น้ำหมักมะขามป้อม
อ่านบล็อกของหมอน้อยเรื่องขอสูตรทำน้ำหมักมะขามป้อม นึกขึ้นมาได้ว่าตอนเด็กๆเคยเป็นลูกมือให้ยายทำน้ำสมุนไพรตรีผลาที่ต้องใช้มะขามป้อม สมอไทยและสมอพิเภก จึงได้เข้าไปให้คำแนะนำว่า
ผมแนะนำให้ทำแบบของตุ้ยนะครับ อัตราส่วนก็คล้ายๆของพี่สายพิณคือ "น้ำตาลหนึ่งส่วนต่อมะขามป้อมสามส่วน" ..................................... .......................................... ปีนี้ลุงก็ว่าจะทำเหมือนกันครับน้อย
ตอนนี้กำลังเป็นหน้าของมะขามป้อมกับสมอไทยพอดี เลยไปหาซื้อมาหมักเตรียมไว้ก่อน ต้นปีหน้าค่อยหาซื้อสมอพิเภกมาเป็นส่วนผสมสุดท้าย ถึงตอนนั้นจะเอาน้ำหมักของ มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก ที่อัตราส่วน 4:2:1 แล้วผสมน้ำ น้ำผึ้ง เพื่อรสชาติที่เหมาะสมในการดื่ม
งานนี้ให้หมอน้อยเป็นครูเพราะได้ลองทำก่อน ผมไปซื้อโหลแก้วขนาด 9นิ้ว สูงหนึ่งฟุต มาในราคาใบละ 350บาท (นี่ขนาดลดจากราคาที่ติดไว้ 390บาท แพงเกินไปผมว่าราคาจริงไม่น่าจะถึงสามร้อยนะ)
นำมะขามป้อม(ผมได้มาสามกิโลในราคาเก้าสิบบาท)มาล้างให้สะอาด เลือกลูกที่เสียมีรอยช้ำมากๆทิ้ง ที่มีนิดหน่อยใช้มีดปลายแหลมแงะส่วนที่เสียทิ้ง เด็ดขั้วทิ้งทั้งหมด ผมเอามาวางแบบนี้แล้วใช้น้ำเดือดราดทีเดียวลวกทั้งมะขามป้อมและโหลไปพร้อมๆกัน
นี่เป็นอุปกรณ์ทั้งหมดครับ ผมใช้น้ำตาลทรายหนึ่งกิโล นำ้ตาลกรวดครึ่งกิโล (ซื้อมาจากร้านขายเครื่องก๊วยเตี๋ยวในตลาดสดที่เค้าเอาไปต้มน้ำซุปถุงละ 40บาท อาทิตย์ก่อนไปพบว่าที่ห้างแถวบ้าน มียี่ห้อที่เราคุ้นเคยขายถุงละ 35บาทเท่านั้นเอง) การทำโหลนี้ยังแก้ไขจากที่เคยแนะนำหมอน้อยไปว่าให้ใส่น้ำตาลทรายแดง(ตั้งใจจะบอกว่าน้ำตาลทรายไม่ฟอกสีแต่เรียกผิด ลุงพูนเรียกว่าน้ำตาลสีรำ) พอทำเองนึกขึ้นได้ว่ายายใช้น้ำตาลกรวด แต่ก็ยังไม่มั่นใจ ยังแอบใช้น้ำตาลทรายไม่ฟอกสีหนึ่งกิโล ตอนหลังไปค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ทดูจึงได้ทราบว่า คนโบราณเค้าใช้น้ำตาลกรวดในการดองยาเพราะมีฤทธิ์เย็น โดยเฉพาะน้ำสมุนไพรตรีผลาซึ่งใช้ดื่มเพื่อปรับธาตุในช่วงฤดูร้อน อีกโหลต่อมาผมจึงใช้เฉพาะน้ำตาลกรวดครับ ผ้าและสากกะเบือเอามาใช้ทุบมะขามป้อมให้พอแตก ตอนเด็กๆยายให้ผมใช้ผ้าขาวม้าห่อแล้วฟาดกับเสาเรือน อิอิ
แบ่งมาทุบเบา แล้วใส่ในโหลเป็นชั้นๆสลับกับน้ำตาลกรวด
น้ำตาลกรวดใส่ไปเลยนะครับ ไม่ต้องทุบให้ละเอียด แบบที่ซื้อจากห้างก้อนจะไม่ใหญ่ขนาดนี้
เสร็จแล้วปิดฝาทิ้งไว้หลวมๆกันแมลงและจุลินทรีย์จากภายนอกเข้าไป (ปรกติภายในโหลจะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่หยุดการเจริญของเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้ ชนิดที่อยู่ได้จะช่วยในการย่อยสลายผลมะขามป้อม) สักสองสามวันจะมีน้ำออกมาจากผลมะขามป้อมละลายน้ำตาลท่วมเนื้อมะขาม
ที่สำคัญในระหว่างการทำนี้ คนโบราณห้ามพูดจาใดๆจนกว่าจะปิดฝาโหล คงเป็นกุศโลบายเรื่องความสะอาดเพราะในน้ำลายเรามีแบคทีเรียมากมายหลายชนิด
สภาพภายในโหลเมื่อเวลาผ่านไปสามวัน
วันรุ่งขึ้นจะเห็นน้ำตาลกรวดเริ่มละลายและมีน้ำจากผลมะขามป้อมออกมา จากนั้นทุกอาทิตย์หมั่นเอียงโหลแก้ว ให้น้ำหมักไหลท่วมเนื้อผลมะขามป้อมและน้ำตาลกรวดที่อยู่ด้านบน (เนื้อหาเพิ่มเติม เนื่องจากสมาชิกบางท่านไปทำแล้วปรากฏว่าผลมะขามป้อมด้านบนเป็นรา)
ช่วงนี้เป็นฤดูที่มะขามป้อม(โลละสามสิบ) สมอ(โลละยี่สิบห้า) สดๆมีขายทั่วไปสมาชิกท่านใดพอมีเวลามีอุปกรณ์ ก็ลองๆทำไว้บริโภคเองและแจกจ่ายญาติพี่น้องเพื่อนฝูงก็ดีนะครับ ไม่อยากที่จะบอกว่าผมไม่ค่อยไว้ใจผลิตภัณฑ์ที่เค้าทำมาขายเรื่องกรรมวิธีในการทำ ความสะอาดและส่วนผสมน่ะครับทำเองรวมค่าเสียเวลา(ในอัตราค่าจ้างวันละสามร้อย) ผมว่ายังประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกเยอะเชียวครับ
- บล็อกของ ลุงพี
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 64612 ครั้ง
ความเห็น
ลุงพี
2 ตุลาคม, 2011 - 23:54
Permalink
คุณสมศักดิ์
มะขามป้อมเก็บมาแล้วต้องรีบขายครับ เก็บไว้นานไม่ได้ ราคาจะถูกถ้าซื้อตามชนบท ในเมืองใหญ่ๆที่แม่ค้ามาแบ่งขายลูกละสองบาทก็มี (แม่ค้ารับมาจากชาวบ้านกิโลละสิบบาท แต่ถ้าขายไม่หมดก็ต้องทิ้ง) ถ้าจะหาซื้อผมว่าสองเดือนนี้น่าจะราคาลงมาเยอะ เพราะรสชาติก็ไม่ได้เอร็ดอร่อย คนซื้อเพราะอยากลองชิมปีนึงครั้งเดียวก็เลิกกัน ตามป่าในบริเวณอุทยานแห่งชาติผมไปเที่ยว ก็ยังเห็นพอมีผลหลงเหลืออยู่บ้างตลอดทั้งปี แต่ไม่มากเหมือนช่วงนี้ครับ
พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง
เปรี้ยว_ส้ม
2 ตุลาคม, 2011 - 21:33
Permalink
Re: น้ำหมักมะขามป้อม
พี่เสิน อยากได้มะขามป้อมถามน้าน้อยเลย
เสิน
3 ตุลาคม, 2011 - 15:24
Permalink
Re: น้ำหมักมะขามป้อม
พอลุงพีบอกแบบว่าข้างบน ไม่อยากได้ดีกว่า ฮ่าฮ่า ขอบใจมากน้องเปรี้ยว
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
ลุงพี
2 ตุลาคม, 2011 - 22:59
Permalink
ตาเสิน
มีสรรพคุณข้อหนึ่งที่หนุ่มๆกลัวคือ บำรุงกำลังแต่ลดความกำหนัด :uhuhuh:
พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง
เสิน
3 ตุลาคม, 2011 - 15:22
Permalink
Re: ตาเสิน
ถ้างั้นแบบนี้ ต้องแอบเอาให้พวกนักกีฬาน่าจะดี ไม่เหมาะกับผมนะ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
ดาวเรือง
3 ตุลาคม, 2011 - 06:25
Permalink
Re: น้ำหมักมะขามป้อม
อยากได้มะขามป้อมมาปลูกเหมือนกันค่ะ เคยซื้อมาจากเชียงรายแล้ว แต่โดนแดดแรงจนตายไปต้นนึงแล้ว เสียดายมาก แต่ถ้าได้เมล็ดมะขามป้อมยักษ์มาปลูกก็จะดีใจหลายๆเลยค่ะ ใครมีขอด้วยนะคะ
สายพิน
3 ตุลาคม, 2011 - 15:26
Permalink
Re: น้ำหมักมะขามป้อม
ขอบคุณลุงพีบอกวิธีการอย่างละเอียดเลยค่ะ ได้ประโยชน์มาก ... พออ่านหัวเรื่องบล็อกนี้รีบเดินไปดูมะขามป้อมที่หมักไว้ก่อนหน้านี้สักห้าวันได้ แล้วก็กลับมาอ่านสูตรลุงพี ชอบใจมากเลยค่ะ
ann
3 ตุลาคม, 2011 - 15:39
Permalink
Re: น้ำหมักมะขามป้อม
เข้ามาชมการหมักมะขามป้อมจากลุงพีค่ะ..
.เห็นแล้วอยากชิมมากค่ะ..:sweating:
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
แจ้ว
23 พฤษภาคม, 2012 - 19:48
Permalink
Re: น้ำหมักมะขามป้อม
ทบทวนบทเรียนอีกครั้ง.....
หน้า