ไปเที่ยวไร่มะละกอ ลูกนิก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

         เมื่อวาน วันหยุดแดง อ้ายเวทย์ก็ไม่ได้สีข้าว ลูกนิกก็เพิ่งกลับจากกรุงเทพ หลังจากที่ไปเที่ยวกรุงเทพนานหลายวัน ครอบครัวนิกนอกจากจะมีสวนยางพาราแล้ว ยังทำไร่มะละกออีกราวสิบไร่ หลายครั้งที่นิกรบเร้าให้ไปชมสวนมะละกอ แต่ก็ไม่มีโอกาสไป วันนี้มีโอกาสไปชม

          มะละกอพันธุ์แขกดำ ลูกสวย ๆ นิกเก็บไว้ทำพันธุ์ แต่วันนี้อ้ายเวทย์เป็นคนพิเศษเลยได้มะละกอลูกใหญ่ ๆมา 4 ลูก

        ลูกสวย ๆแบบนี้ แต่ราคาตอนนี้ไม่ได้สวยเหมือนลูกมะละกอ ที่เห็นขายถุงละ10 กก. พ่อค้าคนกลางมารับไป กก.ละ 1 บาทแค่นั้นนะ นั้นหมายถึงรับจากเกษตรแค่ถุงละ 10 บาท เมื่อวานถามนิกว่า ได้กำไรไปเท่าไหร่แล้วเพราะเห็นขายไปหลายครั้งแล้ว นิกตอบว่า แค่ทุนก็ยังไม่เห็นเลย เฉพาะค่าน้ำมันที่สูบน้ำขึ้นมารดแต่ละวันก็ตกวันละ 250 บาทแล้ว

   ในสวนยังมีมะเขือ ที่นิกเอามาจากสวนแดงมาปลูก

            นี่ก็มะเขือยักษ์จากผู้ใหญ่บ้านเรา

อ้ายเวทย์บอก  กก.ละ 1 บาท เหนื่อยแทนคนปลูก แต่นิกบอกว่าปีกลายก็ปลูก และเคยขายได้ราคาสูงสุด กก.ละ 10 บาท(ถุงละ 100 บาท) แต่ก็มีช่วงที่สุด ๆ คือไม่มีคนมาซื้อเลยก็มี

        สวนยางพาราของชาวบ้าน ที่อยู่ไม่ห่างไร่มะละกอนิกมากนัก สภาพดินเป็นทราย แต่ชาวบ้านก็ยังปลูกยางพารา เห็นแล้วสงสารต้นยางมาก แดดก็ร้อน แล้งก็แรง

          เครือหมาน้อย แม่นิกเก็บ ฝากพ่อแดง เครือหมาน้อยนิกบอกว่าให้คั้นน้ำแล้วทำเป็นวุ้น งานนี้มีแต่พ่อแดงเท่านั้นที่ทำเป็น เพราะอาหารประเภทนี้ คนสมัยเก่าเท่านั้นที่ทำได้

พริกขี้หนู เม็ดเล็ก ๆ แม่นิกบอกได้มาจากชุมพร ทนโรคได้ดี เมื่อเช้าเพาะลงดินไปแล้ว

ผักหนาม นี่ก็นิกให้มา เมื่อคืนอ้ายเวทย์ก็ลวกจิ้มน้ำพริกไปแล้ว

                       ลูกนี้ใหญ่มาก


                                                                           โปรดติดตามตอนต่อไป....................

ความเห็น

มะละกองามขนาดเลย น่ากินจังเค่ะ สุกๆคงจะหวานน่าดู

สงสารคนปลูก :sweating:

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

มะละกอแขกดำ เมื่อวานแก้วเพิ่งเห็นที่ตลาด ลูกละประมาณครึ่งโล ลูกนิดเดียว ไม่งาม โลละ 25 บาท ถ้าได้ลูกขนาด4โลนี่ ไม่รู้ราคาจะเท่าไหร่กัน


ทำไมราคาของนิกถูกมากๆ คนรับซื้อไปขาย เอากำไรมากจัง


ถ้าอยู่ใกล้ๆ แก้วอยากจะรับซื้อจากนิกเลย เห็นใจคนปลูกจริงๆค่ะ


 

ทำเกษตรเชิงเดี่ยวก็แบบนี้นี้ค่ะ ถ้าของออกมาชนกันก็ตายเลย แต่ที่ตรงนี้นิกเช่าที่ปลูก หมดรุ่นแล้วอาจจะไม่ทำต่อค่ะเพราะแค่สวนยางพารา 25 ไร่ งานก็ล้นมือแล้วค่ะ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

หากอยู่ไม่ไกลกรุงเทพมาก ขนมาขายเอง คนคงแย่งกันซื้อแน่ๆเลย งามขนาด น่าจะอร่อยด้วย ดูแล้วเนื้อน่าจะแน่น


คนที่มีฝีมือ ปลูกได้ผลดีๆแบบนี้ น่าจะมีคนส่งเสริม น่าเสียดายจริงๆค่ะ

 

ปลูกมะละกอกี่ต้นเนี่ย เยอะเลย แล้วไหนจะกรีดยางอีก สุดยอดจริงๆ ชอบๆๆๆ

 

ปล หากแจก เจเจ จองด้วยนะ อิอิ :sweating:

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

มะละกอ 10 ไร่ เก็บครั้งละ 4-5 ตัน เดือนละ 2 ครั้ง โลละบาท :sweating:

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

สนใจเครือหมาน้อย...อยากลองเอาทำมาร์คพอกหน้า..มีพันธุ์ไหมคะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

เมื่อวานก็ถามนิกว่า มีเม็ดไหม นิกบอกไม่เคยเห็นเม็ด แต่ถ้าจะเอาเครือไปปลูก รับรอง เรียบร้อยไปสวรรค์แน่ค่ะอากาศแบบนี้ :sweating:

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

 ลูกสวย ๆแบบนี้ แต่ราคาตอนนี้ไม่ได้สวยเหมือนลูกมะละกอ ที่เห็นขายถุงละ10 กก. พ่อค้าคนกลางมารับไป กก.ละ 1 บาทแค่นั้นนะ นั้นหมายถึงรับจากเกษตรแค่ถุงละ 10 บาท เมื่อวานถามนิกว่า ได้กำไรไปเท่าไหร่แล้วเพราะเห็นขายไปหลายครั้งแล้ว นิกตอบว่า แค่ทุนก็ยังไม่เห็นเลย เฉพาะค่าน้ำมันที่สูบน้ำขึ้นมารดแต่ละวันก็ตกวันละ 250 บาทแล้ว

 

 

ระยะหลังๆ ได้ให้ความคิดเห็นแก่เพื่อนๆ ที่สนใจทำ โครงการทฤษฏีใหม่ หรือแม้แต่ โครงการฯพอเพียง ว่า ถ้าจะปลูกผักกินใบ กินผล ก็ตาม ทำเพียงไม่เกิน 10% ของโครงการ เพราะ การออกแบบ ต้นทุน การดูแล ยากกว่า การทำเกษตร นา ไร่ สวน อื่นๆ หรือพูดง่ายๆว่า การได้ผลตอบแทนด้านการลงทุนต่ำมาก และต้องเสียเวลาดูแล สมอง แรงงาน แรงใจ ถ้าทำมากเป็นอาชีพ โอกาสประสบผลมีน้อยมาก

 

และหลายๆครั้ง ได้แนะนำว่า อย่าทำเกษตรโดยรวม เกิน 30% ของโครงการทฤษฏีต่างๆ (ถ้าไม่ได้มีความประสงค์ด้านอื่นๆ)(พืชผักไม่ควรเกิน 10%) เพราะไม่ว่า จะเกษตรด้านใด คนที่ทำ เป็นอาชีพหลัก เสริม หรืออื่นใด ก็ไม่สามารถจะมีภูมิคุ้มกัน หรือความมั่นใจไปได้ตลอด ไม่เหมือนโครงการอื่นๆ (ไม่ใช่เกษตรโดยตรง) เพราะโอกาสจะ ขยายโครงการ และไม่เสี่ยงยากมากๆ

 

ไม่เคยเสียใจว่า เรียน และทำงานด้าน พืชผัก มาตลอดชีวิต แต่เสียใจว่า เกษตรกรที่ปลูกผัก ไม่มีโอกาสได้อยู่รอด มั่นคง อย่างน้อย เช่น เกษตร ด้านอื่นๆ (ไม่ต้องเทียบกับ การทำธุรกิจด้านอื่นๆ)

ยังปลูก มะละกอฮอร์แลนด์ ในโครงการ เป็นการอยู่รอดของโครงการอยู่บ้าง เพียงแต่ ท่องจำว่า ผักกินผล หรือแม้แต่ผลไม้ ช่วงเดือน ตุลาคม ไม่ได้มีให้ทาน มีหลากหลายชนิด

ตั้งใจว่า จะไม่เขียนอะไรให้หนัก หรือไม่สบายใจ ระยะหลังๆ จึงพูดถึง แต่ ปุ๋ยหมักพอเพียง ที่ทำไว้ใช้ เรียนรู้ และเป็นวิทยาทานให้คนที่รัก พืชผัก เกษตร เพราะว่า เป็นโครงการที่ คิดว่า มีประโยชน์ และมีภูมิคุ้มกัน มีความพอเพียงให้คนยากจน หรือเกษตรกรในแต่ละท้องที่ (และคนในเมืองที่รักจะ ปลูกกินผักเอง) ได้มีผักไว้ทาน สด กรอบ ปลอดภัย ตามที่ควร โดยเฉพาะในช่วงที่ มีเวลาว่าง ในช่วงที่ผักมีราคาแพง

เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย

 

 

หน้า