นาโยน #1 : เตรียมกล้านาโยน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ตั้งแต่พ่อแม่มาทำไร่เป็นระยะเวลา 7 ปีมาแล้ว ที่บ้านก็ไม่ได้ซื้อข้าวทานเลย เราปลูกข้าวทานเอง โดยพันธุ์ข้าวที่ปลูกก็คือ หอมมะลิ 105 และปลูกด้วยวิธีดำนา  ในพื้นที่ 2 ไร่ นาที่ทำได้ข้าวเยอะทุกปี แม้จะมีโรคบ้าง หรือโดนน้ำท่วมในบางปี แต่ก็ถือว่าพอกิน พอแบ่งปัน

แม้จะมีความสุขที่ข้าวงาม ข้าวได้ผลผลิตดี แต่ความหนื่อยยากในการทำนาก็ยังเป็นหัวข้อสนทนาในบ้าน เช่น เลิกทำนาดีไหม จ้างคนทำดีไหม ลดพื้นที่ลงเหลือไร่เดียวดีไหม พ่อแม่ก็อายุเยอะแล้ว จะมาก้มๆ เงยๆ ตลอดก็เจ็บหลัง ปวดเอวเหลือเกิน ทำนาที ต้องหาหมอที ในขณะที่ดีจังเองก็มาช่วยตลอดไม่ได้ หรือถึงมาได้ก็ช่วยได้ไม่เยอะ ช่วยทำเละมากกว่า ข้อสรุปของการทำนาที่ผ่านมาก็คือ ต้องจ้างคนมาช่วย ถอนกล้า ดำนา และเกี่ยวข้าว ซึ่งพ่อแม่ก็ทำไปด้วย แต่ต้องมีคนมาช่วย

จนเมื่อปีที่แล้ว ที่เริ่มรู้จักนาโยนจากคลิป จากการอ่าน และสนใจอย่างจริงจัง จนชวนพ่อแม่ลองทำ ลองผิดลองถูก ทำตามสูตรของคนอื่น จนค้นพบสูตรของเราเอง ข้าวงามมาก แต่ก็โดนนกกินเกือบหมด เพราะปลูกก่อนคนอื่น เรียกว่าปีที่แล้วได้ข้าวน้อยที่สุดตั้งแต่ทำนามาก็ว่าได้ บทเรียนมากมายที่ได้เรียนรู้ จากปีที่แล้วและจะเริ่มต้นใหม่ในปีนี้

แม้ปัญหาอุปสรรคจะเยอะ แต่ในอุปสรรคเหล่านั้นก็มีข้อดี จนพ่อพูดว่า "ถ้าทำนามันง่ายอย่างนี้ ให้ทำตลอดก็ได้" แม่บอกว่า "ทำนาในร่มก็ดีเหมือนกัน" เนื่องจากวันนี้จะไม่ลงรายละเอียดของปัญหาที่พบเจอ แต่ถ้าใครอยากรู้ในรายละเอียดสามารถถามได้ค่ะ แต่จุดประสงค์ที่เกริ่นมายาวมากเพื่อบอกที่มาที่ไป ว่าทำไมถึงเลือกทำนาโยน การทำนาแต่ละแบบ มีข้อดีข้อด้อยในตัวมันเอง ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะทำนาว่ากำลังมองหาทางเลือกแบบไหน ข้อสรุปของดีจัง ที่เลือกทำนาโยน คือ

1.ทุ่นแรงพ่อแม่ ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

2.ทำให้การทำนาเป็นเรื่องง่าย ใครๆ ก็ทำได้ แม้แต่ดีจัง ไม่ถนัดการทำนาก็สามารถทำนาโยนได้ แบ่งเบาพ่อแม่ได้

3.ประหยัดเวลา เนื่องจากที่ไร่ทำหลายอย่าง การจัดการเรื่องเวลากับแรงงานคนที่มีอยู่คนข้างจำเป็น

4.ประหยัดแรงงาน ไม่ต้องใช้คนเยอะ ต้นทุนถูกลง ไม่ต้องจ้างคนถอนกล้า และดำนา

5.ควบคุมวัชพืชได้ (ถ้าควบคุมระดับน้ำได้) ปีที่แล้วยังทำไม่ได้ ปีนี้จะลองใหม่

6.ผลผลิตดี

7.มีความสุขและสนุกในการทำนา

ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องนาโยนทั้งหมด  4-5 ตอน เพื่อลงรายละเอียด ขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนถึงเก็บเกี่ยว เราสามารถเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน โดยใช้ #ไร่สวนฝัน เป็นแปลงทดลองนะคะ งั้นเราก็มาเริ่มกันเลยนะคะ

เตรียมกล้านาโยน

1.ต้องเลือกพันธุ์ข้าวที่ต้องการ ปีนี้ดีจัง ได้ข้อสรุปว่า จะปลูกข้าว 2 สายพันธุ์คือ ข้าวหอมมะลิ 105 และ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยปลูกข้าวหอมมะลิก่อน เพื่อให้โตทันช่วงน้ำท่วม และข้าวจะไม่เสียหาย เนื่องจากข้าวหอมมะลิ เป็นการปลูกแบบนาปี ซึ่งเป็นข้าวไวแสง ดังนั้นแม้จะปลูก มิย กค สค ก็จะออกดอกในเดือน ตค และเก็บเกี่ยวได้ในเดือน พย  ส่วนไรซ์เบอร์รี่ เป็นข้าวนาปรัง ข้าวตามอายุ คือ 120 วัน ปลูก สค ได้เก็บเกี่ยบเกี่ยว พย เหมือนกัน ที่ต้องกำหนดให้กี่ยวข้าว ช่วง พย เพราะเป็นช่วงที่ข้าวทุกคนออกพร้อมกัน จะลดปัญหาของนกมากินข้าว

2.นำพันธุ์ข้าวมาแช่น้ำ 1 คืน โดยผสมสารโตรโคเดอร์มา ซึ่งเป็นเชื้อราชั้นสูง เพื่อลดการเกิดราในเมล็ดข้าว และเพิ่มอัตราการงอกของข้าว และทำให้ต้นกล้าแข็งแรง จากนั้นบ่มข้าวในกระสอบหรือถุงอีก 1 คืน เนื่องจากแม่เป็นคนทำขั้นตอนนี้เลยไม่มีรูปแต่ละขั้นตอน มีเฉพาะตอนงอกแล้ว

3.เตรียมอุปกรณ์เพาะ ประกอบด้วย ถาดหลุม ดิน ปุ๋ยคอก และเมล็ดพันธุ์ข้าวที่งอกแล้ว

 

4.นำดิน 1 ส่วน (ถ้าร่อนดินได้จะดีมาก) แต่ดีจังไม่ได้ร่อน ใช้จอบสับให้ละเอียด ผสมปุ๋ยคอก 1ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน

5.นำเมล็ดข้าวที่งอกแล้ว หลอดลงในถาดหลุม 3-5 เมล็ดต่อหลุม

6.นำดินที่ผสมแล้วกลบหลุม และปาดให้เรียบ (อัพรูปไม่ขึ้น)

7.นำถาดไปวางในที่ร่ม แดดรำไร ปิดด้วยกระสอบป่าน หรือเศษผ้า เพื่อเวลาที่รดน้ำ ข้าวจะได้ไม่กระเด็น และเป็นการควบคุมอุณหภูมิและควบชื้นให้เหมาะต่อการเติบของต้นข้าว

8.ประมาณ 2 วันข้าวจะเริ่มแทงยอดขาวๆ แบบนี้

9.ประมาณ 5 วัน เมื่อข้าวมียอดเขียว ให้เอากระสอบออกได้ รดน้ำวันละ 1 ครั้ง เช้าหรือเย็นก็ได้ เมื่อต้นกล้ามีอายุ ได้ 15 วันก็พร้อมนำไปโยนได้

 

อัพเดทวันที่  18 มิย ต้นกล้าข้าวหอมมะลิ อายุ 7 วัน

 

 

ตามหลักวิชาการ ที่อ่านมา(มั้ง) ว่ากันว่า ข้าวจะแตกกอได้ดี ในช่วงอายุ 14-20 วัน นี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องโยนเมื่อต้นกล้าในระยะนี้  

ดีจัง กำหนดวันปลูก แล้วนับถอยหลังเมื่อเพาะต้นกล้า เช่น กำหนดการปลูก คือ 26 มิย ดังนั้นควรปลูกข้าวในวันที่ 10-11 มิย เป็นต้น  

แล้วพบกันใหม่ตอนต่อไป : การทำนาโยน หลังวันที่ 26 มิยค่ะ

ปล. นา 3งาน ใช้เมล็ดพันธุ์ 3กิโล บรรจุได้ 62 ถาด

www.facebook.com/dreamforestfarm

 

ความเห็น

น้องดีจัง ขยันจังครับ ---- ช่วยกันทั้งครอบครัว แบบนี้ สบายๆ --- พี่รอติดตามดู วิธี การโยน ด้วยนะ

รักบ้านเกิด ชอบเศรษฐกิจพอเพียง

ขอบคุณค่ะ พี่แม็ค

ยินดีด้วยค่ะ น้องดี .... ปีนี้ น่าจะสมบูรณ์ที่สุดนะ....ทำไปพร้อมเพื่อนๆ..น้องนก จะได้ แบ่งๆ กันกิน โดยทั่วถึง.....พี่ก็อยากดูของจริง นะ นาโยน ..แต่ช่วงนี้ งานแน่นหนา ค่ะ น้อง....แต่จะรออ่านบล็อค น้องดี นะคะ ....

มีอีกรอบ ต้นเดือนสิงหานะคะ พี่บัว ถ้าว่าางตอนนั้นก็เชิญ ถ้าไม่ว่างก็ดูทางบล็อกก็ได้ค่ะ

ได้ความรู้หลายๆเรื่องเรยคะน้องdeejung ถ้าครอบครัวร่วมมือไปในทางเดียวกัน ก้ฝ่าฟันอุปสรรคได้ทุกอย่าง ขอบคุณที่มาแบ่งปัน วิธีปลูกข้าวนาโยน พี่กานไม่เคยทำนาเรย ตอนเด็กเกิดในเมือง แล้วมาโตในไร่ ไม่คุ้นเคยกะการปลูกข้าวเรย การจะมีข้าวกินเองนี่มันจะยากขนาดไหนน้อ555

ความสุข..อยู่ที่ใจ

ดีใจ และยินดีถ้าเรื่องราวที่แบ่งปัน พอมีประโยชน์บ้างนะคะ ทำนาไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปค่ะ มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เราได้ปลูก เลี้ยงดู จากต้นข้าว เติบโตมาเป็นกอข้าว ออกร่วง และเป็นเมล็ดในหม้อหุงข้าวค่ะ อธิบายลำบาก ต้องสัมผัสเองค่ะ

ระเอียดดีครับแถวบ้านหว่านแห้งครับ รอติดตามครับ

ขอบคุณค่ะ คุณลูกอีสาน

ยิ่งเรียนยิ่งรู้ ลงมือทำได้ประสบการณ์ คนทำงาน งานสอนคน อุปสรรคมีไว้ให้ข้าม ทำไปแก้ไป ก็ประสบความสำเร็จ เอาใจช่วยครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ขอบคุณคะพี่เสิน จริงทุกคำคะพี่ ทำแล้วได้ประสบการณ์ ส่วนอุปสรรคมีไว้ให้ข้ามและแก้ ขอบคุณนะคะ

หน้า