ตอนที่ 3 จากไร่สู่ทุ่ง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ตอนที่ 3 จากไร่พันธุ์ทองสู่ทุ่งพานทอง ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตรครับ เชิญชมและเสนอแนะครับ

ประตูเข้าทุ่งนาครับ

สองข้างจะเป็นมะฮอกกานี มาจากอ่างทอง เหลือประมาณ สิบกว่าต้น

ฝนไม่ตกมาประมาณอาทิตย์แล้ว แล้งมาก ปีนี้กะว่าจะทำนาว่านทั้งหมดครับ

ไผ่ตงลืมแล้ง ไม่แน่ใจว่าเป็นชนิดเดียวกันกับไผ่กิมซุงหรือเปล่า มาจากอ่างทอง ปลูกได้ปีครึ่ง เอามา 15 เหลือรอดมาได้ 9 ฝากเทวดาให้ท่านดูแล

ส่วนของตะกู ประมาณ 1 ไร่ ปลูกพร้อมกันกับที่ไร่ ไม่ค่อยงามเท่าไหร่ ปีนี้จะลองหาพืชอื่นมาปลูกระหว่างต้นตะกูดู

พะยุง ปลูกได้ปีกว่า ประมาณ 300 ต้น เหลือประมาณ 70% ที่ตายส่วนมากจะโดนหนอมเจาะ และอีกอย่างทนความร้อนของแดดไม่ไหว ปีนี้ที่บ้านแล้งมาก

คันนาคันนี้ จะเป็นพะยุงแทบทั้งหมดครับ

ต้นนี้โตกว่าเพื่อน ประมาณ 2 เมตรกว่า

คันนี้ส่วนมากจะเป็นปะดู่ เห็นแล้วอดชื่นใจไม่ได้ครับ แต่ก็มีตายเหมือนกันครับ โดนแมลงกัด  ตายก็หลายต้น

กระโดนกลางทุ่ง สมัยก่อนนี้วัว ควายชอบกิน เวลากินมักจะติดคอหรือเคี้ยงเอื้องนานๆถึงจะกลืนลงได้ ปัจจุบันหาวัว ควายยากแล้ว

ดูลูกใกล้ๆ

ชนิดนี้ขึ้นที่ต้นกระโดนหรือต้นไม้ชนิดต่างๆ บ้านผมเรียกอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ในเมืองเรียกให้ทันสมัยว่าโฮย่า(มั๊ง)

ปิดท้ายด้วยขี้เหล็กครับ

*ขอขอบคุณ บ้านสวนพอเพียง*

 

 

 

 

ความเห็น

แล้งคือกันนอ ยโสธร

""

 

 

ทุ่งนามีรั้วกั้นเป็นส่วนตัวดี

มีพื้นที่เยอะ น่าปลูกให้หนำใจ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ขอชื่นชมค่ะ คุณขยันปลูกต้นไม้มาก ๆ 

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

อุดรก็แล้งค่ะ ตอนนี้เข้าสู่หน้าฝนแล้ว น่าจะดีขึ้นเนอะ อีก2-3ปี ทุ่งพานทองจะเขียวชะอุ่มร่มรื่นแน่นอน ถ้ามีโอกาสจะไปเยี่ยมชมดูงานนะคะ

Cool คงจะดี ถ้า...

พื้นที่เยอะ ต้นไม้ก็เยอะ--ยินดีด้วยค่ะ (ได้ปลูกข้าวกินเองด้วย)

พื้นที่มากๆแบบนี้ สร้างขนำน้อยๆอยู่สักขนำ มีบ่อปลา มีผัก มีข้าว เลี้ยงไก่  เฮ้อ... ลาทีสังคมเมืองที่แสนวุ่นวาย

แห้งแล้งเหมือนกันนะ    แต่ถ้าฝนมา  หญ้าก้พรึบ   ต้นไม้ก็งาม