประปา หรือน้ำบาดาลที่ทิ้งให้ตกตะกอนและ เย็น
7. สถานที่เพาะควรเป็นที่ร่มและเย็น
วิธีการเพาะ
1. ใช้เมล็ดถั่วเขียวประมาณ 1 ถ้วยตวง แช่ในน้ำอุ่นอุณหภูมิประ- มาณ 55-60 องศาเซลเซียส ประมาณ 1/2-1 ชั่วโมง แล้วล้างเมล็ดถั่ว- เขียวให้สะอาด โดยล้างเอาสิ่งเจือปนต่างๆ และเมล็ดที่พองตัวออกเพราะจะ เป็นเมล็ดอ่อน เมล็ดที่ถูกแมลงทำลายและเมล็ดที่เสื่อมคุณภาพ ซึ่งเป็น สาเหตุให้ถั่วงอกเน่าเสียหายได้ หลังจากนั้นแช่น้ำต่อไปอีก 8-10 ชั่วโมง หรือ 1 คืน
2. วันรุ่งขึ้นล้างเมล็ดที่แช่น้ำแล้ว นำขึ้นมาผึ่งในตะแกรงสักครู่เมล็ด จะพองตัวขึ้นได้ประมาณ 2 ถ้วยตวง จากเมล็ดถั่วเขียวแห้ง 1 ถ้วยตวง ถ้า เพาะในขวดน้ำมันพืชใช้เมล็ดที่แช่น้ำแล้วประมาณ 1 ถ้วยตวงต่อขวด สามารถเพาะได้ประมาณ 2 ขวด ใส่เมล็ดในภาชนะเพาะปิดทับเมล็ดด้วยผ้า ขนหนู รดน้ำให้ชุ่มทุก 2-3 ชั่วโมง
3. ปิดคลุมภาชนะเพาะอีกครั้งด้วยถุงเพาะสีดำ เพื่อไม่ให้โดนแสง นำไปวางไว้ในร่มและเย็น
4. เมื่อเพาะถึงวันที่ 3 (ประมาณ 65-72 ชั่วโมง) นำมาล้างเอา เปลือกถั่วเขียวออกจะได้ถั่วงอกสำหรับบริโภค 1-2 มื้อ 5. ระยะเวลาในการเพาะถั่วงอกขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในช่วงเวลา ระหว่างการเพาะ
เทคนิคในการเพาะถั่วงอก
1. การเลือกเมล็ดถั่วเขียว ควรเป็นเมล็ดที่มีคุณภาพดีไม่ใหม่หรือ เก่าเกินไป อายุการเก็บรักษาประมาณ 3-6 เดือน
2. ภาชนะเพาะถั่วงอก มีให้เลือกหลายแบบและหลายชนิด ขึ้นอยู่ กับวิธีการเพาะและการใช้วัสดุเพาะ แต่ที่เหมาะสำหรับการเพาะถั่วงอกควร เป็นภาชนะผิวเรียบทรงตรง หรือปากแคบเล็กน้อย เพื่อเป็นการจำกัดพื้นที่ ในการงอกของเมล็ดถั่วเขียวจะทำให้ถั่วงอกมีลักษณะอวบอ้วนมากขึ้นและ ภาชนะควรมีสีดำ หรือสีทึบเพื่อป้องกันแสงสว่าง และข้อสำคัญภาชนะต้อง สะอาดก่อนนำไปเพาะถั่วงอกทุกครั้ง
3. การเตรียมเมล็ดก่อนเพาะ การแช่เมล็ดก่อนเพาะเป็นการช่วย เร่งให้ระยะเวลาเพาะถั่วงอกเร็วขึ้น ในกรณีที่เพาะหลายครั้งแล้วถั่วงอกยัง เน่าอยู่ ไม่แน่ใจว่าเมล็ดมีเชื้อโรคติดมาหรือไม่ ให้แช่เมล็ดในน้ำคลอรีนก่อน โดยใช้คลอรีนผง 1/2-1 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 ลิตร แช่นาน 1 ชั่วโมง เพื่อล้าง เชื้อโรคที่ติดมากับเมล็ด หลังจากนั้นจึงแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 55-60 องศา- เซลเซียส อีกประมาณ 8-10 ชั่วโมง จุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ในชั่วโมง แรกของการแช่น้ำของเมล็ด จะมีเมล็ดบางส่วนพองตัวอย่างรวดเร็ว เมล็ด ลักษณะนี้จะเป็นเมล็ดอ่อน เมล็ดที่ถูกแมลงทำลาย และเมล็ดที่เสื่อม คุณภาพ ต้องล้างหรือเก็บออกให้หมด รวมทั้งเมล็ดแตกด้วย เพราะเมล็ด เหล่านี้จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถั่วงอกเน่า ดังนั้น การล้างเมล็ดในช่วงนี้ เพื่อจะช่วยให้เมล็ดถั่วเขียวมีความงอกสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น
4. น้ำ เป็นปัจจัยสำคัญต่อการงอกของเมล็ด ควรเป็นน้ำสะอาด เช่น น้ำประปาหรือถ้าเป็นน้ำบาดาลต้องปล่อยทิ้งให้เย็นและตกตะกอนก่อนนำมาใช้รดถั่วงอก การให้น้ำถั่วงอกนอกจากใช้ในการเจริญเติบโตแล้ว ยัง ใช้ในการระบายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการหายใจระหว่างการเจริญเติบโต ของต้นอ่อนภายในภาชนะด้วยการให้น้ำ ควรให้อย่างสม่ำเสมอ ทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง การให้น้ำแต่ละครั้งควรให้ในปริมาณที่มากพอ กล่าวคือให้จน กระทั่งน้ำที่ไหลออกมาทางก้นภาชนะเย็นเท่ากับน้ำที่รดให้ การให้น้ำเพียง เล็กน้อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถั่วงอกเน่าได้ เพราะเกิดการสะสมความ ร้อนในภาชนะ
5. ระยะเวลาในการเพาะถั่วงอก ถั่วงอกปกติจะใช้เวลาเพาะประ- มาณ 3-4 วัน (นับตั้งแต่เริ่มแช่เมล็ดถั่ว) การเพาะในฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิ ต่ำ อาจใช้เวลาในการเพาะมากกว่าฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า
6. ลักษณะของถั่วงอก ในสภาพอากาศหนาว ถั่วงอกจะมีลักษณะ ค่อนข้างอ้วนรากสั้นกว่าถั่วงอกที่เพาะในสภาพอากาศร้อน การเพาะใน ภาชนะปากแคบจะทำให้ถั่วงอกมีลักษณะอวบอ้วนกว่าภาชนะปากกว้าง
7. การใช้สารเคมีกับถั่วงอก สารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย คือ สารส้ม และน้ำมะนาวที่ใช้แช่ถั่วงอก เพื่อช่วยให้ถั่วงอกกรอบ มีสีขาวไม่เขียว คล้ำ การเพาะถั่วงอกด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ ทำให้ได้ถั่วงอกปลอดสารพิษไว้ รับประทาน เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคและประหยัดค่าใช้จ่าย และหาก เพาะในปริมาณมาก จะสามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวได้เป็น อย่างดี
จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคำว่า "เพียง" และ "พอ"จากหัวใจ
อุปกรณ์ในการเพาะถั่วงอกไร้รากค่ะ
ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะแต่ว่าหาถั่วเขียวพันธุ์กำแพงแสน 2 ไม่ได้จริงๆนักวิชาการท่านแนะนำว่าให้ไปซื้อที่ลพบุรี แต่อาจารย์นิมิตร์ เทียมมงคล ต้นตำรับการเพาะถั่วงอกไร้รากท่านแนะนำว่าให้ลองเพาะดูก่อนได้เลยใช้ถั่วยี่ห้อ..นี้ไปก่อนเพราะเป็นถั่วพันธุ์กำแพงแสน 2 ค่ะ
กะละมังสีดำทรงสูงค่ะ เจาะรู ที่ก้นกะละมัง
ตาข่ายพลาสติกค่ะ หาได้ไม่ยากค่ะ ร้านมุ้งลวดน่ะค่ะ ไปขอซื้อเขาได้ย้ำนะคะว่าต้องเป็นตาข่ายไนล่อนไม่เช่นนั้นจะเป็นสนิมค่ะ
(แต่เอได้มาฟรีเจ้าของร้านใจดี ให้เศษๆตาข่ายมาค่ะมนุษย์สัมพันธ์ดีก็อย่างเงี๊ยะ ;D ;D)
กระสอบป่านมาตัดเป็นรูปวงกลมเท่ากับก้นของกะละมังค่ะ
เริ่มด้วยการนำถั่วเขี่ยวไปล้างแยกเมล็ดที่เสียออกแล้วน้ำมาแช่น้ำค่ะในอัตราส่วนน้ำเดือด 1 ส่วนน้ำเย็น 1 ส่วนค่ะ แช่ไว้เป็นเวลา 4 ชั่วโมงค่ะ
ขั้นตอนแรกค่ะเอาตาข่ายวางที่ก้น
จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคำว่า "เพียง" และ "พอ"จากหัวใจ
มาต่อๆกันค่ะ
นี่คือหน้าตาถั่วเขียวที่แช่เตรียมไว้ค่ะ
เอากระสอบวางบนตาข่ายแล้วเอาตาข่ายวางข้างบนอีกชั้นค่ะแล้วนำเมล็ดถั่วที่แช่ไว้มาวางค่ะแต่อย่าวางหนานะคะเพราะถั่วจะเน่าได้
ให้วางแค่ระดับถั่วเขียวเม็ดเดียวค่ะ เกลี่ยๆให้เสมอกันค่ะทำเช่นนี้ค่ะให้ได้ซัก 5 ชั้นค่ะแล้วเอากระสอบวางปิดด้านบนค่ะแล้วเอากะละมังปิดไว้อีกที่โดยจะรดน้ำทุกๆ 3 ชั่วโมงค่ะยิ่งอุณภูมิต่ำๆถั่วงอกจะยิ่ง อวบๆเดี๋ยวเราจะมาดูหน้าตาถั่วงอกในอายุสองวันกันค่ะ
พอรดน้ำไปได้ซัก 2 วันจะได้ถั่วงอกหน้าตาแบบนี้ค่ะ ขาวๆกลมๆอวบๆที่จริง โตขนาดนี้เราก็สามารถนำมาปรุงอาหารได้แล้วค่ะ
แต่รูปชุดนี้เอถ่ายในการเพาะครั้งแรก(ตื่นเต้นๆๆ :o :o)เอเลยปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึงเช้าวันที่ 4 เอถึงมาตัดค่ะ
วิธีการตัดรากถั่วงอกก็แสนจะสะดวกค่ะ เพาะเรามีตาข่ายช่วยยึดยากถั่วงอกไว้แล้วเราแค่เพียงนำมีดมาตัดๆๆๆถั่วงอกออกค่ะ
(ถ้าเราจะสอนให้เด็กๆทำในการตัดถั่วงอกควรเป็นหน้าที่ของเด็กโตค่ะ เพื่อความปลอดภัยเซพตี้เฟืร์ส)
จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคำว่า "เพียง" และ "พอ"จากหัวใจ
อีกรูปเพื่อความชัดเจน อย่างที่บอกข้างต้นแล้วว่าล๊อตนี้เอใช้เวลาในการเพาะนานไปถั่วเลยสูงเพรียว แต่ขาว และปลอดภัยนะคะ
มาค่ะ เตรียม หมูสับ เต้าหู้ ต้นหอม เครื่องปรุง ไว้รอได้แล้วพร้อมที่จะแปลงร่างเป็น มังกรลุยไฟ(ผัดถั่วงอกไฟแดง) แล้วค่ะ
จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคำว่า "เพียง" และ "พอ"จากหัวใจ
วันนี้ได้ถือโอกาสเพาะถั่วงอกแบบต่างๆ จะเห็นได้ว่าเราสามารถประยุกต์วัสดุใกล้ตัวมาเป็นภาชนะสำหรับเพาะถั่วงอกแบบปลอดสารค่ะ แบบแรกเอจะเพาะในกระถางดินเผาค่ะ
ถั่วเขียวพันธุ์กำแพงแสน ๒
นำมาล้างและคัดแยกเมล็ดที่เสียออกค่ะ
นำมาแช่น้ำเดือดเป็นเวลา ๔ ชั่วโมงค่ะ
มาเตรียมภาชนะสำหรับเพาะค่ะ
ตัดใบตองมา ๑ ก้าน
เอาใบตองมาลองก้นกระถางดินเผาค่ะ ฉีกความกว้างประมาณ ๕ - ๖ นิ้ว ซ้อนกันประมาณ ๗ ชั้น
นำถั่วเขียวที่แช่ไว้นำมาวางบนใบตองค่ะ เอใช้ถั่วเขียวประมาณ ๒ ขีดค่ะ
นำใบตองฉีกขนาดเท่ากับข้างต้น และ นำไปซ้อนวางปิดถั่วเขียวค่ะ
นำไม้ไผ่มาวางขัดเป็นรูปดาวแฉกค่ะ
นำกระถางไปแช่น้ำค่ะ ในอ่างหรือโอ่งที่มีพอให้น้ำท่วมใบตอง
นำกระถางมาคว่ำค่ะและ วางไว้ในที่ร่ม นำกระถางมาแช่น้ำเหมือนวิธีข้างต้นทุก ๆ ๔ ชั่วโมงค่ะ พอครบ ๓ วัน เอาใบตองออกนำถั่วงอกไปประกอบอาหาร และ นำไม้ และ กระถางมาล้างน้ำสะอาด ตากแดดให้แห้ง เพื่อเก็บไว้เพาะถั่วงอกในครั้งต่อไป
จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคำว่า "เพียง" และ "พอ"จากหัวใจ
มาถึงการเพาะถั่วงอกในขวดโหลบ้างค่ะ เราอาจจะใช้ขวดกาแฟ โอวัลตินได้ค่ะ แต่ขวดโอวัลตินเอไม่ว่างใส่น้ำตาล
เอเลยใช้ขวดใส่น้ำแทนเริ่มจากเอาถั่วเขียวที่เราแช่น้ำไว้มาใส่ขวดโหลที่เตรียมไว้ค่ะและใช้ผ้าตาข่ายบางๆหรือผ้าขาวบางมาปิดที่ปากขวดและรัดปากขวดให้เรียบร้อย
นำซองเอกสาร หรือ ถุงกระดาษ ถ้าไม่มีก็เอากระดาษหนังสือพิมพ์ก็ได้ค่ะ มาห่อไว้เพื่อไม่ให้แสงสว่างเข้าไปที่ถั่วค่ะ เราจะรดน้ำทุกๆ ๔ ชั่วโมงโดยการเปิดน้ำก๊อกใส่ที่ปากขวดค่ะไม่ต้องแกะผ้าออกเมื่อน้ำเต็มโหลเราก็เทน้ำออกค่ะและนำถุงกระดาษมาห่อดังเดิม ทำเช่นนี้ ครบ ๓ วันเราจะได้ถั่วงอกปลอดสารพิษไว้สำหรับปรุงอาหาร สำหรับ ๑ จานละค่ะสำหรับท่านที่ไม่มีเวลารดน้ำตลอด ก่อนออกไปทำงานให้รดน้ำถั่วก่อนค่ะและนำโหลถั่วงอกไปแช่ในตู้เย็นค่ะจะช่วยคุมความชื้นได้ค่ะ แต่ ถั่วที่ได้จะไม่อวบอ้วนสมบูรณ์เท่าที่ควรค่ะ แต่เป็นวิธีแก้ปัญหาได้ดีค่ะ
จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคำว่า "เพียง" และ "พอ"จากหัวใจ
หน้า