เวทีประลองหน้าแล้ง - พืชสวน vs พืชท้องถิ่น

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ความแล้งไม่เคยปราณีใคร  แม้นว่าอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำสภาพก็แล้งได้อย่างที่เห็นว่าสภาพในหน้าแล้ง (รูปด้านล่าง)  แตกต่างกับหน้าฝน (รูปด้านบน) อย่างชัดเจน  หญ้าที่อยู่ริมน้ำก็แห้งตายได้   เนื่องจากสภาพหญ้าในบริเวณที่่ไม่ติดแหล่งน้ำจะแย่กว่านี้อีกเลยมาขอตัดหญ้าไปเลี้ยงวัว  การตัดหญ้าออกไปยิ่งทำให้ดินยิ่งแห้งเข้าไปอีก  ท่าทางว่าจะมีหญ้าไม่พอให้คนเลี้ยงวัวตัดเป็นรอบที่ 2 ในหน้าแล้งนี้

ระดับน้ำลดลงประมาณ 1.5-2 เมตรจากริมตลิ่งเดิม  ทำให้ไม่แปลกใจที่หญ้าริมตลิ่งจะแห้งตายได้  เพราะรากของหญ้าจะต้องแทงรากลึกขึ้นอีกเพื่อหาน้ำที่อยู่ใต้ดิน  เกาะแก่งต่างๆ ในน้ำเริ่มโพล่พ้นน้ำให้เห็น

มนุษย์ผู้ไม่เคยยอมแพ้สร้างเขื่อนขวางลำห้วย  นำเอาเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำกลับขึ้นลำห้วยสวนกับทิศทางการไหลปกติของน้ำ ด้วยความหวังว่าจะมีน้ำเพียงพอที่สูบน้ำจ่ากลำห้วยไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ในสวนของตน

แนวไม้ที่เคยรกชัฏกลับโปร่ง โล่ง และเต็มไปด้วยใบไม้แห้ง

กล้วย "พืชพี่เลี้ยง" ที่จะช่วยนำพาต้นไม้ให้รอดพ้นหน้าแล้งปีนี้  กลับเหี่ยวแห้ง และคอหักเนื่องจากมีน้ำไม่เพียงพอ ที่นี่คือเวทีประลองระหว่างพืชสวน และพืชป่าในพื้นที่

ต้นฝักข้าวจากคุณครู "มะโหน่ง" "แดงอุบล" และ "สาวน้อย" ล้มตายไปหลายต้น  ต้นที่เหลืออยู่พยายามอย่างยิ่งที่จะเอาตัวรอดใต้ร่มเงาของต้นไผ่  ฝักข้าวจะเอาตัวรอดในธรรมชาติแห่งนี้ได้หรือไม่?  จะเหลือเป็นต้นดอกตัวผู้และดอกตัวเมียได้สัก 1 คู่หรือไม่

ถั่วบราซิลที่มีอาการไม่ดีตอนเป็นต้นเล็กๆ กลับแตกใบแข่งขันกับวัชพืชอื่นๆ ในสวนได้อย่างทัดเทียม

ถั่วอีโต้จากครูพี่ "jo korakod" และพี่ "พนิดา" ไม่ยอมน้อยหน้าเบ่งบานขยายใบสู้กับหญ้าภายใต้ร่มเงาของต้นขี้เหล็ก

ถั่วครกจากครู "ป้าลัด" และน้อง "วิศิษฐ์" ก็เติบโตได้ดีไม่แพ้ถั่วอีโต้

ต้นเผือกไม่ยอมน้อยหน้า  แทงต้นจากหัวเล็กออกมาสู้กับต้นหญ้าที่แบ่งบาน

 

หน้าแล้งนี้จะมีพืชสวนสักกี่ชนิดที่จะรอดพ้น และยืนหยัดเคียงคู่กับพืชท้องถิ่นในเวทีธรรมชาติแห่งนี้  ขอเทวดาจงช่วยเป็นกำลังใจ  ฤ มนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราต้องเข้าไปช่วยเหลือการทำงานของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่

เนื่องจากถั่วครกท่าทางจะอยู่รอดได้ดีใต้ร่มเงาต้นขี้เหล็ก  ผมจึงลองเอาถั่วครกจากน้องวิศิษฐ์มาทดลองปลูกกลางแดดท่ามกลางต้นหญ้าที่แห้งตาย  โดยใช้ใบหญ้าปกคลุมความชื้น  งานนี้อาจจะต้องช่วยให้น้ำบ้างเล็กน้อยในระหว่างที่รากถั่วยังแทงรากไม่ลึกพอ  ด้วยความหวังว่าต้นถั่วครกจะเติบโตได้เร็วกว่าหญ้าคาที่จะแทงต้นขึ้นทันทีที่หน้าฝนมาเยือน  ศึกระหว่างหญ้าคา และถั่วครกคงจะได้รู้ผลในหน้าฝนที่จะมาถึง  ด้วยความช่วยเหลือของมนุษย์อย่างเรา หวังลึกๆ ว่าการเริ่มต้นเดินทางก่อนของถั่วครกจะนำมาซึ่งชัยชนะเหนือหญ้าคา

 ข อ บ คุ ณ บ้ า น ส ว น พ อ เ พี ย ง

ความเห็น

ขอให้ถั่วครกรอด...จะได้เป็นพืชคลุมดินไปด้วย...ดินจะได้ชุ่มชื้นขึ้นอีกนิด...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

ขอบคุณครับป้าต่าย

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ขอให้รอดทุกต้นนะคะ เอาใจช่วยสุดๆ

พี่อ้อย

Laughingป้าอ้อย

ตายไปหลายสิบต้นแล้วพี่อ้อย เพราะทำระบบน้ำไม่ทัน :shy:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

เอ้าถั่วครกสู้ ๆๆๆ ฮ่า ๆ เดี๋ยวถั่วแปบ ถั่วปี ถั่วมะแฮะ และผักอื่น ๆ ก็จะตามไปสมทบนะพี่ แต่มันแล้งจริง ๆ ผมละสงสารพี่อย่าปลูกเลยครับไว้ฝนตกสัก 2-3 ครั้งดินมีความชื้น ถั่วแปบ ถั่วปี รับรองยึดพื้นที่หญ้าคาหมดนะพี่แล้วอย่ามาบ่นนะครับว่า ทำไมถั่ว น้องสิท...ทำไมมันรกจริง ๆ หว่า ฮ่า ๆๆๆๆ ยังไงดีกว่าภาคอีสานนะพี่ ทางนี้แล้งชนิดแตกระแหงเลยละครับ ..โหวต ๆ

 

ขอให้จริงเถอะ :uhuhuh:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

เพราะอากาศร้อนจัดเลยยังไม่กล้าทำการบ้านกลัวไม่รอด :cheer3:

กลัวๆ กล้าอยู่เหมือนกัน :shy:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

สวัสดีค่ะ แห้งแล้งขนาดนี้เลยเหรอ สงสารต้นกล้วยจัง  :nonono:

ชีวิตที่เรียบง่ายกับความพอใจในสิ่งที่มี

โห..ต้นกล้วยนี่สุดทนเลยนะครับ  ขนาดตัดทิ้งและอากาศแล้งๆ แบบนี้ยังงอกต้นใหม่ได้เลย  มันแอบทำอ่อนแอไปงั้นๆ ล่ะ  :uhuhuh:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

หน้า