.............ที่มา ๓๔ หนามก่อในนิ้ว............
ทิศหัวนอน(ทิศใต้)ของสวนขี้คร้านเป็นพื้นที่ที่น่ากลัว ฝังใจผมมาตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องด้วยภูมิประเทศซึ่งเป็นลำห้วยขนาดเล็กรกครึ้มไปด้วยไม้ใหญ่อย่างยางนาและสารพัดไม้ซึ่งมีลำต้นขนาดใหญ่ ไล่ระดับความสูงร่วมสามสิบเมตรลงมา จนถึงไม้ระดับอื่นๆ ลดหลั่นจนถึงไม้พื้นล่างอย่างระกำ ว่านสมุนไพรชนิดต่างๆ ผักหนาม ผักกูด ฯลฯ
มีทางเดินขนาดเล็กตัดข้ามไปยังบ้านสวนอีกสองหลังซึ่งตั้งอยู่ริมตีนเขาในทิศเดียวกัน ริมฝั่งด้านสวนของเรามีบ่อน้ำขนาดเล็กซึ่งไม่เคยแห้งแม้ยามแล้ง ใกล้ๆ กันมีต้นส้มเขียวหวานไว้ให้ผมได้ร้องขอให้พ่อสอยผลสุกมากินก่อนอาบน้ำตอนเย็น (น้ำรูดินประกอบด้วยแร่ธาตุอะไรบ้างหนอทำให้ผมกลายเป็นคนอ่อนไหวและซุกซน เหลือร้ายในเวลาต่อมา)
ไม่ไกลจากส้มเขียวหวาน คือ หมาก ส้มโอพันธุ์พื้นบ้าน ไต่ระดับความสูงของพื้นที่สวนขี้นมาอีกนิดเป็นเนียง สะตอ งอกงามไม่เป็นระเบียบกระทั่งถึงยอดเนินสูงสุดคือสวนมะพร้าวอันโล่งเตียน
ลานหญ้าใต้ต้นมะพร้าวทั่วสวน เกรียนสั้นเพราะการดูแลอย่างดีจากพ่อ รวมไปถึงการและเล็มของควายอีกสองตัว พื้นดินคุลมด้วยผืนหญ้าสีเขียวลดหลั่นไปตามลุ่มและเนิน ดูคล้ายสนามกอล์ฟหรูในยุคนี้
เมื่อมองลงไปจากยอดเนินแห่งนั้นก็ชวนขนหัวลุก เพราะความเขียวขจีร่มครึ้มตลอดปีด้วยหลังคาใบไม้ที่สูงลิบลิ่ว เด็กๆ มักไม่ค่อยเข้ามาเที่ยวเล่นในลำห้วยแห่งนี้เพียงลำพัง ด้วยข่าวลือที่ว่าผีดุ
เปล่า....ผมไม่ได้มาเล่าเรื่องผี ผมเล่าเรื่องต้นไม้ต่างหาก
สามสิบกว่าปีล่วงแล้วลำห้วยแห้งขอด ระกำยังอยู่ ไม้ใหญ่หลากชนิดถูกโค่นไปใช้งานจนหมด เหลือเพียงไม้ที่ใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างไม่ได้ งอกงามแทนที่
สวนขี้คร้านรกเรื้อแต่ไม่ชวนขนหัวลุกเหมือนก่อน แม้จะเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดแทนที่ต้นหญ้าอันเกรียนสั้นเมื่อหลายสิบปีก่อน
ข้ามห้วยอีกฝั่งเป็นสันเนินที่ถูกปรับระดับเพื่อการทำบ่อเก็บน้ำของเจ้าของ สวนเจ้าใหม่ ที่นั่นเองที่มีต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งควรค่าแก่การพูดถึง
ต้นก่อ สำเนียงบ้านผมออกเสียงว่า กอ
จะว่าไป..ก่อต้นนี้อาจเติบโตมาด้วยกันกับผมเมื่อเทียบกับระยะเวลา ความสูง เส้นรอบวงที่โค้นต้น
อาจเป็นก่อในจำนวนหลายๆ ต้นที่ผมค้นเคยในสวนของบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ไม่เคยพบว่ามีต้นก่อนในสวนในยุคที่ผมเติบโต
สำหรับเด็กเมืองคงคุ้นเคยกับเกาลัดคั่วพอๆ กับเด็กบ้านสวน บ้านทุ่งชอบกินลูกก่อคั่ว ทั้งมันทั้งหวานในเนื้อที่แน่น แต่มีขนาดเล็กกว่าเกาลัดหลายเท่าตัว
เมล็ดซึ่งมีเปลือกแข็งห่อหุ้มแป้งอันแสนอร่อยไว้ภายใน ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นในตลาดนัดในหมู่บ้าน แต่มันถูกห่อหุ้มอีกทีด้วยเปลือกสีเขียวที่เต็มไปด้วยหนามแหลมเล็กๆ โดยรอบ
หากเปลือกหุ้มเมล็ดสีเขียวไม่แตกออกคงยากที่จะรู้ว่าภายในเป็นแบบไหน ส่วนใหญ่เปลือกที่หุ้มเมล็ดแข็งจะแตกออกก่อนหรือในขณะเดียวกันที่มันหลุดออก จากขั้วผลร่วงลงกระทบพื้น
มีบางผลยังเหมือนเดิม
เด็กๆ ใช้มีดหรือด้ามหนังสะติ๊กที่เหลาด้ามไว้แหลมเปี๊ยว เสียบ งัด เคาะ หรือใช้ส้นรองเท้าประเภทที่ทำจากยางนอกของรถยนต์กระทืบลงไปบนหนามแหลม ก่อนแกะเก็บเมล็ดแข็งข้างใน
ศาสตร์ของการหาลูกก่อต้องใช้ทั้งมือทั้งตีนเข้าช่วย รวมได้พอประมาณนำมาใส่หม้อแตกๆ ใส่ทรายหน่อยๆ วางก้อนหินเป็นสามเส้า จุดไฟ คั่วๆ เขี่ยๆ พอหอมกลิ่นไหม้ เด็กๆ ก็รุมล้อมหนุบหนับกันสนาน
วัยเยาว์เจ้าเอย....โชคดีแท้หนอที่ได้เกิดมาเป็นคนบ้านนอก
เดิใต้ต้นก่อต้องระวังหนามระกำและหนามของเปลือกผลก่อ สภาพแวดล้อมซึ่งเอื้อกันระหว่างลำห้วยซึ่งยังคงความชื้นแฉะของหน้าฝน เถาวัลย์ประเภทกระไดลิงเลื้อยพันหยักไปมาจากพื้นถึงเรือนยอด ดูทึบทึม รกเหมือนป่าริมห้วยที่ไหนซักแห่งซึ่งอุดมสมบูรณ์
ท่ามกลางเสียงยุงหึ่งๆ ผมรีบกางขาตั้งกล้องปรับปุ่มโน่นนี่พร้อมกับตียุงเปาะแปะ
ประจงหยิบลูกก่อทั้งเปลือกที่หุ้มห่อไปด้วยหนาม วางในจุดที่มันอาจจะเคยหล่นลงมาเพื่อเก็บภาพบรรยากาศโดยรวม
แม้จะค่อยๆ หยิบอย่างนิ่มนวล แต่หนามก็คือหนาม ปลายแหลมของมันกับหนังมือที่อ่อนกว่าเปลือกผิวของผลด้านใน ยังไงก็โดนทิ่มตำเข้าจนได้
ขณะที่ถ่ายภาพ ยังรู้สึกสึกได้ถึงหนามผลก่อ ที่ตำลึกเข้าไปในเนื้อนิ้ว,เจ็บจี๊ด
แต่..............
มีความสุขจัง(โวย)
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ปล.เขียนไว้นานแล้วใน Openonline นำมาสู่สายตาอีกครั้ง ด้วยว่าพักนี้สมองตุ่น
- บล็อกของ sailomloy
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 5596 ครั้ง
ความเห็น
สาวน้อย
5 มิถุนายน, 2011 - 09:47
Permalink
สายลมพัดมา...ในสวน
นานแล้วไม่เห็น ฝีไม้ลายมือ... แจ่มเหมือเดิม...ว่าแต่ว่าลูกก่อคั่วยังคะ.... เนือยแล้ว...
พี่สายลม อย่าลืม หมาน้อยนะคะ... ถ้าได้ไปสุราษฏร์... เจอกันนเอ
ชีวืตที่เพียงพอ..
Tui
5 มิถุนายน, 2011 - 09:54
Permalink
อ่านแล้วนึกตามเพลินดีครับ
อ่านแล้วนึกตามเพลินดีครับ ลูกก่อ ก็น่าทานครับ ไม่เคยทานเหมือนกัน
ครองขวัญ
5 มิถุนายน, 2011 - 10:21
Permalink
ที่่้บ้านไม่มีต้นก่อ
ที่่้บ้านไม่มีต้นก่อ มารู้จักเอาตอนโตว่้า เป็นเกาลัดเมืองไทย อ่านแล้ว คิดถึงตอนเป็นเด็กเหมือนกันค่ะ
"วัยเยาว์เจ้าเอย....โชคดีแท้หนอที่ได้เกิดมาเป็นคนบ้านนอก"
โดนใจสุด ๆ ค่ะ คนบ้านนอกเหมือนกัน
น้อย คนแต่แรก
5 มิถุนายน, 2011 - 10:39
Permalink
ภาพกับบรรยาย
:wtf3: นึกว่าอ่านนิยายผี ลูกกอไม่หอนเห็นนานแล้วยังพอหาด้ายเหลยนะดีจังเคยกินสมัยยังเอียดๆ
ยุพิน เทลเก็น
5 มิถุนายน, 2011 - 12:25
Permalink
ลูกก่อ
เหมือนจะเคยรู้จัก แต่...ไม่รู้จักค่ะ
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
ann
5 มิถุนายน, 2011 - 13:55
Permalink
ทำให้คิดถึง
ทำให้คิดถึงวัยเยาว์...:silence:
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
เจ้โส
5 มิถุนายน, 2011 - 15:04
Permalink
ลูกกอ
หรอยหวาเกาลัด 100 เท่า แต่ไม่ได้กินนานแสนนานแล้ว หลังจากผ่านวัยเด็กมา ถ้าจะลิ้มลองรสชาติลูกกอ ก้อต้องไปบ้านสายลมลอยหรือไม่ก็ต้องบ้านน้องแอน ท่าหลา :uhuhuh:
garden_art1139@hotmail.com
boston
5 มิถุนายน, 2011 - 15:48
Permalink
สวนนี่น่าไป
มืดคลื้มน่ากลัวจัง เขียนจนเชื่อว่าผีดุ เวลาเดินขออยู่ตรงกลางนะ กลัววววว :sweating:
_________________________
Our way is not soft grass, it’s a mountain path with lots of rocks. But it goes upward, forward, toward the sun. – Ruth Westheimer
แก่
5 มิถุนายน, 2011 - 21:16
Permalink
อ่านแล้ว
เกิดกิเลส เพราะอยากได้เมล็ด หรือต้น มาปลูก
sailomloy
6 มิถุนายน, 2011 - 12:20
Permalink
คุณแก่ ครับ
ขอที่อยู่ครับ เผื่อจะยังพอมีจะได้ส่งให้
ออกปากรุนท็อกที !!!
หน้า