ขอบคุณสำนักแพทย์พื้นบ้านไทย..ที่ทำให้ได้มาเจอบ้านสวนพอเพียง...ทำให้เข้าร่วมโครงการผักข้างบ้าน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

           วันนี้ขอเล่าเรื่องโดยไม่มีภาพนะคะ


เป็นเบื้องหลังของการหลงรักบ้านสวนพอเพียง


    อาจไม่เคยบอกเล่าถึงสาเหตุที่เข้ามาบ้านสวนแก่พี่ๆน้องๆ...วันนี้จึงมีอีก 1เรื่อง..ที่อยากนำมาเล่า..ชีวิตก่อนมาเป็นสาวน้อยบ้านสวนพอเพียง..ได้มีโอกาสร่วมโครงการวิจัยของสำนักแพทย์พื้นบ้าน..ซึ่งมีสมช..บ้านสวนท่านหนึ่งคือน้องจุ๋ม...เป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบโครงการอนุรักษ์ผักพื้นบ้านและและอาหารพื้นเมือง...โดยมีชมรมผักปลอดสารพิษบ้านทุ่งเสม็ดซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลละงูได้รับเลือกเป็นพื้นที่เป้าหมายในการวิจัยด้วย...สาวน้อยซึ่งรับผิดชอบงานแพทย์แผนไทย มีความรู้ด้านสมุนไพรแบบงูๆปลาๆ..เป็นหนึ่งในทีมวิจัยได้รับมอบหมายให้สำรวจผักพื้นบ้านในชุมเป้าหมายและสร้างสวนสมุนไพรสาธิต...จึงเล็งพื้นที่หน้าที่ทำงานที่เคยปลูกสมุนไพรแล้วปล่อยให้ขึ้นตามมีตามเกิด...มาเป็นศูนย์เรียนรู้สมุนไพรและผักพื้นบ้านของโรงพยาบาลละงู..เมื่อความคิดบรรเจิด..ก็เริ่มลงมือ..ตอนแรก..จะทำรั้วโดยใช้ล้อรถยนต์ ..อุตส่าขอล้อรถกับเจ้าร้านที่สนิทมา เกลือบ 10 อัน  ..แอบใช้ความเป็นน้องขอช่วยให้พี่ชายซึ่งเป็นคนขับรถของโรงพยาบาลไปเอาให้...พอนำมาถึง...โดนท้วงว่าไม่สวยเพราะพื้นที่นิดเดียว...เอาล่ะหว่า..จะทำไงกับล้อรถ..."งั้นใช้ปลูกต้นไม้ก็ได้"..คิดอย่างนี้แล้วจัดการสั่งดินชีวภาพ..(สั่งหน้าดินจากลูกพี่ลูกน้องขนาดใช้ความเป็นญาติก็ไม่ได้..เพราะหน้าดินเดี๊ยวนี้หายากมาก" เมื่อได้ดินชีวภาพขี้ไก่ ขี้วัว มาแล้ว  มะพร้าวสับ..จัดการคลุกผสมๆๆ..เทใส่ล้อรถ.".เทไปเกือบกระสอบแล้วทำไมไม่เต็มอีกนะ...(ก็ล้อรถมีช่องว่างเทไปก็ไหลไปตรงช่องว่างก่อน ..สิ้นเปลืองดินเกินไป..)คิดแผนไหม่ เอาเปลือกมะพร้าวมาอัดร่องล้อรถแล้วเทดินใหม่..เลยเสร็จไป 1เรื่อง..ที่นี้ต้องมาคิดเรื่องรั้วใหม่..จะทำแบบไหนดี..แผน2 แอบเข้ามาเมียงมองบ้านสวน เห็นผักกระสอบบ้านผู้ใหญ่...เลยคิดว่าลองใช้กระสอบปลูกเป็นรั้วผักหวานดีกว่า..พอกลับมาลงมือจะทำ..ความคิดเริ่มค้านอีกแล้ว..ถ้าปลูกในกระสอบต้องใช้ดินเยอะ..เราไม่มีดินที่สมบูรณ์พอ..การทำรั้วเลยหยุดชะงัก..อีกครั้ง...คราวนี้เลยเลิกคิดเรื่องรั้วไปก่อน..มาคิดเรื่องป้ายชื่อสวน..คิดไว้หลายชื่อแต่ด้วยเวลากระชั้นชิดเลยได้ชื่อเป็นศูนย์เรียนรู้สมุนไพรและผักพื้นบ้าน..ซึ่งดูเป็นทางการมากไปหน่อย..ที่จริง อยากได้ชื่อแบบสบายๆมากว่า..แต่แก้ไม่ได้แล้ว..เพราะป้ายได้แกะมาเรียบร้อยสวยงามด้วยการสนับสนุนจากค่ายสอรฝ.ตำบลแหลมสน.. ที่นี้ก็มาเริ่มแผนต่อไปคือปลูกผักสมุนไพรที่มีในชุมชนและทำป้าย...สมุนไพรที่ได้มาซื้อมาบ้างขอมาบ้าง(ขอมาเป็นส่วนใหญ่..ช่วงนั้นถ้าน้อยออกชุมชน..แล้วกลับมาที่ฝ่ายจะล้อว่าวันนี้ไปถอนต้นไม้ใครมาอีกหรือเปล่า...จากการที่เคยร้างลาจากการทำสวนครั้งสุดท้ายที่ทำสวนปลูกผักจริงๆก็เกือบ 20 ปีแล้ว...


       ขอย้อนอดีตหน่อยนะคะ..แต่เดิมที่บ้านปลูกผักขายแม่ปลูกผักขายเองตลอด ตอนเช้าต้องรดน้ำผักก่อนไปโรงเรียน สมัยก่อนต้องแบกบัวรดน้ำด้วยไม้หาบ..(พี่สาวและพี่ชายเป็นคนแบก..น้อยถอนญ้าวันละแปลง)..ที่บ้านจึงชอบต้นไม้กันทุกคน...เมื่อก่อนบ้ากล้วยไม้กันทั้งบ้าน 9 คนพี่อน้อง ปลูกแข่งกันเลยล่ะค่ะ..ตอนนี้มีพี่วคนโต)แม่เปรี้ยวส้ม และน้องปลาย)ที่ยังปลูกผักและเพาะต้นไม้ขายสืบสานต่อจากแม่..พี่สาวคนโตเป็นคนเดียวในพี่น้องที่เรียนน้อยที่สุด..แต่พี่สาวมีพร้อมทุกอย่าง บ้านที่ดิน และสวนพี่สาวมีความสุขกับการปลูกผักไปขายในตลาดทุกๆเช้า ไม่ว่าหลานๆจะให้หยุดพัก..ซึ่งเจ้าตัวบอกหยุดไม่ได้ถ้าหยุดทำสวนปลูกผักแล้วให้อยู่เฉยๆเบื่อแย่เลย..ส่วนพี่น้องคนอื่นรวมทั้งน้อย..ก็ได้เรียนต่อด้วยพี่สาวและพี่ๆคนอื่นช่วยกันส่งให้เรียน..เมื่อก่อนที่บ้านพอมีที่นาที่สวนอยู่บ้าง...หลังจากแม่เสียชีวิตตอนน้อยอายุ 8 ปี พ่อก็ขาดกำลังใจแต่ยังมีความรักและเอาใจใส่ลูกๆทุกคน..พ่อบอกว่าต้องการให้ลูกๆเรียนให้สูง..แม้ต้องขายที่ทางก็ตาม..เมื่อลูกมีความรู้มีงานทำ..ลูกก็สามารถสร้างสมบัติเหล่านั้นขึ้นมาอีกได้...(แต่ว่าตอนนี้พ่อจ๋า..ที่ดินแพงเหลือเกิน...ไม่รู้จะได้สร้างสวนยางสักสวนไหมนะ)..พ่อเสียตอนน้อยอายุ 11ปี...สิ่งพี่พ่อทิ้งไว้ให้ลูกๆคือวิชาติดตัว..และการงานที่ก้าวหน้า ครอบครัวที่อบอุ่นในบรรดาพี่น้อง


        กลับมาปัจจุบันต่อนะคะ...หลังจากเจาะเวลาหาอดีตแล้ว..เมื่อเริ่มทำสวน..ต้องโดนแดด..(อ๋อยตัวดำหน้าดำอยู่แล้วยิ่งดำไปอีก)พอ 4 โมง เริ่มส่งเสียงเรียกน้องในฝ่ายไปช่วย รดน้ำบ้าง ช่วยปลูกบ้าง ..มีหลายเสียงเข้าหูมาแว่วๆๆ..."จะทำไปได้สักกี่วัน"...ไอน้อยมันบ้าเป็นพักๆเดี๊ยวก็เบื่อ..เดี๊ยวสวนก็รกเหมือนเดิมแหละ"..หรือ"ทำให้เหนื่อยทำไม"..ไม่เห็นจะได้ความดีความชอบ"..เสียงที่ได้ยินเข้ามา..ทำให้ท้อ..แต่แล้วก็ฮึด.....ถ้านับเวลา ก็ผ่านไปครึ่งปีแล้วสวนสมุนไพรยังคงอยู่ได้..มีพันธ์ผักและพันธ์ไม้เพิ่มขึ้น..ตอนนี้ต้นไม้ในสวนคงเกือบ 100 ชนิดแล้ว ไหนจะยังมีเมล็ดพันธ์ที่ได้รับน้ำใจจากพี้น้องบ้านสวนอีก..คงได้ปลูกเพิ่มอีหลายอย่าง...สิ่งได้เลียนแบบจากบ้านสวน คือการแบ่งปันเมล็ดพันธ์ผัก..ซึ่งเป้าหมายเดียวกันกับโครงการของหมู่บ้านคืออยากให้คนที่สนใจได้ปลูกผักกินเองโดยไม่ใช้สารเคมี...อย่างที่ผู้ใหญโสทรเคยบอกว่า "ผักปลอดสารพิษ..ที่ซื้อมาเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าปลอดจริง..หากต้องการรับประทานผักปลอดสารพิษจริงทำไม่ปลูกเอง..คงไม่มีใครกล้ากินผักที่ตัวเองปลูกแล้วใส่สารเคมีใช่มั้ยคะ..


      จนถึงวันนี้ ผักในสวน ไม่ว่าดอกชมจันทร์ บวบ ยอดชะมวง ยอดชะเอม ผักชีล้อม ผักชีลาว โหระพา ผักปลัง ชะพลู  หรือแม้แต่ยอดดาวกระจายที่น้อยปลูกเพราะชอบดอก..ยังเป็นผักเหนาะสุดโปรดของพี่วิชิตเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล..ทุกๆเช้าจะมีพี่กุ๋ง มาช่วยเก็บดอกชมจันทร์ ไว้ให้สำหรับแบ่งปันเจ้าหน้าที่หรือผู้ป่วยที่สนใจรับประทาน น้องๆที่มาทำงานงานตอน 7.30น. ก็จะช่วยรดน้ำผักให้ก่อนเริ่มงาน ส่วนน้อย ก็มีหน้าที่เก็บผักตอนเย็น และรดน้ำต้นไม้ช่วงเย็นก่อนกลับบ้านและขยายพันธ์ไม้เพิ่มขึ้น..รวมทั้งน้องๆคนสวนของโรงพยาบาลที่มาช่วยตัดหญ้าในสวน(ถึงแม้จะตัดต้นไม้ตายไปหลายต้นก็ตาม) อ้อ..เกือบลืม เล่าถึงรั้วเจ้าปัญหา..ที่เห็นค้างดอกชมจันทร์ที่เคยนำเสนอ..ได้รับความสนับสนุนจากพี่ทหารจากค่ายสอรฝ.ตำบลแหลมสนอีกเช่นกันต้องขอขอบคุณผ่านที่นี้ด้วยนะคะ ..ตอนนี้เวลาคนไข้มานวด..จะมีการแจกสมุนไพรกลับไปเพาะไปปลูกเป็นการแถมตามอาการ เช่นใครเมื่อยบ่อยๆก็ให้เอาไพลไปปลูก คนที่เป็นความดันก็ให้แปะตำตึง รางจืด หรือมะรุม (แต่ตอนนี้มะรุมหมด)...เรียกว่าไม่มีขายมีแต่แจกกับแถม เช่น ขอต้นรางจืดแถมต้นแคไปด้วย...ตอนนี้น้อยคำตอบให้กับเสียงที่มากระทบ..ทำให้เหนื่อยทำไม..ตอนเช้าๆหรือช่วง 4-5 โมงของแต่ละวันจะมีเสียงทักทายจากผู้ที่เดินผ่านสวนว่า..พี่น้อยวันนี้ดอกชมจันทร์มีใครขอหรือยัง.. พี่น้อยขอดอกกระเจ๊ยบไปต้มได้มั้ยคะ..น้องน้อย..ขอบคุณนะคะสำหรับผักที่เอามาฝาก..หรือลูกน้อย..ชามะรุมที่ให้ยังมีอีกมั้ย..อร่อยดีนะ..แม้แต่ลาสุดไปประชุมที่สสจ.พี่ที่รับผิดชอบโทรมาบอกว่าน้องน้อยมีต้นรางจืดไหม..ตอนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังรณรง์ให้ดื่มสมุนไพรที่ช่วยขับสารพิษและล้างพิษในร่างกาย..นำมาเป็นตัวอย่างแก่ผู้เข้าประชุมสักต้นได้มั้ย..พี่สั่งต้นเดี่ยว น้อยนำไป 5 ต้น..ปรากฎว่าเกิดศึกแย่งต้นรางจืดจากผู้เข้าประชุมหลังจากทราบสรรพคุณ...จนต้องบอกว่าที่รพ.ยังมีอีกเยอะมีเวลาแวะรับได้นะคะ..


       วันนี้เรื่องอาจจะยาว...แต่เป็นอะไรที่อยากบอกเล่า น้อยไม่ได้ทำสวนเป็นงานหลัก..เพราะงานประจำน้อยคืองานรับผิดชอบการรักษาและส่งเสริมสุขภาพประชาชนในชุมชนด้วยแพทย์แผนไทย (มีงานเสริมคือเปิดร้านนวดเพื่อสุขภาพ)งานสวนสมุนไพรในการเริ่มต้นครั้งแรกคืองานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย....แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นงานอดิเรกกที่ทำด้วยใจรัก)ไปแล้ว..แรงบันดาลใจมาจากไหน..จากการเข้ามาอ่านและเรียนรู้ประสบการณ์จากพี่น้องบ้านสวน...จากน้ำใจในการแบ่งปันเมล็ดพันธ์ของพี่น้อง..(รับมาแล้วต้องทำการบ้านส่ง...ช้าไม่ได้กลัวติด ร.)กำลังใจและจากผู้ได้รับการแบ่งปันผักและสมุนไพรและสุดท้าย ความร่วมมือจากน้องๆในหน่วยงานโดยเฉพาะ น้องญา และน้องสูหรี วันหน้าจะนำมาแนะนำนะคะ..ตอนนี้กำลังปรับปรุงสวนอีกรอบ..ต้อนรับหน้าแล้ง คงได้มารายงานผลความก้าหน้าของโครงการหลังจากกลับมาดูงาน..เดี๊ยวจะส่งใบลาอีกที่ตอนวันใกล้ไปนะคะ..


          นี่คือเหตุผลที่ต้องขอบคุณสำนักแพทย์พื้นบ้านที่มีโครงการในการอนุรักษ์๓มปัญญาท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหรือหมอพื้นบ้านหรือตำรับยาต่างๆ..หากไม่ได้ร่วมโครงการ...ซึ่งเป็นต้นเหตุในการเข้ามาหาข้อมูลโดยการพิมพ์ผ่านลุงกู๋..ว่าต้นแป๊ะตำตึง..น้อยคงจะยังไม่ได้เข้ามาบ้านสวน..และติดใจบ้านสวนจนไม่อยากย้ายไปไหนแล้ว


             เก็บตกจบแล้วค่ะ....เอ๋ยไม่ใช่...เรื่องเล่าของสาวน้อยจบแล้วค่ะ...เขียนไม่เก่งแต่รักหมดใจนะคะ...(เปิดเพลงนี้ฟังพอดี)


ด้วยรัก...สาวน้อยบ้านสวน

ความเห็น

อ่านแล้วบอกได้แค่คำเดียวค่ะว่าซึ้งและมีความสุข

แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง

ทดสอบ

 อ่านเกือบไม่จบ พออ่านจบแล้ว ทำให้รู้ว่า น้องสาวน้อยเก่งมาก


 ขอชมเชย ทั้งงานหลวง งานราษฎร รับมือได้หมด

พอเพียงเพื่อเพียงพอ


jabee_68@hotmail.co.th

หน้า