ทำไมปลูกมะเขือได้งาม

หมวดหมู่ของบล็อก: 

       ผมคิดอยู่หลายตลบว่าจะเขียนบล็อกเรื่องนี้ดีมั๊ย ถ้าไม่เขียนก็เดี๋ยวมีคนว่าผมกั๊กความรู้อีก พอเขียนก็เดี๋ยวมีคนว่าผมไม่พอเพียงอีก ก่อนที่จะเขียนต่อก็ขอเขียนหลักก่อนว่า ความพอเพียงต้องเหมาะกับคนเองด้วย เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง(เกี่ยวกับการเกษตร) ผมทำมาหลายสิ่งหลายอย่างครับ บางอย่างทำแค่ครั้งเดียวก็รู้เลยว่ามันไม่เหมาะกับตัวเองก็เลิกทำ เช่นการเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เมื่อเลิกการเลี้ยงสัตว์ นั่นหมายความว่าถ้าต้องการทำปุ๋ยหมักก็ต้องซื้อขี้ไก่แกลบ หรือขี้วัว แล้วเอามาทำปุ๋ยหมัก ผมก็ทำมาแล้วครับทำมามากพอที่จะรู้ว่ามันเหนื่อยขนาดไหนกับการทำปุ๋ยหมักในปริมาณมากๆ เพราะไม่มีเครื่องทุ่นแรง มีแค่จอบด้ามเดียวที่ใช้คลุกเคล้า และกลับกองปุ๋ยหมัก สรุปว่าผมหาข้ออ้างที่จะซื้อปุ๋ยได้หลายข้อผมเลยซื้อปุ๋ยอินทรีย์มาใช้ดีกว่า ซึ่งในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อให้เลือกใช้

    ผมเองถึงแม้ว่าจะมาศึกษาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แต่เรื่องความรู้ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ ผลิตภัณฑ์อะไรที่ไม่ขัดกับเกษตรอินทรีย์ผมก็จะเลือกเอามาใช้ครับ ใช้เพื่อศึกษาทดลองว่ามันดีจริงหรือเปล่า ในการปลูกมะเขือยาวของผมครั้งนี้ แปลงยาวเกือบ 30 เมตร มีมะเขือยาวที่รอดตายประมาณ 80 ต้นในการปลูกทำแปลงเสร็จผมหว่านโดโลไมท์ 25 กิโลกรัม(ไม่ได้ซื้อพี่ที่เป็นหมอดินอาสาให้มา)  ขุดหลุมปลูกผมรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ยี่ห้อหนึ่ง+กรดซิลิกอน+โดโลไมท์

   สำหรับกรดซิลิกอนผมซื้อกระสอบละสามร้อย ใช้ไม่มากครับ หลังจากปลูกแล้วผมใช้ปุ๋ยน้ำอินทรีย์ยี่ห้อเดียวกับปุ๋ยอินทรีย์ฉีดพ่นทุกอาทิตย์ จึงได้งามอย่างที่เห็น แต่ที่สำคัญที่สุดถ้าลืมใส่ใจต่อให้ปุ๋ยอินทรีย์ยี่ห้อไหนก็ช่วยไม่ได้

   ผมคิดคำนวณดูเล่นๆ ว่ามะเขือยาวแปลงนี้ผมลงทุนไปไม่น่าจะเกิน 800 บาท ผมได้ผักอินทรีย์ไว้กินเพื่อสุขภาพตัวเองและครอบครัว แถมขายได้อีก หาข้ออ้างให้ตัวเองอีกแล้วว่า คนอื่นเขาซื้ออาหารเสริมกันมากกว่า 800 บาทเสียอีก ผมคิดว่ายังไงสำหรับผมก็คุ้ม ส่วนใครจะมองว่าไม่พอเพียงก็เป็นการมองต่างมุมกันไปครับ

  ส่วน โดโลไมท์ กับ กรดซิลิกอน ค้นจาก google เอาเองนะครับว่ามีประโยชน์อย่างไร ผมจะไม่พูดถึง

วันนี้ได้ขายมะเขือได้แล้ว เก็บได้ 7 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 30 บาท

   บางอย่างที่ผมทำที่ผมใช้ ถ้าคิดว่ามันไม่เหมาะกับตัวท่าน ก็อย่านำไปใช้ครับ ผมกลัวว่าพอผมทำอะไรแล้วมันจะเป็นการทำตัวอย่าง ซึ่งมันอาจเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีก็ได้ แต่ผมจำเป็นที่ต้องเขียนเพราะบางคนคาดหวังว่าผมจะต้องทำอะไรที่เป็นตัวอย่างที่ดีเสมอไป สุดท้าย ความพอเพียงของแต่ละคนไม่เท่ากัน และการพึ่งตนเองไม่จำเป็นต้อง 100% แค่หนึ่งในสี่ก็พอ ถ้าไม่มีการซื้อขายเลยมันก็เป็นไปไม่ได้ในโลกความเป็นจริง เพราะนั่นมันคือเศรษฐกิจหลังเขา

ความเห็น

+กรดซิลิกอน+โดโลไมท์ มีขายตามร้านเกษตรไหมคะ :confused:

""

 

น่าจะมี แต่หายากสักหน่อย กรดซิลิกอนผมได้มาก็คือค้างสต๊อกในร้าน กระสอบขาดไม่มีคนซื้อ

ส่วนโดโลไมท์พยายามทำความรู้จักกับหมอดินอาสาเอาไว้ครับ

มะเขือ งามจัง  น่าผัด  โดโลไม  หาตามร้านขายอุปกรณการเลี้ยงกุ้ง ก็มีขาย  ครับ

กินอยู่แบบพอเพียง

ในเมื่อเรากินได้เพราะมั่นใจในความปลอดภัย...เราก้มั่นใจที่จะให้คนอื่นได้กินสิ่งดี ๆที่มีประโยชน์เช่นกันเนอะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

อา....ขายดีแน่  อันที่แหลงๆมา  แต่ป้าเล็กไม่จำเป็นไหร  น่าจะเป็นคนที่ลงทุนน้อยหวาเพื่อน   ที่แปลงที่2ซื้อมา2แสน8(อันนี้อย่าไปคิดว่าลงทุนเลย  เขาขายที่สำหรับสร้างบ้าน) ค่าถม2หมื่น2 อันนี้คิดเป็นทุนได้  ค่าปุ๋ย1500.- อันนี้ทุนแน่นอน เก็บผลผลิตขายจาก2แปลงได้ราว4หมื่น  ถือว่าสุดยอดแล้ว เพราะว่าส่วนที่เอามากินก็ทุ่นเงินเยอะ  

มะเขือของพี่ทำไมเหี่ยวนะผู้ใหญ่  ขนาดยังไม่ได้เผา  :shy:

พี่ปลูกที่ไหน

:uhuhuh:


ปลูกไว้ 2 ที่ ถ้าเหี่ยวทั้งสองที่นี่ แสดงว่าดินไม่ดีมั่ง

น้องโสพี่ว่าไม่ใช่ดินไม่ดี แต่พี่ว่าพันธุ์ไม่ดีมากหวา:uhuhuh:

มาเขือของใคร ?

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

:uhuhuh: ถึงพันธุ์ไม่ดี แต่ยังโชคดีนะพี่เสิน ที่ยังทำพันธุ์ได้ :uhuhuh: :uhuhuh: :uhuhuh:

หน้า