อยากทราบวิธีการเก็บรักษาข้าวเปลือกและข้าวสาร ให้คงสภาพดีเป็นปรกติอยู่ได้นานๆครับ

การเก็บข้าวเปลือกคงจะง่ายกว่าข้าวสารนะครับ แต่ข้าวสารนี่หากเก็บไม่ถูกวิธี เมื่อนานเข้าก็อาจจะเกิดการเสื่อมสภาพได้

อยากทราบการเก็บรักษาข้าวสารให้คงสภาพอยู่ได้นานๆน่ะครับ เช่น เวลาหนึ่งปีสองปีเป็นต้น ใครพอมีประสบการเรื่องนี้บ้างครับ

เช่นเก็บในกระสอบป่าน ถุงพลาสติก ในโอ่ง ในถังพลาสติกเป็นต้น อย่างไหนจะอยู่ได้นาน และต้องใส่สารกันชื้นด้วยหรือไม่

ผมมีเหตุผลที่ถามน่ะครับ ใครทราบช่วยแนะนำด้วยครับ

 

เนื่องจากใช้ชีวิตอยู่หอพักที่กรุงเทพฯ เลย ต้องนำข้าวสารมาจากบ้านทีละหลายกิโล

เคยวางแบบใส่ถุงพลาสติกไว้ ปรากฎว่า มีกลิ่นเหม็น สาบ มาก

ตอนหลังได้โอ่งดินเผาลูกขนาดย่อมมาลูกหนึ่ง เลยเอาข้าวสารใส่ไว้ดู ปรากฎว่าเก็บข้าวสารได้ดี

แต่ฝาที่ปิดก็ต้องเป็นดินเหมือนกัน ถ้าจะป้องกันมอดก็ใส่ใบมะกรูดแห้ง จะช่วยยืดระยะเวลา

ข้าวสารออกไปได้นานมาก

ส่วนใหญ่ภูมิปัญญาไท นี้แหละค่ะ ได้ผลสุด ๆๆๆ

เดี่ยวลองมั่ง ของผม มีทั้งเพล้ง และก็กระติกน้ำแข็งใบเก่า ก็เก็บได้ดี แต่ถ้าเป็นข้าวกล้อง แล้วละก็ เสร็จมอด ทุกที เดี๋ยวจลองทำอย่างที่แนะนำดูครับ

ตามรอยพ่อคิด ด้วยวิถีชีวิต ที่เพียงพอ

ซื้อข้าวจากรถที่เข้ามาขายตามหมู่บ้านจัดสรร ชั่งเป็นกิโลขาย ผมลองมาหมดแล้วทั้ง ใบมะกรูด หรือว่า พริกแห้ง ไม่รอดครับ เสร็จมอดครับสู้ไม่ไหว แต่ถ้าเป็นข้าวบรรจุถุง ไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่มีมอดสักตัว ยังคุยกับแฟนอยู่ว่านี่เรากำลังกินอะไรกันอยู่ ข้าว หรือ สารไล่แมลง

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


มอดยังไม่ยอมกินเลย ข้าวสารบรรจุถุง

ทนแย่งกินกับมอดดีกว่ามั๊ยคะ ไม่รู้วิธี อยากรู้เหมือนกัน

Laughingทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาชีวิตน้อยลงทุกวัน

เรื่องการเก็บข้าวให้อยู่ได้นานนี่ เคยเห็นที่บ้านแม่ของสามี เขาเก็บไว้ในตู้ควบคุมอุณหภูมิค่ะ แต่ที่เมืองไทยเราจะคุ้มไหมถ้าจะเก็บ

ส่งเรื่องข้าวสาร ยอมกินที่มันมีมอดน่าจะดีกว่า ที่ไม่มีมอดค่ะ..

อยู่ที่นี่ดีอย่างไม่ค่อยได้ซื้อข้าว เพราะพ่อแม่จะส่งมาให้ประจำ บ้างครั้งก็มีแมลงหรือมอดมาบ้างโดยเฉพาะหน้าร้อนเลี่ยงไม่ได้ แม้จะเก็บไว้ดีขนาดไหน เพียงแต่เราขยันล้างและคัดดูหน่อย แต่ก็รู้สึกถึงความปลอดภัยว่าไม่มีสารอะไรปนมาค่ะ

there is a will , there is a way .

คือ ผมต้องทำการสรร้างถังเก็บเมล็ดข้าวเปลือก ขนาด 1 ตัน น่ะ ครับ

ได้ออกเเบบ ระบบ ระบายอากาศ ไว้เเล้ว  ซึ่งใช่ได้เลย

 

เเต่มีปัญหา เรื่องวัสดุที่จใช้นำมาสร้าง ตัวถัง เเละ ขารับ ถัง ต้องเลือกยังไง เหรอครับ ช่วยตอบทีนะครับ

ลอง seaech website ที่เกี่ยวกับการสร้าง ไซโลเก็บข้าวเปลือกดูก็ได้ค่ะ จะมีข้อมูลดีๆ เยอะ (ไม่กล้าแนะนำเจาะจงไปว่าจะใช้อะไร...เคยมีประสบการณ์ตรวจสอบข้าวในไซโลค่ะ แต่เรื่องที่เกี่ยวกับวิศวะฯ ให้รายละเอียดไม่ได้ค่ะ) แต่ที่แนะนำก็คือให้เลือกวัสดุที่สามารถรับน้ำหนักข้าวที่จะเก็บได้ และไม่เป็นสนิมง่ายเนื่องจากข้าวมีความชื้นอยู่ในตัว และเป็นอาหารที่เรารับประทาน อีกอย่างหนึ่งวัสดุที่เลือกใช้ต้องทนความร้อนได้ปานกลางด้วยนะค่ะ เพราะข้าวเมื่อเก็บไปนานๆ จะมีการคายความร้อน

ปล.ควรติดเครื่องวัดความชื้นและอุณหภูมิภายในถังเก็บด้วยนะค่ะ เพราะข้าวเปลือกที่เก็บไปนานๆ จะมีการคายความร้อน หากอุณหภุมิที่คายออกมาสูงมาก (เกินกว่า 35-40 องศาเซลเซียส) เมื่อนำข้าวเปลือกออกมาสีจะทำให้ข้าวแครกค่ะ (หักกลาง หรือหักท่อนค่ะ โดยเฉพาะข้าวหอมปทุมธานี จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล-เหลืองมากค่ะ) ส่วนระบบระบายอากาศไม่ทราบเลือกอย่างไรค่ะ แนะนำแบบที่เป็นแท่งลวดสานไปมาในถังเก็บนะค่ะ เพราะจะได้ปล่อยความเย็นได้อย่างทั่วถึง นอกจากนั้นยังสามารถน็อกแมลง จำพวกมอด ได้ด้วยค่ะ

ข้าวสารเก็บในสภาพไร้อากาศ จะไม่มีมอด รักษาคุณภาพได้นานที่สุด

แต่ถ้าเป็นข้าวกล้อง มันจะหืนได้ง่ายเพราะยังมีจมูกข้าวและรำ

ติดอยู่ที่ผิว ซึ่งมีไขมันเกือบ 12% เก็บอย่างไรมันก็ต้องหืน

หากเก็บข้าวสารในไซโลขนาดใหญ่ ต้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้น

ใช้ลมหรืออากาศเย็นเป่าเข้าด้านใต้และระบายความร้อนจาก

ข้าวออกด้านบน จะเก็บรักษาคุณภาพข้าวสารข้ามปีได้ครับ

ขอเสริมเรื่องการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชนะครับ คือ การเก็บรักษาในถุงปิดมิดชิดไม่มีอากาศถ่ายเท หรือ Hermetic Storage.

เป็นการเก็บแบบธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารเคมี นับเป็นวิธีที่เหมาะกับพันธุ์พืชออร์กานิค (Organic).

ยกตัวอย่าง การเก็บพืชสมัยโบราณ จะเก็บพันธุ์พืชลงในไหแล้วทาขี้ผึ้งที่ขอบฝา แล้วปิดผนึกเพื่อไม่ให้อากาศถ่ายเทเข้าออก.

อ่านเพิ่มเติม http://www.thaiorganicstorage.com/customize-การเก็บแบบHermeticคืออะไร-47532-1.html

เมื่ออากาศไม่เข้าไม่ออก แต่เมล็ดพันธุ์พืชยังคงหายใจทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง และคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ทำให้ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น แมลงศัตรูก็ตายเกลี้ยง ส่วนที่เป็นไข่คงอยู่ในเมล็ดก็ไม่คลอดออกมาเพ่นพ่าน เพราะสภาวะไม่เหมาะสม ทำให้เมล็ดพันธุ์พืชปลอดภัย.

นอกจากนี้ ที่สภาวะออกซิเจนต่ำ เมล็ดพันธุ์พืช ยังหายใจลดลงเข้าสู่สภาวะ "จำศีล" ทำให้สภาพเมล็ดยังอ่อนเยาว์ เต่งตึง คงอัตราการงอกได้ดีเยี่ยม นานกว่าเก็บแบบปกติ ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว.

มีผลการวิจัยพบว่า เปรียบเทียบการเก็บแบบมิดชิด Hermetic Storage กับการเก็บในห้องเย็น พบว่า สามารถยืดอายุของเมล็ดพันธุ์และอัตรางอกได้ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ หรือเรียกง่ายๆว่าใกล้เคียงกันจนแยกไม่ออก แต่สิ่งที่ต่างกันคือค่าใช้จ่ายของการเก็บในถุงแบบ Hermetic ถูกกว่าการเก็บในห้องเย็นกว่า 10 เท่า.

ถ้ามีใครสนใจงานวิจัยตัวนี้ก็ เมล์หาผมได้ที่ karn.ck@gmail.com


หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครั
กานต์