*** สร้อย อินทนิล ***

หมวดหมู่ของบล็อก: 


...เมื่อเช้าคุณแม่เดินผ่านซุ้มสร้อยอินทนิล ที่ปลูกมาเป็นปีแต่ท่านคงไม่สังเกตุ


จนกระทั่งเขาออกดอกสวยงามท่านจึงสังเกตุเห็นคิดว่าอย่างนั้น...


ดีใจที่คุณแม่ชอบเพราะก่อนนั้นท่านไม่ชอบให้ปลูกอะไรที่กินไม่ได้ท่านว่าเปลืองพื้นที่


และแล้วต่อๆมาท่านเห็นเราชอบมั๊งเลยชอบด้วย


ประเมินได้จากที่ไปไหนมาไหนถ้าเห็นอะไรสวยๆแล้วท่านจะขอกิ่งหรือไม่ก็เมล็ดมาฝาก




ชื่อวิทยาศาสตร์       
Thunbergia grandiflora.

ตระกูล                     
ACANTHACEAE

ชื่อสามัญ                 
Key Vine, Sky Flower, Heavenly Blue, Blue Trumpet,BengalClockvine.     


ลักษณะทั่วไป  
สร้อยอินทนิลเป็นไม้เถาเลื้อยที่มีขนาดใหญ่ สามารถเลื้อยพันต้นไม้อื่นไปได้ไกลประมาณ 40-50 ฟุต เถาอ่อนมีสีเขียวเข้ม ส่วนเถาแก่จะเป็นสีน้ำตาล

ใบ : เป็นไม้ใบเดี่ยว ออกใบเป็นคู่ตรงข้ามกันตามข้อต้น ลักษณะรูปทรงใบจะเป็นรูปไข่แกมรูปหัวใจ หรือใบคล้ายใบพลูเพียงแต่ปลายใบจะแหลมกว่าใบพลู โคนใบเว้าหยักเป็นรูปหัวใจ ใบมีขนแข็ง ๆ หากจับดูจะรู้สึกระคายมือใบมีความกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร และมีความยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร

ดอก : สร้อยอินทนิลมีดอกสีฟ้าอ่อนถึงสีฟ้าเข้ม ออกดอกเป็นช่อตามข้อต้นหรือตามซอกใบ ดอกช่อหนึ่ง ๆ ยาวประมาณ 3 ฟุต ลักษณะของดอกเป็นทรงกรวย ห้อยลง มี 5 กลีบ ขนาดของกลีบดอกไม่เท่ากัน โคนดอกเป็นหลอดปลายบานออก ภายในดอกมีเกสร 4 อัน ซึ่งมีความยาวไม่เท่ากัน คือจะสั้น 2 อัน และยาวอีก 2 อัน

ฤดูกาลออกดอก
สร้อยอินทนิลจะออกดอกตลอดปี

การปลูก   
สร้อยอินทนิลเป็นไม้ที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตเร็ว มีนิสัยชอบอยู่กลางแจ้งเหมาะที่จะให้เลื้อยขึ้นซุ้ม เพราะสร้อยอินทนิลเป็นไม้ที่มีใบดกแน่นทึบสามารถเป็นร่มไม้ใบบังได้เป็นอย่างดีและเมื่อยามออกดอกก็จะห้อยระย้าลงมา ดูสวยงามมาก การปลูกถ้าจะคิดประหยัดเวลา หรือต้องการปลูกแล้ว ให้ได้เห็นดอกในเร็ววันก็ควรนำกิ่งที่ได้จากการปักชำมาปลูก ซึ่งจะเร็วกว่าวิธีการเพาะเมล็ดมาก

การดูแลรักษา
แสง : สร้อยอินทนิลเป็นไม้กลางแจ้ง จึงมีความต้องการแสงแดดมาก

น้ำ : ต้องการน้ำปานกลาง หลังปลูกเมื่อต้นโตและแข็งแรงดีแล้วให้รดน้ำวันละ 1 ครั้ง แต่ละครั้งที่รดน้ำ จะต้องรดจนดินชุ่มจึงจะพอ แต่ก็มิได้หมายความว่าจะต้องรดจนดินแฉะ

ดิน : สร้อยอินทนิลเป็นไม้ที่ขึ้นง่ายในดินแทบทุกชนิด และถ้าเป็นดินร่วนปนทราย ที่มีการระบายน้ำได้ดี ก็จะยิ่งเจริญงอกงามได้ดี

ปุ๋ย : ตอนปลูกให้ใช้ปุ๋ยหมักเป็นปุ๋ยรองก้นหลุม เมื่อต้นโตแล้วให้พรวนดิน บริเวณโคนต้นแล้ว ใส่ปุ๋ยหมักปีละ 2-3 ครั้ง
                 

โรคและแมลง 
ไม่มีปัญหาเรื่องโรคและแมลง รบกวน ถึงขั้นเสียหาย

การขยายพันธุ์
โดยการเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และการปักชำ   


*** Sweet_pea***

ความเห็น

มีอ้ายผู่หนึ่งจ้า อยู่ซอยแม่เฮ็ดเวียกอยู่บ้าน เอาๆไปแหน่สิเป็นปุ๋ยแล้ว  (อ้ายอายุ 32 โสดสนิทค่ะ บ้านฮูกชอบอยู่ที่สูงกันค่ะ (ขึ้นคาน ฮิิๆๆ น้าสาวอายุ 52 อาผู้หญิง 39 น้าผูัชาย  37 พี่ชาย (ลูกลุงตอนนี้บวชอยู่ 34) โสดสนิททุกคน แย่จัง กลัวเจริญรอยตามค่ะ:nonono:

 

 

"ขอบคุณน้ำใจที่แบ่งปัน ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง"

แม่นัทฯได้ยินแน่ๆเลยลืมให้ตอบหลังไมค์ 5555555555555


ซำบายดีอยู่ที่คานทอง เนาะ

***Sweet pea***

บ่อทันแล้วเอื้อยณี นัทขอฮูกแล้ว ถ้าบ่ให้กะสิตีหัวเอาโลด :uhuhuh:


เอื้อยขอจักคนแน่

มีหลายคัก ๆ สิได้บ่ต้องแย่งกันกับเอื้อยณี :uhuhuh:


ได้เล้ยค่า มาเอาโลด แต่ว่า ผู่บวช คือสิบ่สึกค่ะ

 

 

"ขอบคุณน้ำใจที่แบ่งปัน ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง"

เอื้อยย่านบาปตั่วฮูก :uhuhuh:

ผู้อื่นได้หมดบ่ล่ะ

ได้เมิดค่ะ มื้อนี้ม่วนคัก เมื่อบ้านก่อนเด้อค่า วันจันทร์ป๊ะกันใหม่ มีความสุขสู่ผู่สู่คนเด้อค่า

 

 

"ขอบคุณน้ำใจที่แบ่งปัน ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง"

ต่างกันตรงไหนค่ะ ใครมีรูัปชัดๆ บ้างค่ะ น่าจะต่างกันตรงใบ

ดอกเหมือนกันทุกประการค่ะ สี ลักษณะใบเหมือนกันยังกะแกะกับแพะ


ถูกต้องค่ะต่างกันตรงใบและสรรพคุณทางยา

***Sweet pea***

สวยจริง ๆ คะ เห็นต้นนี้ครั้งแรกตอนไปกินอาหารร้านดังที่ปากช่อง แต่ยังไม่มีเป็นของตัวเองเลย

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

หน้า