พืชอันตราย ไม่ควรเข้าใกล้
หมวดหมู่ของบล็อก:
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา ผมแวบไปชมงานของพิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพ ครบรอบ 90 ปี
ไม่มีเวลามากนักจึงต้องดูแบผ่านๆ มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง และได้เจอเจ้าต้นไม้ที่อันตรายสุดๆ ต้นที่เห็นนี้คือ "ต้นตำแยช้าง"
ใบของ ตำแยช้าง ถ้าดูใกล้จะเห็นว่ามีขนละเอียดปกคลุมอยู่ทั่วทั้งใบ
- บล็อกของ rose1000
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 10215 ครั้ง
ความเห็น
nuucat
2 ตุลาคม, 2010 - 21:38
Permalink
น่ากลัวจัง
ตอนนี้เห็นรูปเห็นชื่อก็พอจะจำได้อยุ่หรอกค่ะ ถ้าไปเจอของจริงนู๋แคทจะรู้มั้ยเนี่ย ว่าเจ้าต้นเนี๊ยคือต้น ตำแยช้าง 555 ยิ่งเซ่อๆๆซ่าๆๆอยุ่ด้วยค่ะ ยังไงนู๋แคทก็ขอระวังตัวไว้ก่อนดีกว่าค่ะ ต้นไหนไม่คุ้นไม่รุ้จัก จะไม่พยายามเดินเข้าไปสัมผัสจนกว่าจะรู้ว่าคือต้นอะไร ขอบคุณกับความรุ้ดีๆๆที่นำมาแบ่งปันนะคะ ^^
ความจนมีอย่างน้อยสามแบบ
(๑) จนเพราะไม่มี (จนวัตถุเงินทอง)
(๒) จนเพราะไม่พอ (มีวัตถุเงินทองแต่ไม่รู้จักพอ)
(๓) จนเพราะไม่เท่า (มีทุกอย่างแต่ยังเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ มีเหนือกว่า)
tantawan-ตะวัน
2 ตุลาคม, 2010 - 21:42
Permalink
ลุงโรส
ถ้าเผลอไปจับไม่อยากจะคิด..ดูเหมือนไม่มีอะไรพิษสงแยะเลย
ดูแต่ตามืออย่าต้องเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
Slowlife
2 ตุลาคม, 2010 - 21:50
Permalink
มาร่วมแจมค่ะ งงเหมือนกัน
เวลาเดินป่าก็จะเจอทั้งสองอย่างนี้แหละค่ะ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วเรียกยังไงกันแน่ แต่ส่วนมากเรียกกันว่า ต้น "ช้างร้อง" น่ะค่ะ บางเวปก็บอกว่า คือ ลังตังช้าง
อ้างจาก http://www.tourdoi.com/general/camping/danger_tree.htm
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2007/07/A5571786/A5571786.html
ชนิดนี้จะเหมือนของคุณ กุหลาบฯ นะคะ ในเวปที่ลิงค์ให้จะเรียกว่า ต้นหาญ
แต่ "Slowlife" เรียก "หาญช้างร้อง" คำว่าช้างร้องคนนำทางเขาบอกว่า เวลาช้างไปสัมผัสมันจะเจ็บปวดมาก จนช้างร้อง
ส่วนสองภาพนี้เป็นต้งลังตังช้าง บางทีก็เรียกสลับกัน แต่สองชนิดนี้ไม่เหมือนกัน ก็งงๆ เหมือนกัน แต่ว่าทั้งสองอย่างมีเหมือนกันคือ อย่าไปสัมผัสโดนน่ะค่ะ
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
อนุบาลเกษตร
2 ตุลาคม, 2010 - 21:56
Permalink
ขอบคุณครับ
พี่สุรพล
ผมได้รับเมล็ดฟักข้าวแล้วนะครับ
มาถึงเมื่อวันพุธ 29 ก.ย. นี้เองครับ
ขอบคุณพี่มากครับ
(ตอน) มา...(ตอน) อยู่...และก
มะโหน่ง
3 ตุลาคม, 2010 - 00:22
Permalink
แหะๆ
เป็นหนูเจออะไรปุ๊บจับปั๊บ คราวนี้ต้องระวังซะแล้ว -_-"
สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี
paloo
3 ตุลาคม, 2010 - 01:03
Permalink
ตำแย = ลังตัง
"ตำแย" เป็นภาษาไทยกลาง ใข้เรียกพืขขนิดหนึ่ง ซึ่งภาษาไทยถิ่นใต้เรียกว่า "ลังตัง"
พอเราไ้ด้ยินคำว่า "ตำแย" ก็นึกถึงความคัน แต่ที่แท้ ตำแย หรือ ลังตัง มีคุณสมบัติ ตั้งแต่ขั้นเบา ๆ คือคัน ได้แก่ "ลังตังไก่" ซึ่งเป็นพืชล้มลุก คัน แต่ถ้าไปลูบ หรือเกา จะเกิดอาการเจ็บปวดแทน ได้แก่ "ลังต้งกวาง" อันเป็นเถาวัลย์ จนถึงขั้นหนัก คือ ปวดแสบปวดร้อน คือ "ลังตังช้าง" ที่เห็นในภาพนัีนแหละ อาการแพ้ดังกล่าวเกิดขี้น เมืีอเราไปสัมผัสใบเท่านั้น
ตั้ม
3 ตุลาคม, 2010 - 05:50
Permalink
ไม่รู้อีกเยอะ
หลายครั้งได้เรื่องเพราะความอยากรู้อยากเห็น..พวกอันตรายเหล่านี้น่าจะมีอีกเยอะ..แต่ไม่ค่อยรู้..ต้องเจ็บแสบคันก่อน
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
นาย
3 ตุลาคม, 2010 - 06:34
Permalink
ธรรมดา
ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ที่ไหนได้พิษร้ายแรงเหลือเกิน
ขออภัยและขอบคุณค่ะ
Tui
3 ตุลาคม, 2010 - 08:16
Permalink
น่า สนใจมาก คนที่ดู
น่า สนใจมาก คนที่ดู แลต้นไม้นี่ คงต้อง หาเสื้อ คลุม เวลาปลูก ต้นไม่มี พิษ ดูแล ซะงามเลย ได้ความรู้ อีก แบบ ขอบคุณ ครับ
ป้าหน่อย
3 ตุลาคม, 2010 - 08:25
Permalink
ต้นบุ้งหาน
มีต้นคล้ายแบบนี้ในสวน เรียกหญ้าบุ้งหาน
เวลาเดินไปโดน จะคันมาก ผิวเป็นเม็ดปื้นๆ
ขึ้นมา คล้ายลมพิษ แต่คัน ๆแสบๆ ร้อนมากกว่าลมพิษ
ตอนเด็กซนมาก โดนบ่อย แม่จะเอาน้ำเชื่อมทาให้
ก็หายไวเหมือนกันนะ
เห็นเกิดเยอะมาก ต้องคอยถอนทิ้งตลอด
ลูกอิสานกันดารแท้ แต่บ่อเหี่ยวทางน้ำใจเด้อ
หากแหม่นใหลหลั่งรินปานฝนแต่เมืองฟ้า
มาเด้อพวกพี่น้อง สานสัมพันธ์ให้มันแก่น
ให้ยืนยาวแนบแน่นพอปานปั้นก้อนข้าวเหนียว เด้อพี่น้อง
หน้า