ขนมเดือนสิบ
วันทำบุญเดือนสิบใกล้เข้ามาแล้ว วันนี้เอาขนมเดือนสิบมาฝาก คนใต้ที่ไกลบ้านอาจจะคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ
ขนมบ้า
ขนมบ้า เปรียบเสมือน การละเล่นที่ให้ผู้ตายเล่น เช่น สะบ้า
ขนมเบซำ, ขนมเจาะรู, ขนมเจาะหู, ขนมดีซำ
ขนมดีซำ เปรียบเสมือนเบี้ยหรือเงินที่ให้ผู้ตายใช้ในระหว่างใช้เวรกรรมในนรกภูมิ
ขนมเทียน
ขนมเทียน ใช้แทนหมอนหนุน
ขนมพอง
ขนมพอง เปรียบเสมือนแพให้ผู้ตายใช้เป็นพาหนะข้ามห้วยแห่งทุกข์และบาป
หรือเวรกรรมต่างๆ
ขนมลา
ขนมลา เปรียบเสมือนเสื้อผ้าเพื่อให้ผู้ตายสวมใส่ในนรกภูมิ
วันรับตายาย ในวันงานจะถือเป็นเสมือนวันรวมญาติที่จะทยอยกันมาร่วมกันทำบุญ "รับตายาย" ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ไปจนถึงวันแรม 15 ค่ำซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายแล้วที่บรรพบุรุษของครอบครัวตนจะต้องกลับยมโลก จะร่วมกันทำบุญครั้งสุดท้ายที่เรียกว่า "ส่งตายาย" ซึ่งถือเป็นวันสำคัญที่สุด
http://www.khonthai.com/Vitithai/month%2010.htm ขอบคุณข้อมูลค่ะ
ประเพณีบุญเดือนสิบ เป็นประเพณีที่สำคัญประเพณีหนึ่งที่จะทำให้คนอยู่ไกลบ้านได้กลับมาร่วมทำบุญกัน เพื่อแสดงถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
จำได้ว่าเมื่อตอนเด็ก ๆ ก่อนถึงวันรับตายาย ย่าจะสั่งให้หามะพร้าวไว้เยอะ ๆ เพื่อเคี่ยวสำหรับทำน้ำมันมะพร้าว เพื่อเอาน้ำมันไว้สำหรับทอดขนมบ้า ขนมเบซำ
การเคี่ยวน้ำมันมะพร้าวเดี่ยวนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว เพราะคนไม่นิยมใช้น้ำมันมะพร้าวกันแล้ว แต่นึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ได้กินขี้มัน (กากที่เหลือจากได้น้ำมันมะพร้าว) ขี้มันใหม่ ๆ เอามาซาวข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยค่ะ ใครเคยกินยกมือขึ้น......
เตรียมครกทิ่มแป้งไว้ให้สะอาด.... ก่อนวันทำบุญ 1-2 วันก็จะทิ่มแป้งข้าวเหนียว และข้าวจ้าว ไว้ทำขนม ทิ่มแป้งใต้ถุนบ้าน ร่อนแป้ง เอาแป้งไปปิ้งไฟบ้าง....กิจกรรมหลายอย่างเลือนลาง เพราะเกิดขึ้นนานแล้ว (เริ่มแก่เริ่มลืม)
วันทอดขนมบ้า ขนมเบซำก็สนุก ลูกสาว ลูกสะไภ้ ช่วยกันทำรอบกะทะใต้ถุนบ้าน กว่าจะเขี่ยขนมกันเสร็จ เมาค่ะ เมามัน ไม่ใช่สนุกอย่างเมามันนะคะ เวียนหัวกับกลิ่นน้ำมันค่ะ
เมื่อทำขนมเสร็จก็จะแบ่งขมไว้สำหรับไปวัด แล้วจะนำขนมไปให้คนเฒ่าคนแก่ ญาติสนิทมิตรสหายกัน เพื่อจะได้เอาไปทำบุญและแลกเปลี่ยนแบ่งปันกัน
กาลเวลาเหล่านั้น กิจกรรมเหล่านั้นเริ่มหายไป เดี่ยวนี้ไม่มีให้เห็น มีแต่ร้านค้าที่ทำขนมเพื่อขาย แต่ก็สะดวกดีสำหรับผู้ซื้อ เพราะขนมเหล่านี้ไม่ค่อยจะมีคนชอบสักเท่าไหร่ แต่ก็มีการพัฒนารสชาดขนมให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
เล่าเรื่องเก่า ๆ เหมือนกันตัวเองแก่ซัก 50 ปีแน่ะ ยังค่ะ ยังไม่ถึง เอาแค่น้ำจิ้มก่อนค่ะ ไว้ให้คนคอนอย่างยายอี๊ดมาเล่าต่อดีกว่าค่ะ.....
วันนี้ลองชิมขนมก่อนนะคะ แล้วค่อยมาต่อกันเรื่องการจัดหมรับ....(หมับ) เขียนยากมาก .....ในวันทำบุญนะคะ
- บล็อกของ แจ้ว
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 39311 ครั้ง
ความเห็น
แจ้ว
22 กันยายน, 2010 - 18:53
Permalink
ความหมายของบุญรับตายาย
มีความหมายดีมากค่ะน้องนี พี่ก็ไม่ค่อยจะสันทัด....แต่ลองหาข้อมูลแล้วเพิ่งจะรู้ความหมายหลาย ๆ อย่าง ไว้รอผู้สันทัดมาเล่าเพิ่มเติมอีกนะคะ.....
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
22 กันยายน, 2010 - 16:39
Permalink
อยากทานขนมลาจัง
เมื่อก่อนจะมีคนส่งมาให้ทานทุกปี เด๋วนี้ห่างหายไปนานไม่ได้กินเลย
แก้วเคยกินขนมลา 2 แบบ แบบแผ่นแห้งเหมือนที่พี่แจ้วลงรูป อันนี้จะส่งมาทางไปรษีย์ เพราะเก็บไว้ได้นาน ส่วนอีกแบบจะนุ่มกว่า และมีน้ำตาลเยิ้มๆ อันหลังนี่จะชอบมาก ดึงชิมทีละเส้นๆเป็นสนุกๆได้ด้วย
คิดถึงจังเลยค่ะ
แจ้ว
22 กันยายน, 2010 - 18:51
Permalink
ลากรอบ/ลาเช็ด
ขนมลาแบบที่ลงรูปเป็นขนมลาแบบกรอบ ๆ ค่ะ ไม่หวานมาก อีกแบบที่แก้วว่า แบบนิ่ม ๆ จะหวานกว่า อร่อยกว่า เค้าเรียกลาเช็ด...หรือ ลาเช็ดทะ (ลาเช็ดกระทะ) เพราะวิธีการทำเหมือนทำขนมฝอยทอง (คิดเอาเอง) คือเอาผ้าหรือสำลีชุบน้ำมันแล้วมาเช็ดกระทะให้ลื่น แล้วใช้แป้งที่ผสมเรียบร้อยแล้วใส่กระป่องที่มีรู ๆๆๆ มา แกว่งบนกระทะ ออกมาเป็นเส้น ๆ สานกัน.... วิธีทำน่าดูมาก.... อร่อยค่ะ เก็บไว้ได้นานด้วยค่ะ
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
23 กันยายน, 2010 - 00:27
Permalink
เคยทำด้วย
แก้วเคยลองขอเขาทำขนมลาด้วย ตอนหยอดสายแป้ง แบบที่พี่แจ้วบอกเลย ใช้กระป๋องเจาะรู แต่น้ำหนักมือไม่เที่ยง ตระแกรงที่ออกมา บางเส้นก็หนา มีปม บางเส้นก็ทับกันจนแน่น ไม่สวยเป็นระเบียบอย่างที่ผู้เฒ่าผู้ใหญ่ทำกัน
ดูเหมือนแกว่งง่ายๆ แต่จริงๆแล้ว อาหารไทย ต้องอาศัยฝีมือและความชำนาญในการทำมาก
Tui
22 กันยายน, 2010 - 16:53
Permalink
ขนมน่าทาน มากเลย ครับ ขอบคุณ
ขนมน่าทาน มากเลย ครับ ขอบคุณ สำหรับ ข้อมูล ประเพณี ด้วย ครับ
สวนฟักแฟงแตงไทย
22 กันยายน, 2010 - 17:15
Permalink
บุญแจกข้าว
ที่บ้านคุณยายกำลังเตรียมของไปวัดค่ะ ที่บ้านเรียกบุญแจกข้าว
แจ้ว
22 กันยายน, 2010 - 18:45
Permalink
บุญแจกข้าว
เล่าสู่กันบ้างค่ะ บุญแจกข้าว กรายข้าวสาก รับตายาย จะมาแนวเดียวกันรึเปล่า จะรอค่ะ
สวนฟักแฟงแตงไทย
22 กันยายน, 2010 - 19:11
Permalink
พี่แจ้ว
บุญแจกข้าว เป็นคำเรียกประเพณีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนภาคอิสาน(ไทยลาว)จังหวัดศรีสะเกษ(และปริมณฑล)
ซึ่งจะทำในวันเพ็ญเดือนสิบ
วิธีการ คือ นำอาหารทุกอย่างที่ปรุงสุกแล้ว เช่น หมู ปลา ไก่ ข้าวเหนียวนึ่ง กล้วย เผือกมัน ผักต่างๆ ผลไม้ต่างๆ ที่หาได้ตามท้องถิ่น
(ส่วนใหญ่มักถือว่ายิ่งมีอาหารมากหลากหลายชนิดบรรพบุรุษก็จะได้รับและอวยพรให้ลูกหลานเจริญยิ่งๆขึ้นไป)
นำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อหยิบแต่ละชิ้นมาห่อรวมกันในใบตองตามแนวยาวของใบตองและเย็บเป็นหนึ่งคู่
แล้วจะนำไปวางหรือแขวนไว้ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนในหมู่บ้านเคารพบูชา พร้อมกับอธิษฐานจิตให้ท่านมารับไป
ที่บ้านจะทำ 50 -60 คู่และคุณยายจะนำไปเซ่นไหว้ ตามที่ต่างๆค่ะ ปีนี้ไม่ได้ไปเองยังไม่มีรูปให้ดูค่ะ
มะโหน่ง
22 กันยายน, 2010 - 17:19
Permalink
อยากกินทุกอันเลย
อยากกินทุกอันเลย โดยเฉพาะขนมลากับขนมเทียน^^
สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี
แจ้ว
22 กันยายน, 2010 - 18:46
Permalink
ขนมเทียน
พี่ชอบขนมเทียนมากที่สุด อย่างอื่นไม่ค่อยจะกิน แต่ที่แปลกใจมากที่สุด ลูกชายอยู่ ป.2 ชอบขนมเบซำมาก......
หน้า