เหนื่อยนัก..ก็จงหยุดพักสักหน่อย

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

วันนี้เอารูปที่อ้อยหวานถ่ายเก็บไว้ในระหว่างปั่นจักรยานเที่ยว นอกจากชอบถ่ายรูปดอกไม้แล้ว ยังมีอีกอย่างที่ชอบมากๆม้านั่งริมทาง แค่เห็นภาพก็รู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังไม่ทันได้นั่งเสียด้วยซ้ำ เห็นม้านั่งที่ไหนก็ต้องเก็บรูปไว้ บางครั้งแค่ม้านั่งตัวเดียว แต่ใช้เวลาอยู่นานเดินเก็บรูปไปทุกมุม แถมมีการหมอบ ตะแคง ปีน จนบางคนสงสัยว่าหล่อนทำอะไรกะม้านั่ง ยังกะถ่ายรูปนางแบบ

 

ที่เมืองออตตาวา บ้านอยู่ของอ้อยหวาน ม้านั่งริมทางของที่นี่ไม่ธรรมดาเลย เขาให้ความสำคัญกับม้านั่งจริงๆ นอกจากจะมีสวนเล็กสวนใหญ่อยู่มากมายทุกมุมเมืองแล้ว ทุกมุมของสวนแต่ละสวนจะมีม้านั่ง และเป็นม้านั่งที่ดูเชิญชวนเอามากๆ  ดูเอาเองเถอะ

ม้านั่งตัวนี้เป็นตัวโปรดของอ้อยหวาน วิวตรงนี้สวยทุกฤดู แต่จะเลิศที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ เห็นดอกทิวลิป ดอกไลเล็ค และดอกแคร็ปแอ็ปเปิล กลิ่นดอกไม้จางๆ ในสายลม เคลิ้มไหม?

 

สีเขียวในทางจิตวิทยาว่ากันว่า เป็นสีแห่งความสมดุลและความกลมกลืน นักคิดกลับบอกว่าสีเขียว เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ งอกใหม่ หรือกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง สำหรับอ้อยหวาน สีเขียว คือ ผ่อนคลาย ความหวัง และพลัง นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ หรือแค่ดูรูป ก็ได้ทั้ง 3 อย่างไปพร้อมๆ กัน

 

เชิญนั่ง พิงหลังลง

สายลมพริ้ว ปลิวผ่านดง

หอมกุหลาบ ซาบทรวงใน

หลับตาฝัน ให้ฉันกล่อมเธอ

 

สายน้ำ

การนั่งดูนั่งฟังสายน้ำไหล ไม่ว่าจะเป็นลูกคลื่นน้อยใหญ่ในทะเล หรือน้ำพุเล็กๆ ในสวน เป็นยาสมานใจที่ดีที่สุด เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ มานั่งปล่อยใจ ให้สายน้ำพัดพาความเหนื่อยล้านั้นไป

ที่ตรงนี้เป็นสวนบนเกาะเล็กๆ วิวริมน้ำสวยมาก แต่น่าเสียดายที่มีรั้วขึงรอบ เพราะแม่น้ำออตตาวาตรงช่วงนี้กว้าง น้ำไหลเชี่ยวและแรงมาก มีเด็กมาเล่นน้ำแล้วจมน้ำตายหลายราย จึงต้องมีรั้วกั้น บางครั้งความเกินพอดีอาจจะไม่ค่อยดี แต่สายน้ำตรงนี้สวยจริงๆ

 

อีกอย่างที่มีอยู่เยอะมากๆ ที่ออตตาวา คือโต๊ะปิกนิก

แล้วก็เข้าใจเลือกทำเลด้วย

 

ท่านมหาตมา คานธีได้กล่าวเอาไว้ว่า ชีวิตคนเรามีความหมายเกินกว่าที่จะเร่งรีบมัน

 

อิคคิวซัง เณรน้อยเจ้ปัญญาชอบพูดว่า "จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน พักเดี๋ยวก่อนหนึ่งน๊า"

 

ไม่ทำอะไรเลย ดีกว่าหัวยุ่งไปกับการที่ไม่ได้ทำอะไรเลย คำคมของปรมาจารย์เต๋า ~เล่าจื้อ

อ้อยหวานใช้เวลาตีความคำคมของท่านเล่าจื้อนี้อยู่นาน ไม่แน่ใจว่าตีความหมายออกมาถูกตรงตามความคิดของท่านเล่าจื้อหรือไม่ เพราะดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วล้ำลึกมาก

 

ขอตีความปรัชญาของท่านเล่าจื้อว่า

..บ่อยครั้งในชีวิตคนเรา เรายุ่งวุ่นวายไปกับสิ่งรอบตัว ฉันยุ่งมากๆ ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ฉัน..ฉัน.. เราทำตัวเองให้วุ่นวาย คิดวกวนจนปวดหัว แต่หากเราเอนหลังนั่งลง ตรงที่เงียบๆสงบๆ ดูธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ สายน้ำ แม้แต่ชั่วขณะหนึ่ง แล้วค่อยวกกลับมาดูเจ้าตัวยุ่งๆนั้น เราอาจจะมีงานเยอะจริง แต่ถ้าเราค่อยๆ เลือกทำงานตามลำดับความด่วน ทำไปเป็นขั้นๆ เหนื่อยก็พัก ไม่เหนื่อยก็พักได้เหมือนกัน

 

รูปนี้ถ่ายที่โปรวองซ์  ฝรั่งเศส อ้อยหวานกับคุณผู้ชายต้องเข็นจักรยานขึ้นเขาเกือบ 2 กิโลเมตร เดินอีก 1 กิโล มาถึงตรงนี้ หายเหนื่อยเลย วิวสวยมาก

ในบางครั้งข้างหน้าของความเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ คือ การพักผ่อนที่งดงาม

 

อ่านบทความของพระไพศาล วิสาโล บทหนึ่งที่ท่านกล่าวไว้ทำนองนี้

เมื่อพบกับความยากลำบาก หรือปัญหาสุดปัญญาแก้ไข ก็ไม่ต้องทำอะไร ให้นั่งลง เอนหลังพิง ปล่อยใจปล่อยกาย แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

 

ในสวนข้างๆ โบสถเก่าแก่ที่โปรวองซ์  ฝรั่งเศส มีโต๊ะและม้านั่งที่เก๋มาก นี่ถ้าพุ่มดอกลาเว็นเดอร์บาน สีม่วงสวยกับกลิ่นหอมของดอกลาเว็นเดอร์บานคงซาบทรวงใน ดูรูปแล้วต้องใช้จินตนาการเอา กลิ่นดอกลาเว็นเดอร์นี้หอมไม่เหมือนใคร

 

ขอจบด้วยคำคมของ ลิน ยูธาง (Lin Yutang) นักเขียนจีน ผู้เขียนหนังสือ สิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต (The Importance Of Living)
นอกจากศิลปะในการทำสิ่งต่างๆ ให้ลุล่วงแล้ว ยังมีศิลปะของการ ไม่ทำอะไรอีกด้วย

 

ที่จริงการนั่งพักพิงหลัง ชมไม้ดูนก ก็ไม่ใช่ว่า ไม่ทำอะไรเราทำอะไรที่เพิ่มกำลังให้ร่างกายและจิตใจของเรา โดยการไม่ทำอะไร

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

ความเห็น

เมื่อม้านั่งเป็นพระเอก

โบยบินทั้งอ่าน ทั้งชื่นชม และหย่อนก้นลงบนม้านั่งของคุณอ้อยหวานทุกช็อต

ขอบคุณมากค่ะ เช้านี้มีความสุขจังSmile

นั่งพัก-เอนหลัง-หลับตา--สักครู่--สามารถช่วยให้คิดอะไรได้ง่ายขึ้นค่ะ--ขอบคุณเก้าอี้กับสายน้ำค่ะพี่อ้อย--เข้ากันได้ดีเหลือเกิน.....

ขอบคุณนะ ผมได้แนวที่จะหาอะไรที่พอจะนั่งได้ไปวางในสวนแล้วล่ะ 

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ขอพักเหนี่อยด้วยคน ตอนนี้เหนื่อยและล้าเต็มทน

ขอบคุณค่ะ

ได้อ่านบล็อคพี่อ้อยพร้อมกับภาพสวยๆ ก็เหมือนได้พักผ่อนแล้วค่ะ Smile

พักผ่อนแล้วหายเหนื่อยมีความสุข สดชื่นกับธรรมชาติที่สวยงาม

ชอบจังเลยค่ะ   ดูรูปแล้วสบายตา   อ่านเนื้อหาแล้วจรรโลงใจ  

เมืองนอกเก็บและอนุรักษ์ต้นไม้ พี่ไทยตัดอยู่ร่ำไป ยังงั้นสมาชิกบ้านสวนมาช่วยกันสร้างโลกเขียวด้วยมือเรากันนะครับ

ที่อเมริกา สวนสาธารณะ อย่างน้อย 10ไร่ขึ้นไป มีแม้กระทั่งสวนสำหรับหมา คนของเค้ารับผิดชอบต่อสังคมดีมาก เช่น สัตว์เลี้ยงต้องอยู่ในบ้าน ถ้าออกไปเพ่นพ่านโดยไม่มีเจ้าของจูงไป เจ้าของมีความผิดตามกฏหมาย ถ้าเกิดหมาไปกัดใครเข่า รับรองเป็นเรื่องใหญ่ คนของเค้า ไม่คำว่า "หยวนน่า" ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ถ้าเพื่อนทำผิด เค้าจะไม่เข้าข้าง แม้แต่จูงหมาเดินให้หมาเดินออกกำลังกาย เจ้าของหมาต้องมีถุงพลาสติก คอยเก็บขี้หมา ถ้าหมาเกิดถ่าย ถ้าเจ้าของละเลย คนที่เห็นจะเข้าต่อว่าและบังคับให้เก็บขี้หมาไปทิ้งถังขยะ ถ้าขัดขืน เค้าจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ไม่ทราบที่เมืองไทยทำกันอย่างนี้ไม๊?

บริเวณ รอบป่าสงวน ระยะ 2 ไมล์ ห้ามปลูกบ้านอยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้่างริมทะเล แม่น้ำ ลำคลอง ต้องห่างออกไปประมาณ 1/4ไมล์ หรือ เกือบครึ่งกิโลเมตร ป่าต้นน้ำของเค้า สมบูรณ์มาก เพราะการจัดการดีเยี่ยม ต้นไม้ในบ้าน ปลูกได้ โค่นได้ แต่ต้นไม้สาธารณะ ห้ามแตะ คนมีคุณธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมสูงมาก เจ้าหน้าที่รัฐ มีประสิทธิภาพสูง มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงและมีครบตามความจำเป็น กฏหมายแรง 

ที่อเมริกา มีสวนสาธารณะ มาก ทุกๆเมือง ถ้าเทียบกับของไทย เมือง ก็คล้ายๆ ตำบล อะไรประมาณนั้น จะมีสวนสาธารณะอย่างน้อย 1 แห่ง บางเมืองมีหลายแห่ง บางเมืองที่อยู่ในภูมิประเทศที่เป็นเขา ก็มักจะมีสวนป่า มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมายอย่างที่เห็นในภาพ และมีมากกว่า เช่น ถังขยะ มีมากมายรอบสวน จุดที่สามารถจัดบาบีคิวปาร์ตี้ จะมีเตา บาบีคิวให้ มีโตะ๊นั่ง นอกจากนั้ยังมี ทางเดิน ทางวิ่ง ทางสำหรับจักรยาน ทางเดินป่า เป็นต้น

สวนแต่ละแห่งก็ ใหญ่โต ต้นไม้ ดอกไม้สารพัดสารพัน บางแห่งมีสระน้าขนาดใหญ่ มีเป็ด มีห่าน นก ดอกบัว ร่มรื่น ที่สำคัญ สะอาด เพราะคนมีวินัย ไม่ ทิ้งขยะเลอะเทอะ คนของเค้าจะควบคุมกันเอง ถ้าเห็นใครทำไม่เข้าท่า เค้าจะจัดการทันที คนของเค้ายอมเสียเพื่อนชั่วๆ แต่ไม่ยอมทิ้งความรับผิดชอบต่อสังคม  

หน้า