เพราะเงิน 20 บาท...

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ชีวิตของแต่ละคนผ่านความลำบากมามากบ้างน้อยบ้างตามแต่วิถีการดำเนินชีวิตของแต่ละคน  สำหรับชีวิตผมที่ผ่านมาสามสิบกว่าปีนั้นผ่านความลำบาก  ผ่านอุปสรรคในชีวิตมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะและความดื้อแบบหัวชนฝาในบางครั้ง ทำให้ผมผ่านอะไร ๆ มาได้จนถึงทุกวันนี้

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเงินใบละ 20 บาท (ใบ 20 ฉบับเก่า ๆ)หลาย ๆ ท่านคงได้ใช้นะครับ

            ย้อนไปเมื่อตอนเรียน ป.ตรีเทอมแรก ๆ (กศ.บป.) ผมเรียน เสาร์-อาทิตย์ หลังจากที่ได้สละสิทธิ์โควต้า  คอ.บ. ของช่างกลประทุมวัน ซึ่งเป็นวุฒิครูของอาชีวะในสมัยนั้น แต่ด้วยปัญหาทางการเงินของครอบครัว จึงทำให้ฐานะพี่ชายคนโตต้องคิดว่าจะเลือกที่จะไปสู่อนาคต หรือจะเลือกที่จะส่งเสริมอนาคตให้กับน้องสาวเพราะก็ สอบได้ คณะที่เขาใฝ่ฝัน ที่ มข. เช่นกัน  ในตอนนั้นคำว่าอนาคต มันก็จริง “ คด ” โค้งไปตามสถานการณ์ไปเรื่อย ๆ ยังไงเมื่อสละสิทธิ์ที่จะเรียนไปแล้วก็ต้องดิ้นรนต่อสู้ต่อไป

              รายมาซะยาว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ เงินใบละยี่สิบ ฮ่า ๆ ในครั้งนั้นผมเป็นช่างถ่ายรูป (ช่างเร่)  มีงานรับใบประกาศที่ทางร้านที่สนิทกันให้ไปถ่ายในงานที่ใหญ่ในระดับหนึ่ง ซึ่งมีคณะครูอาจารย์ แต่งชุดปกติขาว นั่งเต็มห้องประชุมในครั้งนั้นผมในฐานะที่เป็นช่างภาพที่อยู่ในคราบของนักศึกษา สถาบันราชภัฎ มองด้วยความภูมิใจว่าสักวันเราอาจจะได้ใส่ชุดปกติขาวแบบนี้บ้างคงเท่ห์น่าดู  ฮ่า ๆ ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างปกติจนเสร็จงาน จนถึงวันที่ต้องส่งภาพ เจ้าของร้านบอกว่าต้องไปส่งให้ครูแต่ละคนเองทุกคน เอ้างานเข้าละซิครับ  ไปก็ไป ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ด้วยราคาภาพที่ไป ส่งเพียง 20 บาทต่อ ภาพขนาด 3R (3.5x5 นิ้ว) 2 แผ่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เวลาถ่ายภาพจะอัด 2 แผ่นเสมอ และก็ต้องวิ่งส่งให้วุ่นไปหมด จนมาถึงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ผมจำมิรู้ลืม ผมยื่นรูปภาพให้เจ้าของภาพแล้วบอกราคาของภาพไป

............“20 บาทครับอาจารย์ ”
............เจ้าของภาพรับไปแล้วถามว่า “ทำไมแพงจังแล้วทำไมมีภาพเดิม 2 แผ่น”

.............“ แผ่นละ 10 บาท ครับ ” (ต้นทุนแผ่นละ 4 บาทในสมัยนั้น) หลังที่พูดคุยตอบโต้กันไปมาเป็นเวลาพอสมควร อาจารย์ท่านนั้น ก็ควักเงินใบ 20 บาท โยนให้ผมด้วยความไม่พอใจ

ผมก้มลงเก็บเงินใบ 20 บาท มือกำเงินใบนั้นแน่นปานว่ามันจะเป็นผง ด้วยความโมโห แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบหาเรื่องและมีเรื่องให้วุ่นวาย ผมจึงยื่นเงินคืนให้เจ้าของเงิน แล้วบอกไปว่า อาจารย์ เก็บเงินไว้เถอะ ส่วนรูปผมให้แล้วกัน แล้วยกมือไหว้อำลาเจ้าของเงินดังกล่าว  แต่ในใจเต็มไปด้วยความโมโห ร้อนรุ่มไปหมด....ว่าทำไมถึงทำแบบนี้...

                  จากวันนั้นจึงตั้ง ปณิธานไว้ว่าจะต้องมีร้านถ่ายรูปเป็นของตัวเองให้ได้ในสักวัน  สำหรับคำดูถูกดูแคลนในชีวิตที่ผ่านมานั้นมีมากมาย ผมนำกลับมาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้า ยิ่งมีคนดูถูกเหยียดหยามเรามากเท่าไร   ก็ยิ่งทำให้มีแรงพลังที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีท้อแท้ จากเหตุการณ์วันเมื่อคิดย้อนกลับไป  ถือว่าเป็นแรงผลักดันให้ผมทำหลาย ๆ อย่างด้วยความกล้าที่จะเดินตามหาความฝัน แม้ว่าจะมีขวากหนามมากมายสักเพียงได แต่เมื่อมีจิตใจที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

                   ณ วันนี้ฝันของผมก็ประสบผลสำเร็จไป 1 อย่าง คือมีร้านถ่ายรูปเล็ก ๆ ในอำเภอบ้านนอกที่มีรายได้พอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย ๆ ฝันที่จะมีที่ดินเป็นของตนเองที่มาจากน้ำพักน้ำแรงก็มีจริงตามที่คิดฝันแม้จะไม่มากมาย แต่ก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ย้อนมองดูภาพเก่า ๆ ที่ฝ่าฟันมาด้วยตัวเอง ยืนมองดูต้นยางพารา จำนวน 800 ต้นที่ปลูกเองกับมือ ทำให้มีความสุขทุก ๆ ครั้ง และอีกหนึ่งความฝันที่ผมกำลังจะตามหาให้เจอก็คือ การทำเกษตรที่พึ่งพาตนเอง มีกิน มีใช้ ไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอก นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความฝันที่กำลังจะเป็นจริงให้ได้ในสักวันอันใกล้...จะขอพอเพียง...เพื่อเพียงพอ...ให้ได้ในสักวัน...
              ขอเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนที่กำลังก้าวเดินตามความฝัน ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราเพียงแต่ให้โอกาสตัวเองที่จะคิดและทำตามความใฝ่ฝัน แล้วทุกอย่างก็จะเป็นจริงได้ในสักวัน จงเอาคำ ดูถูกเหยียดหยาม มาเสริมเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วจะรู้ว่ามันมีพลังมากกว่าคำสรรเสริญเยินยอมากมายครับ 

"ยิ่งดูถูก...กล่าวหา...ยิ่งทำให้ผมอยากเอาชนะปัญหานั้น ๆ ...นี่แหละความดื้อของผมแหละครับ"


ปล. ขอลาทำภารกิจ วันที่ 6-8 มี.ค. นะครับ

มีภารกิจที่ต้องไปก่อหวอด สัก 2-3 อย่างไว้จะนำมาเสนอว่า สิท...ไปก่อหวอดอะไรมา หุหุ..

                          …ทิดสิท....อุดร...

ความเห็น

นับถือความนิ่ง ถ้าเป็นข่อย มีเรื่องใหญ่แน่ๆ ไม่แค่ไหว้หรอก


ชื่นชมนักสู้ผู้ยิ่งหย่าย..ตามน้ำหนักตัว

คนจน ทำจน อาจรวย


คนจน ทำรวย ยิ่งจน


คนรวย ทำรวย อาจจน


คนรวย ทำจน ยิ่งรวย

นับถือ นับถือ ความโมโหนำมาใช้ในทางบวก

จะปลุกทุกอย่างที่กิน แม้จะไม่ได้กินทุกอย่างที่ปลูก

ฝันของพี่คือ อยากเป็นนายตัวเอง ทำสวนทำนาทำไร่ ตอนนี้พี่ต้องอดทนทำทุกอย่างให้พ่อแม่เห็นว่า ถ้าไม่ได้ทำงานราชการ ไม่มีเงินเดือนไม่มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาล เราก็อยู่ได้ และอยู่แบบสบาย กว่าเดิมด้วย คงอีกไม่นาน อีกไม่นาน :embarrassed:

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

ชีวิต...ต้องสู้...เหมือนกัน...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

ดิฉันเองก็เคยมีคนดูถูกเหมือนกัน และนำคำดูถูกมาเป็นแรงผลักดันในการทำงาน แปลกดีนะค่ะ ที่คนมักจะชอบดูถูกเลยไม่เคยดูตัวเองว่าจะตกต่ำมาตอนไหนบาง ดิฉันคิดว่าต่อให้เราไม่ไปว่าเขานะค่ะ ธรรมชาติก็จะลงโทษคนที่ดูถูกนั้นเองนะค่ะ ไม่ต้องไปแคร์หรอกค่ะ บางครั้งก็ดูถูกเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องครอบครัว เพราะเขาคิดว่าเราจะไม่สามารถเท่าเขาได้ไงค่ะ ถึงดูถูก แต่ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะคนนะค่ะ มีขึ้น ก็ต้องมีลง มีลง ก็ต้องมีขึ้น นี่เป็นช่วงชีวิตหนึ่งที่ทุกคนจะต้องได้รับค่ะ

ดีที่เราเอาคำดูถูกเหยียดหยามนั้นมาใช้ในทางบวก ไม่งั้นคงไม่มีวันนี้ อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจค่ะ ขอบคุณนะคะ

พี่ชายผมสุดยอด

ถือว่าเป็นไอดอม และกำลังใจให้ผมเดินไปตามฝันของผม

:good-job:

30 ลิขิตฟ้า 70 ฝ่าฟัน

คนจน ทำจน อาจรวย


คนจน ทำรวย ยิ่งจน


คนรวย ทำรวย อาจจน


คนรวย ทำจน ยิ่งรวย

 ผมเคยพูดเสมอว่าคนเราอาจจะแตกต่างกันตามองค์ประกอบของร่างกาย สถานภาพทางสังคม และสถานะทางเศรษฐกิจ แต่ทุกคนเท่ากันในเรื่องหนึ่ง นั่นคือ "ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์" ที่จะมาดูถูกเหยียดหยามกันไม่ได้ 

ยอดเยี่ยมเลยเพื่อน นี่แหละแรงบันดาลใจที่เพื่อนสร้างให้แก่ใครอีกหลาย ๆ คน สู้ ๆ

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

หน้า