สร้างสวนป่า 6

หมวดหมู่ของบล็อก: 

สร้างสวนป่า 5

          เช้านี้เข้าสวนแต่เช้า หว่านเมล็ดปอเทืองตั้งแต่เมื่อวาน ตอนเช้าเลยต้องเข้าไปคราดดินให้กลบเมล็ด มิฉนั้น อาจจะไม่งอก เพราะเมล็ดลอยตามน้ำไปหมด หลังจากนั้นก็เดินดูไปเรื่อยๆ

ต้นนี้ ไม่รู้จักชื่อ ขึ้นเต็มไปหมด

ตอนแรกๆ ผมก็ถอนทิ้ง เพราะกลัวว่าจะมาแย่งน้ำ แย่งอาหาร ต้นไม้ที่ผมปลูก

แต่พอถอนไป ๆ จนหมด ก้มดูพื้นดินก็พบความจริงอะไรบางอย่าง

ในภาพอาจจะมองไม่ชัด

แต่ที่ผมสัมผัสได้คือ ความชื้นในดิน ที่วัชพืชนี้ขึ้นอยู่

คือดินบริเวณนั้น มีความชื้นสูงครับ

เปรียบเทียบกับ พื้นดินที่อยู่ใกล้ๆกัน (ห่างกันสัก 1 เมตร) เป็นดินที่ไม่มีวัชพืชงอกขึ้นมา

จะเห็นว่า ดินแห้งผาก

ผมจึงรู้ว่า ดินที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ ใบหญ้านั้น สามารถรักษาความชุ่มชื้นในดินไว้ได้ดี

ทำให้ดินชื้นขึ้นมาถึงระดับผิวดิน

ส่วนดินที่ไม่มีต้นไม้ปกคลุม ดินเปลือย หรือเปลือยดิน นั้น ความชื้นที่ผิวดินจะระเหยออกไปได้ง่าย

คำถามที่ตามมาคือ

วัชพืช ที่ขึ้นในพื้นที่ที่เราปลูกพืชนั้น จะมาแย่งน้ำ อาหารพืชที่เราตั้งใจปลูกหรือไม่

คำถามนี้ สวนป่าของผมยังหาคำตอบไม่ได้

แต่จะขอนำคำตอบในสวนยางของผู้ใหญ่ ที่ท่านบอกว่า สวนผมรกมาก เพราะไม่ค่อยได้ตัดหญ้า

แต่พอเบิกหน้า ตัดยาง น้ำยางก็ออกดีมาก

แสดงว่า วัชพืชคงไม่มาแย่ง อาหาร และน้ำ สักเท่าไหร่

แต่ที่สำคัญที่ผมกลัวคือ

แสงแดด

กลัวว่าวัชชพืชพวกนี้จะมาแย่งแสงแดด

เพราะถ้าพืชที่ผมปลูก โดนบังแสงแล้ว อัตราการเจริญเติบโตจะต้องลดลง

ดังนั้น สิ่งที่ผมพบในวันนี้ และจะนำไปปฏิบัติคือ

ให้วัชพืช ขึ้นในสวนป่า และ ป้องกันไม่ให้วัชพืชมาบังแดด ต้นไม้ที่ผมปลูกก็คงพอ

แล้วจะพิสูจน์กันต่อไปว่า

การอยู่ร่วมกันอย่างสันติวิธี พึ่งพาอาศัยกัน กับ

การเข่น ฆ่า ล้างเผ่าจนสูญสิ้นพันธุ์

ควรทำแบบไหน

 

เมล็ดประที่ได้ไปมากจนแจกก็ไม่หมด จะเอามาเพาะก็โดนทั้งมด ทั้งหอย มารบกวน และที่สำคัญ

คือ ไม่มีเวลาและแรงงานที่จะมาเพาะใส่ถุง

ดังนั้น วิธีที่ง่าย สำหรับ เกษตรกรอย่างผมก็คือ หยอดเมล็ดลงหลุม

ลูกประ แช่น้ำ 1 คืน แล้วหยอดหลุมละ 2 - 3 เมล็ด เอาดินกลบบางๆ

หลังจากหยอดไว้ 3-4 วัน เมล็ดเริ่ม แทงหน่อ = งอกราก

รอบสวน ผมหยอดเมล็ดแบบนี้ ใช้ทำรั้วได้เลย

เมล็ดที่เพาะใส่ถุงไว้ ที่รอดพ้นจากมด หอย ก็เริ่มงอก

ยอดแดงๆก็คือ ประ ส่วนเขียวๆก็คือ พะยอม

หลังจากผ่าน น้ำท่วม แดดจัด มาระยะหนึ่ง ตอนนี้ ต้นไม้ที่ปลูกก็เริ่มตั้งตัวได้

ต้นนี้คือ จำปาทอง ต้นบน

ต้นนี้ ตะเคียนทอง

ต้นนี้ แดง

ผู้ช่วยผม กำลังขุดดิน ปลูก

 

ใสๆ ที่ก้นหลุมคือ ตัวดูดน้ำ

เสร็จ


ของแถม

ปมที่รากพืชตระกูลถั่ว

เขียนบันทึกเสร็จได้เวลา เข้าตลาดไปเอาเปลือกไข่


ความเห็น

ชื่อนี้เคยได้ยิน แต่ต้นไม่ค่อยเห็น จะงอกก็ในแปลงปลูกใหม่ๆ

วิธีง่ายๆแต่เห็นผลรวดเร็วเหมือนกันนะครับ


ต้องหาวิธี ดัดแปลงไปเรื่อยๆ ครับ

เก็บความรู้เรื่องความชื่อของดิน จากลุงพูน ขอบคุณสำหรับข้อมูล


เห็นต้นประ แล้วอยากปลูกจัง ชอบกินลูกประมาก ๆ

เมล็ดประ ยังพอมีเหลือ สนใจไหมครับ

 เที่ยวในสวน ฯ  ได้รู้อะไรดี ๆ ขอบคุณมากคะ  คิดว่าทำสวน แบบเต็มรูปแบบเมื่อไหร่  ต้องกลับมาเปิดข้อมูลดูได้เลย

ถ้าทิ้งช่วงไปนาน ข้อมูลจะเก่าไปครับ

ลุงพูลครับ  ยินดีด้วยนะครับป่าไม้ไว้ให้ลูกหลานในอนาคตครับ  ต้นที่ลุงพูลถอนทิ้งบ้านผมเรียกว่า ต้นปอมอง โตเร็วมาก ๆ ครับ ถ้าได้ออกดอกเป็นเมล็ดจะขยายพันธุ์เป็นดงเลยครับ...1 ปีได้ต้นเท่าแขนครับ ถ้า 2-5 ปี ต้นเท่าขาเลยครับ ข้อดีคือเอาไม้มาทำเครื่องกระท่อม มอดไม่กิน (ต้องลอกเปลือกออกก่อนให้อยู่ในที่ร่ม) น้ำหนักเบา ความเหนียวปานกลาง ถ้าขึ้นชิด ๆ กันลำต้นจะยาว  มาก ๆ กิ่งน้อยครับ  แต่ถ้าขึ้นห่าง ๆ กัน กิ่งจะเยอะมาก ๆ เมื่อก่อนท่สวนยางผมมีเยอะมาก ๆ เป็นดงไม้ปอมองนี่แหละครับ  3 ปีถึงกำจัดได้หมดครับ....ถ้าลุงเสียดายก็ควรจะให้อยู่เป็นบริเวณของเขานะครับ..

 

          ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ลักษณะของเนื้อไม้ที่คุณวิศิษฐ์ บอก ทำให้นึกถึงต้นไม้ต้นหนึ่ง ที่ชาวสวนเอามาปลูกสร้าง ขนำ ชั่วคราว เนื้อไม้จะมีสีขาวๆ ก่อนนำไปใช้เขาจะลอกเปลือกออกหมด เนื้อไม้เบามาก แต่ละต้นเด็กๆแบกไหว แต่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ รับน้ำหนักได้ไม่มาก

          ข้อมูลนี้ ทำให้ผมไม่กำจัดให้ล้มหายตายจากไปครับ เพราะผมจะได้มีต้นไม้ไว้ใช้งานภายใน 1--2 ปี ผมจะถอนไปปลูกในที่อีกแปลง ซึ่งเป็นดินทรายจัด ต้นนี้น่าจะขึ้นได้

          ส่วนในแปลงนี้ จะเก็บไว้นิดหน่อย

ลุงพูน ต้นที่ลุงถอนทิ้งบ้านหญิงเรียกต้นปังแหรค่ะ เป็นไม้เนื้ออ่อน โตเร็วมาก หญิงเคยปล่อยไว้จนสูงมิดต้นปาล์มที่เพิ่งปลูก แต่พอไปถางออกก็พบว่าปาล์มต้นที่มันคลุมอยู่กลับสวยกว่าต้นที่ไม่มีต้นไม้คลุมอีกค่ะลุง ต้นไม้พวกนี้ถางง่ายค่ะ เวลาออกลูกก็จะมีนกมากินด้วย ได้ธรรมชาติอีกแบบค่ะลุง

e-mail. puangpech_@hotmail.com

 

หน้า