เขียนโดย teerapan เมื่อ 27 มกราคม, 2012 - 19:50
หลังจากที่เขียนเรื่องวุ้นน้ำหมัก จนถึงเพกติน ได้รับแรงบรรดาใจจากพี่สรให้ค้นหาเรื่องวุ้นๆ อีกหลายอย่าง จึงขออนุญาตอธิบายว่าวุ้นแบบที่เรารับประทานกันหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1.ประเภทโปรตีน
ปกติมักระบุว่ามีเจลาติน (gelatin) เป็นโปรตีนที่สกัดจากหนังหมู บรรดานักกินขาหมูพะโล้คงนึกออก เมื่อนำเอาขาหมูที่ตุ๋นไว้ในน้ำผสมซีอิ๊วไปใส่ตู้เย็น น้ำตุ๋นจะแข็งตัวมีลักษณะเป็นวุ้นยืดหยุ่นได้และเมื่อนำมาทิ้งไว้ข้างนอกตู้ ลักษณะวุ้นจะค่อยๆ ละลายหายไป ปรากฏการณ์เช่นนี้เหมือนกับเยลลี่ที่ทำกินกับไอศกรีม
เขียนโดย teerapan เมื่อ 21 มกราคม, 2012 - 06:51
ต่อเนื่องจากเรื่องวุ้นในน้ำหมัก เรามาลองดูว่านอกจากการสกัดเพกตินด้วยขบวนการหมัก เราสามารถสกัด เพกติน จากพืชด้วยวิธีการอื่นดังนี้
การสกัดเพกตินจากแอปเปิ้ล
1. นำแอปเปิ้ล (ควรเลือกแบบที่ยังสด ไม่สุก เนื้อไม่นิ่ม) ประมาณ 1 กิโลกรัมมาล้างทำความสะอาด และหั่นใส่หม้อ
เขียนโดย teerapan เมื่อ 20 มกราคม, 2012 - 18:10
จากที่ได้เห็นเรื่องวุ้นน้ำหมักจากครูน้ำหมักหลายๆ แต่ก็ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าวุ้นน้ำหมักคืออะไร? เท่าที่ไปค้นหาข้อมูลมามีความเข้าใจทางวิชาการเรื่องวุ้นน้ำหมักดังนี้
วุ้นน้ำหมักคืออะไร
เท่าที่เข้าใจวุ้นน้ำหมัก ก็คือเพกติน (pectin) ถ้าถามต่อว่าเพกตินคืออะไร? ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าน้ำตาลมีการแบ่งตามลักษณะของโมเลกุลออกมาเป็น 3 ประเภท คือ
1. น้ำตาลชั้นเดียว (Monosaccharides) เช่น ฟรุกโตส, กาแลกโทส, กลูโคส
เขียนโดย teerapan เมื่อ 12 มกราคม, 2012 - 12:11
ต่อเนื่องจากบล็อกที่แล้วที่เราพูดถึงว่าต้นไม้ช่วยในการเก็บน้ำไว้ในที่ดินอย่างไร การอยู่ร่วมกันของพืชหลายชนิดอย่างถูกต้องนอกจากจะช่วยเรื่องการอุ้มน้ำให้มากขึ้นยังจะให้ผลผลิตสูงกว่า(เมื่อเทียบกับแรงงานที่เราต้องใส่เข้าไป)การปลูกแยกกัน การปลูกร่วมกัน (companion planting) จะคล้ายๆ กับแนวคิดเรื่องการปลูกพืชแซม แต่จะปลูกอยู่ด้วยกันเลยมากกว่าจะแยกเป็นแถวๆ การปลูกแบบนี้อาจจะไม่เหมาะกับการปลูกเพื่อการค้าที่ต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยในการเตรียมดิน หรือการเก็บเกี่ยว แต่จะเหมาะสมกับการปลูกแบบพอเพียง
เขียนโดย teerapan เมื่อ 11 มกราคม, 2012 - 15:59
ต่อเนื่องจากบล็อกที่แล้ว ที่ดินของผมมีปัญหาเรื่องแล้งในฤดูหนาว และฤดูร้อนโดยเฉพาะด้านบนของที่ดินที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำ ถึงแม้นว่าจะมีอ่างเก็บน้ำอยู่ตรงปลายที่ดินด้านที่ต่ำ แต่น้ำในอ่างเก็บน้ำมีไว้สำหรับใช้กับพื้นที่ของชาวบ้านถึง 500 ไร่ และเนื่องจากความไม่แน่นอนของปริมาณน้ำฝนในแต่ละปี อาจจะมีปัญหาน้ำไม่เพียงพอในปีที่ฝนตกน้อยเป็นพิเศษ
เขียนโดย teerapan เมื่อ 14 ธันวาคม, 2011 - 21:57
วันนี้มีเวลาน้อยก็ขอเขียนเรื่องเล็กๆ ของการเก็บน้ำฝนแล้วกัน การเก็บน้ำฝนไว้ใช้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของคนไทยเลย ตามหลักของเพอร์มาคัลเจอร์ถ้าเราปล่อยให้น้ำฝนที่สะอาดไหลไปโดยไม่ได้เก็บไว้ใช้งาน เมื่อเราต้องการใช้น้ำสะอาดก็จะต้องใช้น้ำประปา ซึ่งในขบวนการผลิตน้ำประปาก็มีการใช้พลังงานและสารเคมีใส่เข้าไปอีกในระบบกรอง และระบบส่งน้ำ นับว่าไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเสียเลย
เขียนโดย teerapan เมื่อ 12 ธันวาคม, 2011 - 23:37
ได้รับแรงบันดาลจากบล็อกของป้าโน จนทำให้อดรนทนไม่ได้ต้องลุกขึ้นมาเขียนบล็อกเรื่องการวิเคราะห์โซน การออกแบบโซนในเพอร์มาคัลเจอร์จะคำนึงถึงการใช้อนุรกษ์พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของทั้งคน เครื่องจักร และเชื้อเพลิง ดังนั้นผู้ออกแบบจึงควรวิเคราะห์พฤติกรรมและเลือกใช้พื้นที่แต่ละโซนตามความถี่ในการใช้งานพื้นที่ และระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางไปยังพื้นที่ในโซนนั้นๆ
เขียนโดย teerapan เมื่อ 11 ธันวาคม, 2011 - 21:00
วันที่ 11 ธ.ค. 2554 สมาชิกภาคตะวันออก และกทม. รวมพลเยี่ยมเยือนคุณวัชรินทร์ และคุณ worawit6311 ที่ราชบุรี
คุณวัชรินทร์แนะนำศูนย์การเรียนรู้อย่างจริงจัง
เขียนโดย teerapan เมื่อ 8 ธันวาคม, 2011 - 14:36
ต่อจากแนะนำเพอร์มาคัลเจอร์ในตอนที่แล้ว ในบล๊อกนี้เรามาลองเรียนรู้การเลือกรูปแบบในการใช้พื้นที่ปลูกพืชตามหลักเพอร์มาคัลเจอร์ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับภูมิทัศน์แล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พื้นที่ และการใช้แรงงาน รวมทั้งเพิ่มที่อยู่ของสัตว์ตามธรรมชาติ คืนสมดุลให้กับธรรมชาติ ตัวอย่าง เช่น เราต้องการพื้นที่เพาะปลูกขนาด 50 ตารางฟุต หน้าตาสวนของเราอาจจะเป็นแบบนี้
เขียนโดย teerapan เมื่อ 8 ธันวาคม, 2011 - 10:17
คนไทยเราแต่เดิมนั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและกลมกลืนกับธรรมชาติ เรามีระบบเศรษฐกิจแบบ “ผลิตเพื่อกินเอง…เหลือแล้วจึงขาย” ดังนั้น วิถีชีวิตของพวกเราในอดีตจึงค่อนข้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไป แนวคิดการผลิตเปลี่ยนมาเป็นแบบ “ผลิตเพื่อขาย…เหลือแล้วจึงเก็บไว้กิน” เกษตรกรไทยก็เริ่มต้องใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ฯลฯ เพื่อให้ได้ผลผลิตปริมาณมากๆ ในขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงเส้นทางการพัฒนาเมืองใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าจะในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล
หน้า