เม็ดบัว
สืบเนื่องมาจากข้อสงสัยของน้องแอน ผมเลยเอารูปมาให้ดูชัดๆ ขจัดข้อสงสัยให้น้องแอนและผู้อื่นที่อาจจะยังไม่รู้ ดูเลยครับ
ซ้าย-ขวา ฝักบัวที่ยังอ่อนอยู่ ตรงกลางฝักบัวที่แก่และแห้งแล้ว
ฝักที่ยังเขียวอยู่แกะออกมาก็จะได้เม็ดสีเขียว ซ้าย-ขวา
ส่วนฝักที่แก่และแห้งแล้วจะได้เม็ดบัวสีดำ
สังเกตุให้ดีจะเห็นตุ่มเล็กๆอยู่บนเม็ดบัวทุกเม็ด รากต้นอ่อนของบัวจะงอกออกมาตรงตำแหน่งนี้
เม็ดบัวที่ยังไม่แก่สามารถกินได้ โดยแกะเอาเปลือกนอกออก และแกะเอาต้นอ่อนสีเขียวๆข้างในทิ้งไปเพราะขม สำหรับเม็ดแก่ก็กินได้เช่นกันโดยกระเทาะเปลือกออกและแกะเอาต้นอ่อนข้างในทิ้งไป เม็ดบัวแห้งนี้เอาไปประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน หลายคนคงเคยได้กินกันมาบ้างแล้ว
เม็ดบัวที่แก่แล้ว(แห้งแล้ว)สามารถนำไปเพาะขยายพันธุ์ได้ โดยเอาดินเหนียวหุ้มเม็ดบัวหย่อนลงในกระถางบัว(กระถางตันขังน้ำได้) หรือเอาเม็ดบัวกดลงในดินต้องไม่ลึกมาก ทิ้งไว้สักระยะหนึ่งต้นอ่อนของบัวก็จะงอก และมีวิธีที่จะให้เม็ดบัวงอกเร็วขึ้น ให้เอาเม็ดบัวที่แก่แล้วไปฝนกับกระดาษทรายหยาบ ฝนให้เปลือกบางจนเห็นเนื้อในก็พอ แล้วนำไปแช่น้ำ ไม่กี่วันต้นอ่อนก็จะงอกออกมา เป็นการเร่งให้งอกเร็วกว่าปกติ เพราะปกติต้องรอให้เปลือกหุ้มเม็ดเปื่อยต้นอ่อนจึงจะงอกออกมาได้ ซึ่งใข้เวลานานเหมือนกัน วิธีการฝนเปลือกก่อนเพาะนี้ ได้มาจากน้องคนหนึ่งที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับบัวหลวง ที่เขาต้องเพาะเม็ดบัวเป็นจำนวนมาก วิธีนี้ต้องระวังนิดนึง คือเวลาฝนอย่าฝนตรงตำแหน่งที่รากจะงอก(ตรงตุ่มบนเม็ดที่บอกไว้ตอนต้น) เพราะถ้าฝนตรงนี้เม็ดนั้นอาจจะไม่งอกและเน่าในที่สุด (วิธีการเพาะเม็ดบัวผมได้รับข้อมูลมาจากสาวปากช่องอีกทอดหนึ่ง งงมั๊ย)
หมายเหตุ เม็ดบัว หรือลูกบัว เป็นชื่อที่คนทั่วไปเรียก ที่จริงเม็ดบัวคือผลของบัวนั่นเอง
- บล็อกของ rose1000
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 28824 ครั้ง
ความเห็น
จันทร์เจ้า
16 มีนาคม, 2010 - 10:01
Permalink
พึ่งจะรู้
ขอบคุณคุณสุรพลมากนะคะ พึ่งจะรู้เหมือนกัน ชักเริ่มสนใจแล้วค่ะ แล้วบัวอีกอย่างเรียกไม่ถูก ที่กลีบบัวเล็กๆน่ะค่ะ มีเมล็ดหรือเปล่าคะ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
ยายอิ๊ด
16 มีนาคม, 2010 - 10:21
Permalink
ขอบคุณคะ
พี่สุรพล นี่นอกจากถ่ายรูประดับมืออาชีพแล้วนี่ ถือว่าเป็นระดับปรมาจารย์เรื่องของการถ่ายทอดวิชาด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ให้เป็นวิทยาทาน ขอให้ผลบุญส่งให้สุขภาพร่างกายปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความสุขกับครอบครัวคะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
rose1000
16 มีนาคม, 2010 - 10:28
Permalink
ยอกันไปยอกันมา
พูดเกินจริงไปหรือเปล่ายายอิ๊ด อ้อ..ยายอิ๊ดอยากได้เมล็ดมะค่าโมงไปเพาะบ้างมั๊ย ถ้าเอาจะส่งไปให้
ยายอิ๊ด
16 มีนาคม, 2010 - 10:29
Permalink
จริง
จริงคะ เพราะยายอิ๊ดดูที่การนำเสนอเป็นแบบนั้นจริงจริง ทุกคนว่าม้าย
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
rose1000
16 มีนาคม, 2010 - 10:37
Permalink
แล้วต้องการเมล็ดมะค่าโมงมั๊ย
แล้วยายอิ๊ดต้องการเมล็ดมะค่าโมงไปปลูกมั๊ย เห็นชอบไม้แนวๆนี้ มะค่าโมงเป็นไม้ป่าเนื้อแข็งอายุยืนเป็นร้อยปี ต้นที่เก็บเมล็ดมา มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ลองเอาไปปลูกมั๊ย?
ยายอิ๊ด
16 มีนาคม, 2010 - 13:27
Permalink
พี่สุรพล
มะค่าโมงที่พี่ว่าได้มาจากโคราชใช่มั้ยพี่ สมัยก่อนตอนยายอิ๊ด ม.4 เคยไปที่โนนสูงที่บ้านพี่สะใภ้ ที่บ้านพี่เขามีเฟอร์นิเจอร์ไม้มะค่า ที่สีออกแดงแดง แบบเดียวกันหรือเปล่าไม่ทราบ ขอบคุณพี่มากนะคะ ยายอิ๊ดชอบและอยากปลูกต้นไม้ใหญ่ เพราะที่สวนอยู่บนเนินเขา ใกล้กับป่าต้นน้ำ แต่พี่อธิบายวิธีเพาะยายอิ๊ดด้วยนะ กลัวเสียของ เสียดาย....เป็นร้อยปีเลย ยายมะค่าเลย
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
rose1000
16 มีนาคม, 2010 - 13:41
Permalink
แม่นแล่ว
ใช่ครับไม้มะค่า เนื้อไม้จะสีแดงเข้ม ทนทานมาก ทำเฟอร์นเจอร์สวยมาก ต้นที่เก็บมาอยู่ที่ อ.ปากช่อง ใกล้บ้านพักที่นั่น วิธีเพาะจะถามผู้รู้ให้ เพราะถ้าเพาะแบบธรรมดา เอาเมล็ดฝังดิน รดน้ำ นานมากกว่าจะงอก เนื่องจากเมล็ดมะค่าโมงมีเปลือกที่หนาและแข็งมาก
panatda
17 มีนาคม, 2010 - 14:55
Permalink
แถวบ้านนิยมใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วย ไม้มะค่า
ที่บ้านเมืองไทย ก้อชอบใช้ สวยน่าใช้เหมือนกันนะคะ ทนทานมากค่ะ
ยายอิ๊ด
16 มีนาคม, 2010 - 10:47
Permalink
ขอบคุณคะ
อยากได้คะ พี่บอกวิธีเพาะด้วยคะ ตอนนี้หาหลุมพอได้แล้วคะ ซื้อเขาต้น 30 บาทคะเพราะความอยากได้ จะไปปลูกในสวน ให้เหลนนะ เพราะรุ่นยายอิ๊ดแล้ว คงไม่ทัน
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
กิ่ง ก้าน ใบ
16 มีนาคม, 2010 - 12:43
Permalink
สวัสดีค่ะ
ถ้าเอาเปลือกออกหมดเลย เหมื่อนข้าวกล้องจะงอกเปล่าค่ะ บัวด้งหนูยังไม่งอกเลยค่ะ
มาขอเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ
หน้า