ของว่างยามบ่าย

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ตะลิงปิง

เก็บตะลิงปิงมาเพื่อการแปรรูปเป็นของว่างยามบ่าย ยิ่งง่วง ต้องชิม

ตะลิงปิง

หลังจากล้าง ผึ่งแห้ง แลัวนำไปแช่น้ำเกลือ 1 ชม. และแช่น้ำปูนใสอีก 1 ชม.นำไปแช่น้ำเชื่อมอีก 3 วัน

ตะลิงปิง

แช่น้ำเชื่อมแต่ละวัน พอถึงเช้าก็นำมาเคี่ยวใหม่ ปล่อยให้น้ำเชื่อมเย็น ก็แช่ต่อ จนครบ 3 วัน(ทำเหมือนเดิม 3 ครั้ง)

ตะลิงปิง

หลังจากอบด้วยลมร้อน มา 1 ชม.อุณหภูมิ 100 องศา ก็ปล่อยให้เย็นสักครู่

ตะลิงปิง

เสร็จแว้ว...... เข้าตู้เย็น ไว้เป็นอาหารว่าง ยามบ่ายๆ ตอนง่วง ครับ

ความเห็น

ได้ชิมสักชิ้นก็ดีน่ะ:wait:

ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้

แค่เห็นรูปแรก ก็เข็ดฟันแล้ว

ได้เมนูตะลิงปิงอีกเมนูแล้ว   ปลูกไว้ต้นหนึ่งเหมือนกันค่ะ สูงถึงเข่าแล้วค่ะ เมื่อไหร่จะได้แช่อิ่มเนี้ย:uhuhuh:


น้ำลายไหลค่ะ

:cute: วันนี้ได้รับ CD แล้วค่ะ ปลื้มน้ำใจคุณอ้วนมาก ๆ เลยค่ะ

พี่น้องบ้านสวนน่ารักทุกคน

ไม่เคยคิดว่าสังคมออนไล

จะมีความจริงใจให้กันขนาดนี้

เมื่อไหร่นัทจะทำอะไรตอบแทนน้ำใจทุกคนได้บ้างคะ


ต้นที่บ้านสูงเกินเข่าไปหน่อยเดียว คงอีกหลายปีกว่าจะได้กินลูก งั้นขอเฮียอ้วนกินไปก่อนแล้วกันค่ะ น่ากินมาก ขอถามนิดนึงว่าวิธีนีกรอบไหมคะ?

แช่น้ำปูนใส ก็ทำให้กรอบขึ้นมาครับ ไม่งั้นเละหมดครับ

 

ชีวิตที่เพียงพอ ย่อมมาจากชีวิตที่พอเพียง

เพิ่งจะรู้ว่าเขาแซ่อิ่มกันแบบนี้...นึกว่าแช่น้ำเชื่อมแล้วก็ไว้แบบนั้นก็กินได้...ต้องทำอีกตั้งหลายขั้นตอน...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

ถ้าเราแช่น้ำเชื่อมอย่างเดียว ไม่มาผึ่งลม หรือ อบด้วยลมร้อน จะเละครับ

 

ชีวิตที่เพียงพอ ย่อมมาจากชีวิตที่พอเพียง

พี่อ้วนเก่งนะครับ ผมตามอ่านมาหลายบล็อกแล้ว เรื่องทำอาหารนี่ ผมนับถิอเลยครับ 

ขนมแบบนี้ ที่ขายในห้างใส่ยากันเชื้อราด้วยครับ น่ากลัวมาก 

:admire: หน้าตาน่าอร่อยค่ะ...ดูขั้นตอนการทำยุ่งยากพอสมควร คงต้องมีเวลาจริงๆ ถึงจะทำได้...พี่อ้วนขยันจริงๆ ค่ะ

หน้า