พืชอันตราย ไม่ควรเข้าใกล้

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา ผมแวบไปชมงานของพิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพ ครบรอบ 90 ปี



ไม่มีเวลามากนักจึงต้องดูแบผ่านๆ มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง และได้เจอเจ้าต้นไม้ที่อันตรายสุดๆ ต้นที่เห็นนี้คือ "ต้นตำแยช้าง"



ใบของ ตำแยช้าง ถ้าดูใกล้จะเห็นว่ามีขนละเอียดปกคลุมอยู่ทั่วทั้งใบ


ความเห็น

ตอนนี้เห็นรูปเห็นชื่อก็พอจะจำได้อยุ่หรอกค่ะ ถ้าไปเจอของจริงนู๋แคทจะรู้มั้ยเนี่ย  ว่าเจ้าต้นเนี๊ยคือต้น ตำแยช้าง 555 ยิ่งเซ่อๆๆซ่าๆๆอยุ่ด้วยค่ะ ยังไงนู๋แคทก็ขอระวังตัวไว้ก่อนดีกว่าค่ะ ต้นไหนไม่คุ้นไม่รุ้จัก จะไม่พยายามเดินเข้าไปสัมผัสจนกว่าจะรู้ว่าคือต้นอะไร ขอบคุณกับความรุ้ดีๆๆที่นำมาแบ่งปันนะคะ ^^

ความจนมีอย่างน้อยสามแบบ
(๑) จนเพราะไม่มี (จนวัตถุเงินทอง)
(๒) จนเพราะไม่พอ (มีวัตถุเงินทองแต่ไม่รู้จักพอ)
(๓) จนเพราะไม่เท่า (มีทุกอย่างแต่ยังเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ มีเหนือกว่า)

ถ้าเผลอไปจับไม่อยากจะคิด..ดูเหมือนไม่มีอะไรพิษสงแยะเลย


ดูแต่ตามืออย่าต้องเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

เวลาเดินป่าก็จะเจอทั้งสองอย่างนี้แหละค่ะ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วเรียกยังไงกันแน่ แต่ส่วนมากเรียกกันว่า ต้น "ช้างร้อง" น่ะค่ะ บางเวปก็บอกว่า คือ ลังตังช้าง


อ้างจาก http://www.tourdoi.com/general/camping/danger_tree.htm


http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2007/07/A5571786/A5571786.html


 




ชนิดนี้จะเหมือนของคุณ กุหลาบฯ นะคะ ในเวปที่ลิงค์ให้จะเรียกว่า ต้นหาญ


 แต่ "Slowlife" เรียก  "หาญช้างร้อง" คำว่าช้างร้องคนนำทางเขาบอกว่า เวลาช้างไปสัมผัสมันจะเจ็บปวดมาก จนช้างร้อง




ส่วนสองภาพนี้เป็นต้งลังตังช้าง บางทีก็เรียกสลับกัน แต่สองชนิดนี้ไม่เหมือนกัน ก็งงๆ เหมือนกัน แต่ว่าทั้งสองอย่างมีเหมือนกันคือ อย่าไปสัมผัสโดนน่ะค่ะ

พี่สุรพล

 

ผมได้รับเมล็ดฟักข้าวแล้วนะครับ

 

มาถึงเมื่อวันพุธ 29 ก.ย. นี้เองครับ

 

ขอบคุณพี่มากครับ

(ตอน) มา...(ตอน) อยู่...และก

เป็นหนูเจออะไรปุ๊บจับปั๊บ คราวนี้ต้องระวังซะแล้ว -_-"

สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี

"ตำแย" เป็นภาษาไทยกลาง ใข้เรียกพืขขนิดหนึ่ง ซึ่งภาษาไทยถิ่นใต้เรียกว่า "ลังตัง"

พอเราไ้ด้ยินคำว่า "ตำแย" ก็นึกถึงความคัน แต่ที่แท้ ตำแย หรือ ลังตัง มีคุณสมบัติ ตั้งแต่ขั้นเบา ๆ คือคัน ได้แก่ "ลังตังไก่" ซึ่งเป็นพืชล้มลุก คัน แต่ถ้าไปลูบ หรือเกา จะเกิดอาการเจ็บปวดแทน ได้แก่ "ลังต้งกวาง" อันเป็นเถาวัลย์ จนถึงขั้นหนัก คือ ปวดแสบปวดร้อน คือ "ลังตังช้าง" ที่เห็นในภาพนัีนแหละ อาการแพ้ดังกล่าวเกิดขี้น เมืีอเราไปสัมผัสใบเท่านั้น

หลายครั้งได้เรื่องเพราะความอยากรู้อยากเห็น..พวกอันตรายเหล่านี้น่าจะมีอีกเยอะ..แต่ไม่ค่อยรู้..ต้องเจ็บแสบคันก่อน

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ที่ไหนได้พิษร้ายแรงเหลือเกิน

ขออภัยและขอบคุณค่ะ

น่า สนใจมาก คนที่ดู แลต้นไม้นี่ คงต้อง หาเสื้อ คลุม เวลาปลูก ต้นไม่มี พิษ ดูแล ซะงามเลย ได้ความรู้ อีก แบบ ขอบคุณ ครับ

มีต้นคล้ายแบบนี้ในสวน เรียกหญ้าบุ้งหาน

เวลาเดินไปโดน จะคันมาก ผิวเป็นเม็ดปื้นๆ

ขึ้นมา คล้ายลมพิษ แต่คัน ๆแสบๆ ร้อนมากกว่าลมพิษ

ตอนเด็กซนมาก โดนบ่อย แม่จะเอาน้ำเชื่อมทาให้

ก็หายไวเหมือนกันนะ

เห็นเกิดเยอะมาก ต้องคอยถอนทิ้งตลอด 

ลูกอิสานกันดารแท้ แต่บ่อเหี่ยวทางน้ำใจเด้อ
หากแหม่นใหลหลั่งรินปานฝนแต่เมืองฟ้า
มาเด้อพวกพี่น้อง สานสัมพันธ์ให้มันแก่น
ให้ยืนยาวแนบแน่นพอปานปั้นก้อนข้าวเหนียว เด้อพี่น้อง

หน้า