หัดทำไวน์คาวตอง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

นี่เป็นครั้งแรกที่หัดทำไวน์จากผัก "คาวตอง" ค่ะ รสชาติออกมาไม่เลวทีเดียว
ด้วยเป็นคนที่ชอบซอกแซกค้นหาข้อมูลอยู่เรื่อยๆ  ทดลองทำโน่น นี่ นั่นไปเรื่อยเปื่อย ผิด ถูกก็ชั่งมัน ผิดก็ลองใหม่ แต่การที่เราลองผิดลองถูก บางครั้งมันก็ทำให้เราเสียเวลา บางครั้งก็เสี่ยงและเป็นอันตรายเกินไป แต่ก็อย่ากลัวจนลืมที่จะศึกษา

ทดลองทำไวน์จาก คาวตอง ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนแล้วค่ะ นี่ก็ประมาณ 6 เดือนได้แล้วค่ะ แต่รสชาติยังมีกลิ่นหอมเหมือนเดิม วิธีการทำนั้น อ๊อดก็ดัดแปลงวิธีทำมาจากฝรั่ง ซึ้งเขาใช้ผักทำ แล้วเขาก็ผสมผลไม้แห้งจากธรรมชาติ เช่น องุ่น แอปเปิ้ล ลูกพรัม อะไรประมาณนั้นค่ะ เพราะผลไม้พวกนี้จะมีความหวานสูง ซึ้งเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ เวลาเราหมักไวน์ ก็จะช่วยลดปริมาณน้ำตาลลง
************

เห็นฝรั่งเขาใช้ ซูกินี่ไวน์ ผสมกับแอปเปิ้ล  เพื่อทำไวน์ขาว อ๊อดก็เลยทดลองบ้าง คือเอา "คาวตอง" มาผสมกับลูกเกด ดูซิว่ามันจะออกมาเป็นอะไร ถ้าดื่มไม่ได้ก็เททิ้ง เพราะไม่ค่อยทำไวน์ขาวเท่าไหร่ เคยแต่ทำไวน์สีจากผลไม้อื่นๆที่มีสีเข้ม เช่น แก้วมังกร บลูเบอร์รี่ องุ่นดำ แบล๊คเบอร์รี่ อะไรประมาณนั้น คิดว่า หาอะไรทำกระตุ้นสมองดูสักนิด
************

"คาวตอง" เท่าที่เห็นค่ะ ใช้ไม่เยอะ ล้างให้สะอาด ผึ่งให้น้ำหยดสนิท ที่เลือกผักชนิดนี้เพราะว่า คาวตองอ๊อดกกินสดไม่ได้ค่ะ "อ้วก" เลย ฮี้ๆๆๆ เหม็นคาวสมชื่อจริงๆ
********

น้ำแร่สะอาด 1 ขวดครึ่ง
*********

ใส่ลูกเกดและใบคาวตองลงหม้อ ต้มให้เดือด ด้วยไฟอ่อนๆ ต้มจนกว่าความหวานจากลูกเกิดจะออกมาเยอะมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
******

เมื่อต้มได้ที่แล้ว ก็ใช้กระชอน และผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำแยกกากออก (อย่าลิมเอากากไปทำปุ๋ย)
*********

จะได้น้ำผักที่ต้มจากคาวตอง และลูกเกดแบบนี้ค่ะ เขียวๆ เหลืองๆ หอมๆ
*******

แล้วก็มาเตรียมยีสต์ โดยการใช้น้ำอุ่นๆผสมน้ำผึ้งให้หวานๆหน่อย แล้วตักยีสต์ใส่ลงไปประมาณ ครึ่งช้อนชา (การเตรียมยีสต์แต่ละครั้งขึ้นอยู่กับยี่ห้อของยีสต์ว่าใช้ยีสต์ยี่ห้ออะไร แต่ละยี่ห้อจะมีขั้นตอนการเตรียมไม่เหมือนกัน บางยี่ห้ออาจจะต้องคนผสม บางยี่ห้อก็ไม่ต้อง ให้ดูที่ห่อ)
******

แล้วก็ปิดปากภาชนะแบบนี้ค่ะ เพื่อป้องกันแบคทีเรียลงไป (ทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ)555555+
********

ยีสต์ฟูแล้ว กำลังเดือดปุดๆเลย แล้วก็ค่อยๆเทลงผสมกับน้ำผักที่เตรียมไว้ (น้ำผักจะต้องเย็น เพราะไม่เช่นนั้นยีสต์จะตาย)
*****

แล้วก็เทลงไปในขวดนี้  ทั้งน้ำผักที่กรองได้ และยีสต์ที่เตรียมไว้ โดยใช้ฝาแอร์ล๊อค หมักไปได้สักประมาณ 5 วัน ก็ตกตะกอน แล้วก็ แรคกิ้งแยกเอาน้ำไสๆออกมา แล้วก็หมักต่อไปเรื่อยๆ แรคกิ้งทุกสองสัปดาห์ค่ะ จนครบ 1 เดือน แล้วก็เติมน้ำเชื่อม ครึ่งถ้วยตวง (น้ำตาลต้มเดือดทิ้งให้เย็น) ห้ามใส่ขณะที่ยังร้อน เดี่ยวยีสต์ตาย
*********
หมักต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแก๊ส Co2 จึงจะดื่มได้ จะเห็นว่าไวน์เริ่มไสขึ้นเรื่อยๆ ไม่ขุ่นมัว
*********

ภาพนี้อ๊อดถ่ายรูปเก็บไว้เมื่อ 3 เดือนที่แล้วค่ะ เดี่ยวตามไปดูภาพปัจจุบัน
********

นี่คือภาพปัจจุบันค่ะ ภ่ายภาพเมื่อกี้นี่เอง สดๆร้อนๆ งัดโกดังออกมาเมื่อกี้ 555555+
********

ลองเทลงแก้วดูว่าสีจะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ เทแล้วไม่เทเปล่าค่ะ มันต้องจิบนิดนึง 55555+ รสชาติไฮโซมากๆค่ะขอบอก มึนดีจริงๆ รสชาตินุ่มนวล ไม่บาดคออย่างที่คิด มีรสฝาดขององุ่นติดมาด้วยไม่ฝาดมาก กำลังดี เพราะคาวตองสดๆ อ๊อดกินไม่ได้เลยค่ะ เหม็นคาวหึ่งตั้งแต่ยังไม่เอาเข้าปาก พอเป็นไวน์แล้วค่อยยังชั่วหน่อย
เสร็จแล้วค่ะ นี่ค่ะ "ไวน์คาวตอง" ไวน์ขาวที่ทำครั้งแรก นึกว่าจะยาก ไม่ยากเลยค่ะ
*********

ว่าแล้วก็ชวนเพื่อนๆทำไวน์กันดีกว่าค่ะ แจกยีสต์คนละ 1 ซอง 20 คนค่ะ (ยีสต์1 ซองทำไวน์ได้ 5 ลิตร)ใครที่สนใจอยากหัดทำไวน์ผัก หรือไวน์ผลไม้ อ๊อดแจกยีสต์ให้ไปทดลองทำฟรี ลงชื่อที่บล๊อกนี้ แล้วฝากชื่อที่อยู่ให้หลังไมค์นะค่ะ สำหรับท่านใดที่สนใจ แจกแค่ 20 ท่านค่ะ (นับให้ด้วย) 
********
อย่างไรก็แล้วแต่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ควรดื่มด้วยความระมัดระวัง มีทั้งให้คุณ และให้โทษ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี ควรได้รับคำปรึกษาจากผู้ใหญ่ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนลงมือทำ
*****

ความเห็น

ใช้ผักอย่างอื่นแทนได้ค่ะป้าต่าย ไม่จำเป็นว่าต้องพลูคาวหรือคาวตองก็ได้ ใช้แตงกวา มะเขือเทศ ข้าวโพด แทนได้เลย

นาน ๆ เขียนบล็อกคิดถึงนะนี่ น้ำใจงามจังเพื่อนเรามีวิธีทำมาฝาก แถมยังแจกยีสต์ด้วย เห็นสีของไวน์แล้วฝีัมือสุดยอดเลยตัวเอง มีคำเตือนตอนท้ายด้วย แต่เค้ายังไม่เคยทำอะไรแบบนี้ซักที น้ำหมักก็ยังไม่เคยทำเลยรู้สึกว่าทำไวน์คงเป็นเรื่องยากสำหรับเรา แฮ่ ๆ Laughing

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

ไม่ค่อยว่างน่ะโน่ ต้องคอยออกงานกับแฟน ช่วยงานอาสาสมัครเขา ช่วงใหนว่างก็แว๊บมาเล่นเฟสบ้างเข้าบ้านสวนมาเม้นบ้าง แต่บางทีเข้าบ้านสวนมาก็เม้นไม่ได้เพราะ กล่องเม้นไม่ขึ้นซะงั้น ไม่มีไอค่อนให้พิมพ์

ผักคาวตองกินกะลาบหมู หรอยนิน้องอ๊อด แต่ไวน์ก็น่าสนจัง

พอเพียงแล้วจะเพียงพอ

ลองกินสดแล้ว ปล้วกินไม่ได้ค่ะเหม็นคาว จะอ้วก เกือบอ้วกคาวัดครั้งนึงค่ะ ด้วยความที่อยากลอง เลยทดลองใบนึงจิ้มลาบที่คนเขาทำไปถวายพระ พอยัดเข้าปากแค่นั้นแหล่ะ คายออกแทบไม่ทัน พะอืดพะอมแทบตาย55555

อยากชิม

Laughingป้าอ้อย

คุณอ๊อดคะ คาวตองกับพลูคาวเป็นอันเดียวกันไหมค่ะ

ต้นข้างล่างนี้ คือ Red Perilla เอามาทำได้ไหมค่ะ ถ้าทำไวน์แดง ต้องใช้ยีสต์แบบเดียวกันหรือเปล่า

 

พลูคาว กับ คาวตอง อันเดียวกันค่ะ. แต่ใบในรูปที่เอามาถามนี้ ไม่ใช่นะค่ะ เป็นใบฉุนๆขนิดนึงที่คนญี่ปุ่นนิยมเอามาห่อปลาดิบทานกับซูชิ ชื่อใบอะไรอ๊อดจำไม่ได้ค่ะ เพราะเป็นใบที่ไม่ชอบทานเลย ไม่ชอบกลิ่น เลยไม่สนใจจำชื่อ. เวลาสั่งซูชิมากิน ถ้ามีใบไอ้นี่ห่อมา จะเขี่ยทิ้งทุกที. 

ยีสต์นี้ทำไวน์ขาว หรือไวน์แดง ก็ได้ค่ะ จะเปลี่ยนจากคาวตองเป็นผักอย่างอื่นก็ได้

น่าสนๆ พี่อ๊อดอยากชิม...

ขอยีสสักซองด้วยครับ เรื่องทำไวน์ สอบไม่เคยผ่านเลย

พอเพียง พอเพียง

ได้จ้าน้องจา จะให้พี่ส่งไปทางไปรษณีย์หรือว่าจะให้พี่หิ้วไปด้วยที่ขนำพี่หยอย?

หน้า