ส่งการบ้านพี่สายพิณ...Layering

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ต่อจากบล็อก "ชำกิ่ง/เถาแตง" ของพี่สายพิณ  มีสมาชิกหลายท่านเข้ามาคอมเม้นท์เรื่องเทคนิคอื่นๆ ในการขยายพันธุ์พืชเถา  ทำให้เกิดคำถามจากพี่สายพิณว่าวิธีเหล่านั้นเรียกว่าอะไร  ผมตอบไปว่า "Simple Layering" แต่ก็ยังตอบพี่สายพิณไม่ได้ว่าภาษาไทยจะเรียกว่าอะไร  และเกิดคำถามต่อเนื่องว่า "Layering" จะเรียกเป็นภาษาไทยว่าอะไร เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาแชร์กัน

"Layering" มีความหมายรวมๆ ว่าเป็นวิธีการขยายพันธุ์พืช โดยการทำให้ลำต้นเหนือดิน (Aerial stem) ออกรากในขณะที่ยังติดกับต้นแม่  และต่อมาเมื่อแยกออกจากต้นแม่ก็สามารถเติบโตได้อย่างอิสระ  ซึ่งถ้าพิจารณาตามคำนิยามแล้วน่าจะเรียกวิธีนี้ว่า "การตอน"  วิธีการนี้แตกต่างจาก "การชำ" ซึ่งจะตัดกิ่งออกมาจากต้นแม่เลย

พืชบางชนิดสามารถขยายพันธุ์โดยเทคนิค "Self-Layering" โดยเมื่อลำต้นที่เลื้อยไปโดนพื้นดินที่มีความชื้นก็จะมีโอกาสงอกรากออกมาเอง เกิดขึ้นได้บ่อยในไม้เลื้อย เช่น ชะพูล พูลด่าง บัวบก ไอวี่ ไฮเดรนเยีย และต้นมธุรดา เป็นต้น

ส่วนการทำ Layering ที่มนุษย์เราตั้งใจทำเพื่อขยายพันธุ์พืชอาจจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่คือ Ground Layering และ Air Layering

1. การตอนกิ่งแบบฝังกิ่ง (Ground Layering) เป็นการตอนโดยส่วนที่ฝังกิ่งส่วนที่จะตอนลงในดิน สามารถแบ่งออกเป็นเทคนิคย่อยๆ ได้อีก 5 เทคนิค

1.1 การตอนกิ่งแบบฝังกิ่งให้ยอดโผล่พ้นดิน (Simple Layering) การตอนกิ่งแบบนี้ เหมาะสำหรับพืชที่มีกิ่งยาวและมีลักษณะดัดโค้งได้ง่าย เช่น มะลิชนิดต่างๆ เป็นต้น มีขั้นตอน ดังนี้

  • เลือกกิ่งที่มีแข็งแรงอายุพอสมควร (ขึ้นกับพันธุ์พืช แต่ถ้าใช้กิ่งอ่อนเกินไปอาจจะเน่าก่อนที่รากจะงอก)  ขุดหลุมข้างต้นแม่ตรงตำแหน่งที่ตอนลึกประมาณ 3-5 นิ้ว
  • ทำแผลให้เกิดขึ้นโดยการบิดให้แตกหรือใช้มีดปาด  โน้มกิ่งลงหาพื้นดิน แล้วกลบดินบริเวณบางส่วนของกิ่ง โดยให้ยอดโผล่ขึ้นเหนือดิน ยาวประมาณ 15 – 30 เซนติเมตร อาจจะใช้ตาขอช่วยยึดให้กิ่งติดอยู่กับดิน
  • ใช้ไม้ปัก ผูกมัดยอดให้ตรง เพื่อให้รากเกิดขึ้นเร็วบริเวณกิ่งที่กลบดิน รดน้ำทุกวัน และดูแลอย่าให้วัชพืชขึ้นบดบังแสง

  • เมื่อมีรากเกิดขึ้นบริเวณที่เป็นแผล พร้อมที่จะย้ายปลูกได้ทันที (อาจใช้เวลาถึง 2 เดือน)

1.2 การตอนกิ่งแบบงูเลื้อย (Compound Layering) การตอนกิ่งแบบนี้ คล้ายกับวิธี Simple Layering เหมาะกับชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ไม้ดอกไม้ประดับ เช่น มะลิ เล็บมือนาง การเวก พลูชนิดต่างๆ ตีนตุ๊กแก และไม้ผลชนิดต่างๆ เช่น องุ่น มันเทศ พริกไทย เป็นต้น มีขั้นตอนดังนี้

  • เลือกกิ่งยาวและมีลักษณะดัดโค้งได้ง่าย แบ่งเป็นตอน ๆ ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร  ขุดหลุมห่างกันประมาณ 3-4 นิ้ว ตามตำแหน่งที่จะตอน
  • ใช้มีดปาดให้เกิดแผล แล้วกลบดินทับ เป็นตอน ๆ ตลอดความยาวของกิ่ง อาจใช้หลักยึดช่วยลำต้นตั้งขึ้น

  • รดน้ำทุกวัน และดูแลอย่าให้วัชพืชขึ้นบดบังแสง

  • ประมาณ 30 – 45 วัน เมื่อยอดใหม่โผล่ขึ้นมาจากดิน จะมีรากพร้อมที่จะย้ายปลูกได้ทันที

1.3 การตอนกิ่งแบบฝังยอด (Tip Layering) การตอนกิ่งแบบนี้ รากจะออกตรงบริเวณใกล้กับยอดที่นำฝังลงดิน เหมาะกับพืชบางชนิด เช่น ต้นประทัดจีน มีขั้นตอน ดังนี้

  • ใช้เสียมหรือพลั่วกาบอ้อย ขุดดินให้เป็นหลุมลึก ประมาณ 7 – 8 เซนติเมตร
  • สอดปลายยอดเข้าไปในหลุม แล้วกลบดินทับ

  • รดน้ำทุกวัน และดูแลอย่าให้วัชพืชขึ้นบดบังแสง ประมาณ 30 – 45 วัน เมื่อยอดใหม่โผล่ขึ้นมาจากดิน จะมีราก พร้อมที่จะย้ายปลูกได้ทันที

1.4 การตอนกิ่งแบบขุดร่อง (Trench Layering) การตอนกิ่งแบบนี้ เหมาะสำหรับไม้ผลเมืองหนาวบางชนิด เช่น ท้อ สาลี่ และเชอรี่ เป็นต้น มีขั้นตอน ดังนี้

  • ขุดร่องลึก ประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อเตรียมสำหรับโน้มกิ่งไว้ก่อน
  • เมื่อกิ่งต้นแม่ เริ่มแตกยอดอ่อน ให้โน้มกิ่งขนาดติดกับผิวหน้าดิน โดยใช้ตะขอเหล็กเส้น รูปตัว ยู (U) ปักยึดโคนกิ่งไว้ ให้กิ่งนอนราบกับพื้นร่องที่เตรียมไว้  ตัดปลายกิ่งออกเล็กน้อย แล้วใช้ดินร่วนกลบให้หนา ประมาณ 3 – 5 เซนติเมตร

  • รดน้ำทุกวัน และดูแลอย่าให้วัชพืชขึ้นบดบังแสง

  • เมื่อตากิ่งเริ่มแตกยอดพ้นผิวดินที่กลบครั้งแรก ให้กลบดินเพิ่มขึ้นอีก และต้องรีบกลบก่อนที่ยอดจะเริ่มคลี่ใบ
  • ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์ ให้กลบดินแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ ไป จนกว่าจะแน่ใจว่า บริเวณของกิ่งที่แตกยอดนั้น ไม่ได้รับแสงแดด การกลบดินแต่ละครั้งให้กลบประมาณ ½ ของยอดที่โผล่ออกมาพ้นดิน
  • การเกิดราก จะเกิดขึ้นที่บริเวณฐานของกิ่งที่แตกยอดใหม่ ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 50 - 60 วัน
  • การย้ายปลูก ให้ขุดเอาดินที่กลบออก แล้วตัดกิ่งออกเป็นท่อน ๆ ตามจำนวนต้นที่เกิดใหม่ นำไปชำในถุงดำ ดูแลรักษา จนกว่าต้นสมบูรณ์ดี จึงนำไปปลูกต่อไป

1.5 การตอนแบบสุมโคน (Mound Layering) การตอนกิ่งแบบนี้ จะต้องตัดต้นพืชที่ต้องการออกให้เหลือสั้น ติดผิวดิน ในขณะที่ต้นพืชอยู่ในระยะพักตัว ส่วนมากทำกับต้นพืชที่มีกิ่งแข็งแรง ไม่สะดวกต่อการโน้มกิ่งลงมายังพื้นดินหรือตัดกิ่งได้ยาก แต่มีความสามารถที่จะแตกกิ่งก้านจากต้นตอคอดิน พืชที่นิยมทำส่วนมากเป็นไม้ผล เช่น พุทรา แอปเปิ้ล ลำไย ลิ้นจี่ เป็นต้น มีขั้นตอน ดังนี้

  • เลี้ยงต้นตอให้แข็งแรง จากนั้นตัดยอดของต้นตอให้เหลือประมาณ 1 นิ้วจากผิวดิน  เมื่อตัดต้นที่ต้องการออกแล้วจะสังเกตเห็นตามที่โคนต้นเริ่มแตกเป็นต้นอ่อน

  • เมื่อต้นอ่อนที่เกิดใหม่ ยาวประมาณ 6 – 12 เซนติเมตร ใช้ดินร่วนสุมโคน ประมาณ ½ ของยอดที่เกิดใหม่

  • รดน้ำทุกวัน และดูแลอย่าให้วัชพืชขึ้นบดบังแสง เมื่อต้นสูง ประมาณ 25 เซนติเมตร ให้สุมโคนครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เมื่อกิ่งยาวประมาณ 50 เซนติเมตร

  • หลังจากนั้น ประมาณ 2 สัปดาห์ จึงตัดกิ่งไปปลูกหรือชำ โดยตัดให้ชิดโคนต้นและมีรากติดไปด้วยให้มากที่สุด
  • เมื่อตัดกิ่งไปแล้ว จะต้องเอาดินที่สุมโคนออก ให้ถึงต้นตอเดิม เพื่อให้ตอเดิมแตกยอดใหม่อีก และทำการสุมโคนต่อไปเมื่อต้องการต้นใหม่

2. การตอนกิ่งในอากาศ (Air Layering) การตอนกิ่งแบบนี้เป็นแบบที่เราเรียนกันในวิชาเกษตรที่โรงเรียนสมัยประถม (ไม่รู้ว่าสมัยนี้ยังมีการสอนหรือเปล่า?) การตอนกิ่งในอากาศ โดยเฉพาะแบบควั่นกิ่ง เหมาะสำหรับไม้ดอกไม้ประดับ เช่น กุหลาบ โมก โกสน แสงจันทร์ เล็บครุฑ ฯลฯ และไม้ผลบางชนิด เช่น มะม่วง ลำไย มังคุด มะเฟือง ฯลฯ เป็นต้น มีขั้นตอน ดังนี้

  • เลือกกิ่งที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี หรืออยู่ในวัยหนุ่มสาว ซึ่งจะออกรากได้ดีกว่ากิ่งที่มีอายุมาก และควรเป็นกิ่งกระโดงหรือกิ่งน้ำค้าง ที่สมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลง
  • ควั่นเปลือกกิ่ง ความยาวของรอยแผล ประมาณเส้นรอบวงของกิ่ง ทั้งด้านบนและล่างของกิ่ง แล้วลอกเอาเปลือกออกและขูดเยื่อเจริญที่เป็นเมือกลื่นๆ รอบกิ่งออกให้หมด  ถ้าเราขูดเยื่อเจริญออกไม่หมดพืชอาจจะสร้างเนื้อไม้มาสมานแผลที่โดนตัดก่อนที่รากจะงอก
  • นำตุ้มตอน (ขุยมะพร้าวเก่าที่แช่น้ำจนอิ่มตัว แล้วบีบน้ำออกพอหมาดๆ อัดลงในถุงพลาสติกแล้วผูกปากถุงให้แน่น) มาผ่าตามความยาวแล้วนำไปหุ้มรอยแผลของกิ่งตอน มัดด้วยเชือกทั้งบนและล่างรอยแผลที่ควั่น
  • เมื่อกิ่งตอนงอกรากซึ่งจะเกิดตรงบริเวณรอยควั่นด้านบน และรากเริ่มแก่เป็นสีเหลือง หรือมีสีน้ำตาล ปลายรากมีสีขาวและมีจำนวนรากมากพอ จึงตัดกิ่งตอนไปชำหรือปลูกได้
  • ตัดกิ่งตอนไปชำในภาชนะ ในกระถางหรือถุงพลาสติก เพื่อรอการปลูกต่อไป

การตอนกิ่งในอากาศนั้น นอกเหนือจากการควั่นเปลือกกิ่งแล้วอาจจะใช้วิธีตัดเข้าในในเนื้อไม้ของกิ่งประมาณ 1/2 - 2/3 ของขนาดกิ่ง แล้วใช้ลิ่มไม้ หรือใยมะพร้าวกั้นไว้ไม่ให้ต้นไม้สมานแผล และหุ้มด้วยตุ้มเหมือนวิธีการควั่นเปลือกกิ่ง  วิธีการแบบนี้นิยมกับต้นไม้ที่ไม่มีเปลือกกิ่งที่ชัดเจน เช่น ไผ่ มะละกอ เป็นต้น

สรุปแล้ว Layering คือการตอนกิ่ง และมีเทคนิคทั้งหมด 6 แบบคือ

  1. การตอนกิ่งแบบฝังกิ่งให้ยอดโผล่พ้นดิน (Simple Layering)
  2. การตอนกิ่งแบบงูเลื้อย (Compound Layering)
  3. การตอนกิ่งแบบฝังยอด (Tip Layering)
  4. การตอนกิ่งแบบขุดร่อง (Trench Layering)
  5. การตอนกิ่งแบบสุมโคน (Mound หรือ Stool Layering)
  6. การตอนกิ่งในอากาศ (Air Layering)

หวังว่าเพื่อน สมช. จะสนุกกับการตอนกิ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการขยายพันธุ์พืช  ขอบคุณข้อมูลและรูปดีๆ จากเวป www.kasetporpeang.com

อ้างอิง http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=467.0


ความเห็น

ชัดเจน..ละเอียดยิบ อ่านแล้วเข้าใจ พี่ยกให้ 5 โป้งเลยเน้อ! คุณธีร์ :good-job: :good-job: :good-job: :good-job: :good-job:

:embarrassed: เอามะพร้าวแห้วมาขายสวนมากกว่า  พี่ยุพินรู้หมดแล้วล่ะ

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ขอบคุณอีกแล้วจ้า :beg:

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

นักปฏิบัติมืออาชีพอย่างพี่เวทย์ และแดงคงทำได้สบายๆ อยู่แล้ว :cheer3:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

Bookmark แล้วโหวต

EAKAPONG_36@hotmail.com Tel 087 959 9004

:cute2: ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะครับ

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

น้องนึกขอบคุณมาก พี่อ่านละเอียดเลย เพิ่งได้แสดงความเห็น อ่านไปคิดตามไปด้วยว่าที่บ้านมีต้นอะไรที่จะขยายพันธุ์ได้ด้วยแตละวิธีที่ว่าบ้าง ขอบคุณมากเลยนะคะ ทำให้พี่ได้เรียนรู้เรื่องการขยายพันธุ์พืชเหล่านี้และคำเรียกชื่อต่าง ๆ ด้วยค่ะ อ่านบล็อกนี้แล้วเห็นจะมีงานที่ต้องทำอีกเยอะเลยละน้องนึก

:love: ดีใจคุณครูชอบ  พี่สายพิณมีพันธุ์พืชแปลกๆ ที่หายาก  น่าจะมีโอกาสทดลองเยอะอยู่นะครับ

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

:cute: :cute: :cute:

เดินตามความฝันของตัวเอง

:cute2: ขอบคุณ คุณปราโมทย์ตามมาอ่านเรื่อยเลยนะครับ

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

หน้า