พานไหว้ครู

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันที่  17 มิถุนายน 2553  ที่วิทยาลัย  จัดพิธีไหว้ครู  ประจำปี  ก็เลย  เอารูป  พานไหว้ครูมาให้ชม เผือว่าเป็นประโยชน์บ้าง

 

 

 

 

อันนี้ขอถาม  ดอกอะไร  เขาเสียบมากับพานดอกไม้  น่าจะปักขึ้น  ก็เลย  ให้เด็กเก็บมาให้ทั้งหมดเลย

นี่ค่ะใบ   ใครรู้จัก  เข้ามาบอกให้หน่อย

ความเห็น

ถ้าหนุ่มบ้านสวนฯถ่ายคงเน้นสาวๆๆๆๆข้างบน อิอิอิอิอิอิอิอิอิ

เห็ฯพานที่น้องๆ ทำกันแล้ว สวยมาก  เทียบกันตัวเองตอนเด็กๆแล้วไม่เห็นฝุ่นเลยอ่ะ  ฝากชมด้วยจ้า(โดยเฉพาะน้องกลุ่มที่ใช้ใบตอง)

ฉันจะปลูก ผัก ให้ลูกทาน

ไม่ได้บอกว่า  จะพรีเซนต์คนถือพาน    พานพวกนี้ ส่วนใหญ่  จ้างร้านจัดดอกไม้ทั้งนั้นเลย

พิธีไหว้ครู สมัยเด็ก ๆ ได้เป็นตัวแทนเพื่อน ๆ ขึ้นไปไหว้ครูทุกปี แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ไหว้ครูเลย พานไหว้ครูดูสวยดีค่ะ เด็ก ๆ คงตั้งใจทำเต็มที่เพื่อคุณครูที่รักใช่ไหมค่ะ

ทุกวินาทีมีค่า ถ้าเรามีความหวังเราจะไม่เคยพ่ายแพ้

พานสวยค่ะป้าเล็ก

ดอกไม้ชื่อพุดซ้อนค่ะ ที่บ้านแม่มีต้นใหญ่มาก แม่บอกว่ามีตั้งแต่แม่เล็กๆ  ฝรั่งเรียกดอก Gardenia เหมือนชื่อหนมปังเลย

เพื่อนดวงที่อยู่เหนือเรียก เก็ดถะหวา หรือ อินถะหวา -อินทวา เขาว่าเป็นชื่อเจ้าหญิงทางเหนือในตำนาน

พุดซ้อนชอบแดดจัด ดอกดก ดวงมีอยู่ต้นนึงหลังบ้านแต่ไม่ได้แดด ปีนี้เลยเพิ่งมีดอกเดียว

แถวบ้านมี ปลูกกันมานานแล้วสมัยคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายค่ะ

ดอกหอมม๊ากมากค่ะ

Smileเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง

อือ  หอมดี   ชอบก็เลย  จะลองปักชำ

ตอนแรก บอกว่าเป็นเจ้าหญิงทางเหนือ แต่ไปค้นมาไม่ใช่ลองอ่านกันดูค่ะ

 

เจ้าเมืองเชียงสมเชียงสา มีพระธิดาทรงพระสิริโฉมนามว่า "นางอินถวา" มีเมตตาธรรมต่อสัตว์ทุกชนิด จนได้สมญานามว่า "นางคำบาง" ช่วงวัยเด็กทรงได้ลูกจระเข้มาเลี้ยงไว้ตัวหนึ่ง เมื่อพระธิดาเจริญวัยเป็นสาว จระเข้ก็เติบใหญ่เป็นพญากุมภีล์และถูกนำมาปล่อยไว้ที่สระน้ำท้ายวัง ทุกวันหลังจากให้อาหารแก่จระเข้แล้ว พระธิดาจะนั่งบนหลังจระเข้เพื่อไปเก็บดอกบัวมาบูชาพระ วันหนึ่งได้เกิดอุบัติเหตุ พระธิดาทำหวี ตกลงไปในน้ำ จึงรีบไขว่คว้าเอาหวีจึงเสียหลักและตกลงน้ำไป พระธิดากำลังจะจมน้ำตายเพราะว่ายน้ำไม่เป็น จระเข้จึงรีบเข้ามาช่วยโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ใช้ปากคาบร่างพระธิดาไว้ ธรรมชาติของจระเข้มีขากรรไกรด้านบนเพียงด้านเดียว เมื่อคาบสิ่งใดไว้ต้องกลืนลงท้องก่อนจึงอ้าปากได้ ร่างของพระธิดาจึงถูกจระเข้กลืนลงท้องตามธรรมชาติของมัน ด้วยความกลัวอาญาแผ่นดิน จระเข้จึงหนีไปกบดานในหนองน้ำกลางป่าใหญ่ เจ้าเมืองเข้าใจผิดจึงให้หมอจระเข้สามคนตามล่า หมอจระเข้สองคนถูกจระเข้กินตายเรียบ ส่วนหมอคนที่สามเป็นผู้หญิงใช้สติปัญญาเข้าช่วยและปราบจระเข้ได้สำเร็จ ต่อมาเจ้าเมืองทราบความจริง จึงนำซากจระเข้และศพหมอจระเข้ทั้งสองคนไปบำเพ็ญกุศลและตั้งชื่อหนองน้ำแห่ง นี้ว่า "วังสามหมอ" ส่วนพระศพพระธิดานำไปฝังไว้ข้างวัง ต่อมาได้เกิดเป็นต้นไม้ออกดอกสีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอม ชาวบ้านจึงเรียกดอกไม้นี้ตามนามพระธิดาว่า "ดอกอินถวา" เมื่อดอกไม้นี้ขยายพันธุ์ไปยังภาคกลางและภาคอื่นๆ เรียกว่า "ดอกพุดซ้อน" ต่อมามีฝรั่งเข้ามาค้าขายในเมืองไทย ได้นำดอกไม้นี้ไปปลูกแพร่หลายทางยุโรปเรียกว่า "ดอกการ์ดิเนีย" ปัจจุบันวังสามหมอเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี

แล้วจะสู้กับหนอน  ได้มั้ย  กลัวสุดๆ  หนอนตัวโตๆ  ตากลมๆ  บางทีก็มีหางด้วย  

ที่โรงเรียนลูกชาย(ราชวินิต)ก็ไหว้ครูเมื่อวาน  แต่ให้นักเรียนเอาต้นไม้อะไรก็ได้ไปให้คุณครูคนละต้นปลูกแทนดอกไม้ธูกเทียน บอกว่าจะได้ให้โลกเขียวขึ้น  บอกช่วยกันคนละต้น

ดีจังนะ    ผอ.ทันสมัย

หน้า