อันตรายที่มาจากพืชผัก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ตอนนี้มีมหันตภัยคุกคามชีวิตของคนเยอรมัน สองอาทิตย์ที่ผ่านมาทางตอนเหนือของประเทศเยอรมันมีคนเสียชีวิตไปแล้ว14 ราย ด้วยโรคทางเดินอาหาร ทางแพทย์ได้แจ้งว่าสาเหตุที่ทำให้ตายคือเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า EHEC ลังจากที่ได้ตรวจสอบที่มาของโรคนี้ปรากฏว่าเป็นเชื้อที่ติดมาจากแตงกวาที่ส่งมาจากประเทศสเปน และทางสเปนก็ได้ออกมาแถลงว่า ของเขาสะอาดพอ แต่คาดว่าอาจจะมีการทำหกตกหล่นลงพื้นระหว่างการขนส่งหรือที่โรงเก็บพักสินค้าของทางเยอรมันเอง ไม่รู้ว่ามันจากไหน แต่ที่รู้คนที่ได้รับเชื้อตัวนี้เข้าไป ถ้ารักษาไม่ทันก็สามารถทำให้ตายได้ จึงขอเตือนเพื่อนๆทุกคนว่า ถ้ากินผักต้องล้างให้สะอาด เพราะเชื้อตัวนี้เราไม่สามารถมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เราไม่สามารถทราบได้ว่าผักที่เรากินเข้าไปมีตัวตัวนี้ติดมาบ้างหรือเปล่า ด้วยรักและห่วงใย

ความเห็น

ขอบคุณครับ.... อย่างนี้แตงกวา ต้องล้าง แล้วปอกเปลือกออกอีกที .....

เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"

แล้วถ้าเราปลูกเองล่ะ  โอกาสคงโดนเชื้อ น้อยกว่านะ

ความรู้ใหม่ :cute: :cute:

ที่จริงแล้ว เชื่อ EHEC นี้ ไม่ได้น่ากลัวมากนะคะ พี่ยุพิน

เราสามารถป้องกันได้ โดยวิธีที่พี่ยุพินบอก คือล้างให้สะอาด อาจจะแช่น้ำเกลือ หรือ ด่างทับทิมสักครึ่งชั่วโมงก็ได้ค่ะ

 

E.Coli มีญาติสนิทคือ Salmonellaค่ะ    พี่น้องสองศรีคู่นี้เป็นแบคทีเรียชนิดที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างร้ายแรงโดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ   หากได้รับเชื้อนี้เข้าไปจะเริ่มจากมีอาการปวดท้อง  และท้องร่วงอย่างรุนแรง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ  ซึ่งโรคนี้บ้านเราจะรู้จักกันในนามอาหารเป็นพิษ   อันตรายของผู้ที่ได้รับเชื้อสองขนิดนี้ขั้นรุนแรงคือถ่ายมีเลือดออกมาปนกับอุจาระซึ่งหากถึงขั้นนี้แล้วเรียกว่าโคม่าแล้วค่ะ   มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว


คนไทยเราเคยชินกับโรคนี้มานานแล้วคะพี่ยุพิน   ต่างกับฝรั่งที่มีภูมิต้านทานต่ำกว่าคนทางบ้านเรามาก   เคยสังเกตไหมคะว่าฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทย   มักเจอปัญหาเรื่องท้องร่วง หรืออาหารเป็นพิษกันแทบทั้งนั้นทั้งๆที่กินอาหารชนิดเดียวกันจากจานเดียวกัน  แต่คนไทยเรากินกันอร่อยลิ้นเหลือเกิน   ในขณะที่เพื่อนฝรั่งขนาดระวังตัวแจยังไม่วายต้องจองห้องน้ำยามคำคืนอยู่เสมอ


เชื้อโรคทั้งสองตัวนี้   เป้นที่อกสั่นขวัญแขวนกับฝรั่งเป็นอันมากค่ะ   ถึงขนาดที่ว่า EU   ออกมาประกาศห้ามนำเข้าผัก ผลไม้ไทยที่ตรวจพบสารปนเปื้อนสองชนิดนี้ไปแล้วตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา     จนกระทั่งทุกวันนี้   วงการผัก ผลไม้บ้านเรากำลังเดินมาถึงทางตัน    


กระบวนการกีดกันทางการค้าว่าด้วยเรื่องสุขอนามัยของผู้บริโภคจึงกลายเป็นอีกข้อหนึ่งที่ EU  ยกขึ้นมากล่าวอ้างในการกีดกันทางการค้า   ซึ่งเรื่องนี้มันซ้อนเกินกว่าเกษตรจะเข้าใจ 


เอาไว้ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังว่าเจ้า E.coli and Salmonella สองศรีพี่น้องนี้ได้เล่นงานเกษตรกรไทยจนย่อยยับเพียงใด  หรือว่าเจ้าแบคทีเรียสองชนิดนี้เป็นเพียงแพะรับบาปที่ใครต่อใครต่างก็เอามาเป็นข้ออ้างในการห้ามส่งออก


เพียงเพราะยังมีอะไรที่ยังต้องเคลียร์กัน !

จะได้เข้มงวดให้มากยิ่งขึ้น ป้องกันเสียก่อน............:crying2:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ขอบคุณ สำหรับข้อมูลครับ คุณยุพิณ

ขอบคุณกับคำเตือนเน้อเจ้า  :admire2:

.................

 ดีมากเลยครับ จะได้ป้องกันและระวังกันไว้ให้มากๆ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ที่บ้านล้างผักด้วยผงฟู 3 รอบ เพราะได้รับการแนะนำจาก อาจารย์นักวิจัยในมหาลัย ที่เขานำไปทดสอบ ว่าวิธีการไหนจะล้างผักได้สะอาดมากที่สุด ตั้งแต่น้ำธรรมดา ด่างทับทิม น้ำเกลือ และผงฟูครับ

 

ชีวิตที่เพียงพอ ย่อมมาจากชีวิตที่พอเพียง

หน้า