รวยแต่เปลือก หรือ จนไม่ลง
ตอนเด็กๆ ได้ยินคำนี้บ่อย รวยแต่เปลือก พ่อบอกว่า คนเราวัดความรวยกันที่ความสุข ครอบครัวมีความสุข ลูกๆมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ พ่อถือว่าพ่อรวยแล้ว รวยน้ำใจ รวยความสุข แต่คนที่เขาบอกว่ามีเงินทองเยอะๆ ใส่ทองหยองเต็มตัว อาจจะไม่มีความสุขก็ได้ บางคนข้าวปลาอาหารไม่มีให้ลูกกิน แต่พ่อแม่อวดร่ำอวดรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองของนอกกายที่ไปหยิบยืมคนอื่นเค้ามา เพื่อให้ดูไม่น้อยหน้าคนอื่น เป็นความรวยที่ไม่จริง รวยแต่เปลือกนอก แต่ข้างในอาจจนก็ได้
เมื่อก่อน มองคนที่เค้ามีเงินเยอะ มีเสื้อผ้าดีๆ ได้กินอาหารขยะ เราก็คิดว่า โห เค้ารวยจังเลย มีเงินในกระเป๋าเยอะด้วย เพื่อนๆบางคนมาเรียนหนังสือได้เงินมาวันละร้อยบาท ทำไมเราจนจังเลย พ่อให้ห่อข้าวมากินที่โรงเรียนทุกวัน กับข้าวก็เป็นผักปลาที่พ่อหามาจากกลางทุ่ง กับข้าวบ้านๆ ผักบ้านๆ เราอยากกินพิซซ่าเหมือนเพื่อนจัง ถามพ่อว่า เราจนเหรอ ทำไมหนูต้องคดข้าวห่อไปโรงเรียนทุกวัน พ่อบอก กินอาหารอย่างนี้แหละ หนูจะได้ฉลาดเรียนเก่งๆ ถ้าหนูไปกินอาหารอย่างเพื่อนๆหนูนะ เดี๋ยวจะสอบไม่ได้ที่หนึ่ง ด้วยความบ้าเรียนเก่ง อยากสอบได้ที่หนึ่ง เลยต้องกินอาหารที่พ่อทำให้ทุกวัน
จนเราโตมา เรียนจบมีงานทำ หาอาหารเองได้ เงินทองที่มีในกระเป๋า ซื้อพิซซ่า หรือไก่ผู้พันได้เป็นรถสิบล้อ แต่ทำไมเราถึงไม่อยากกินเลย ใจนั้นอยากกินแต่กับข้าวบ้านๆฝืมือพ่อ
สังคมที่เราเดินผ่านมา ทำให้รู้ว่า สังคมนี้อย่ามองแต่เปลือก ให้มองไปหาแก่นสารข้างใน เกษตรกรในสังคมชนบทบ้านเรา มีอยู่มีกิน อุดมสมบูรณ์ ร่ำรวยกันถ้วนหน้า กลับบ้านที่ต่างจังหวัดแต่ละครั้ง ไปบ้านใครก็ได้กินข้าวฟรี ผักฟรี อุดมสมบูรณ์ ถ้าเขาไม่ร่ำรวยจริงๆ เขาจะให้เรากินฟรีมั้ยละ นี่เขาให้เรากินฟรี แสดงว่า เขาร่ำรวยน้ำใจ มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ถึงให้เรากินฟรีได้
บางคนในสังคมเมืองในเมืองไทย หรือ คนที่มาอยู่เมืองนอก บางคนชอบคุยอวดกันว่า ฉันร่ำรวยมีเงินทองเยอะ ฉันมีสามีฝรั่งรวย ค่านิยมแบบนี้ทำให้เด็กสาวหลายคนอยากมีสามีฝรั่งบ้าง เพราะคิดว่า รวย มีเงินทองให้ใช้จ่ายสบาย
แต่ที่เราพบเห็นมา จากการใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอกแปดปีแล้ว คนที่บอกว่า เขารวยอย่างนั้นอย่างนี้ สามีทำงานได้เงินเดือนหนึ่งเป็นล้านบาท ให้เมียเก็บเงิน แต่ด้วยความใช้ชีวิตอย่างประมาท เสียเงินกับการพนัน ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทำให้เงินหมดไป แต่ตอนนี้สามีตกงาน มานานหลายเดือน ที่เมืองนอก ตกงาน ก็คือ ไม่มีงานอะไรให้ทำ นอกจากนั่งนอนอยู่ที่บ้าน เพราะคนที่นี่ไม่มีที่ดินในการทำการเกษตร จะปลูกอะไรกินก็ไม่ได้ เพราะอากาศที่หนาวเย็น คนที่นี่ตกงานก็รอรับเงินจากรัฐ ซึ่งไปกู้ยืมมาจากกองทุนของยุโรป รัฐเลี้ยงให้คนของเขาเป็นคนขี้เกียจ ไม่ทำงานรอรับเงินอย่างเดียว
คนที่เรารู้จักหลังจากที่สามีตกงาน ก็ยังใช้เงินมือเติบ อ้างตัวว่าฉันร่ำรวยอยู่ตลอดเวลา อาหารก็ต้องซื้อกินอาหารขยะ ไม่รู้จักซื้อหาของที่มีประโยชน์มาให้ลูกกิน เพื่อลดต้นทุน
สามีตกงานหลายเดือนเข้า เงินเลยหมด เขาก็โทรหาเรา เออ ยืมเงินหน่อยซี เราก็ถามว่า เท่าไหร่ คือนึกว่า จะยืมแค่ห้าสิบยูโร แต่เขาตอบว่า หนึ่งพันยูโร เพราะตอนนี้ไม่มีเงินใช้เลย ทั้งครอบครัวมีอยู่ยี่สิบยูโร ลูกสี่คน
เราอึ้ง แต่ก็ให้ยืมค่ะ มานั่งคิดดูแล้ว คนเราถ้าไม่รู้จักคำว่าพอเพียง ใช้ชีวิตอย่างประมาท ให้มีเงินทองเยอะเท่าไหร่ ก็หมด
เมื่อก่อนเราเคยชวนเค้ามาทำงานกับเรา แต่เป็นแผนกร้านอาหาร เค้าบอกว่าไม่อยากทำ เหนื่อย เค้าไม่เคยทำงานหนักมาก่อน
เมื่อวานพอเค้ายืมตังค์เราเสร็จ แล้วเล่าให้เราฟังถึงปัญหาของเค้า เราก็อยากช่วยเหลือ เราบอกว่า ไปทำงานที่โรงแรมฉันมั้ย เดี๋ยวคุยกับจีเอ็มให้ เค้าบอกว่าเค้าไม่เคยทำงานหนัก ถ้าทำส่วนออฟฟิตน่าจะทำได้ แต่เราบอกเค้าว่า ส่วนออฟฟิตเค้าใช้วุฒิการศึกษา และภาษาต้องได้ด้วย แต่ถ้าแผนกร้านอาหาร เราคุยให้ได้ หรือว่าทำส่วนที่เป็นครัวก็พอได้ สรุปเค้าไม่อยากทำงาน เพราะไม่เคยเหนื่อยมาก่อน
บางครั้งคนเรา ชีวิตต้องสู้ อย่ายึดติดแต่กับหัวโขนที่สวมอยู่ หัวโขนที่คอยหลอกว่า ฉันมีสามีฝรั่ง ฉันต้องร่ำรวย มีเงินทองเยอะๆ เป็นมาดามอยู่บ้าน งานการไม่ต้องออกไปทำ สามีเลี้ยงได้ คนเราพอยึดติดกับหัวโขนมากๆ ทำให้เกิดการหลอกตัวเอง แม้ว่าเงินทองในกระเป๋าตัวเองไม่มีซักบาท ก็ต้องไปหยิบยืมมาใช้เพื่อให้คนอื่นรับรู้ว่าตัวเองยังร่ำรวยอยู่ มีกินมีใช้อย่างฟุ่มเฟือยอยู่ นี่แหละ ที่เค้าเรียกว่า รวยแต่เปลือก หรือ จนไม่ลง
- บล็อกของ M Browne
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 10358 ครั้ง
ความเห็น
ตั้ม
9 สิงหาคม, 2010 - 20:25
Permalink
โดนใจ..ครับอาจารย์
วลีนี้เด็ดครับ "ไม่ต้องเสียสละหรอกครับ แต่อย่าเอาเปรียบคนอื่นๆ ก็แล้วกัน" ใช่เลย..มันต้องอย่างนี้แหละครับ
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
ถุงถัง
9 สิงหาคม, 2010 - 20:20
Permalink
คนประเภทนี้
คนประเภทนี้ พบเห็นได้ทั่วไปของสังคมไทยค่ะ ไม่ต้องมองหาไกล ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนพ้อง น้องพี่
ที่อยู่รายรอบตัวเรา อาจจะเคยได้ยิน คำว่า"รายได้ต่ำ แต่รสนิยมสูง" ถึงแม้ไม่มีเงินก็พยายามแสดงออกมา
ให้ผู้อื่นเข้าใจว่ามีเงิน สุดท้ายเงินที่นำมาใช่ คือเงินที่ไป หยิบยืมมา กู้มา กดบัตรเครติดมา
แล้วก็ต้องมานั่งเป็นทุกข์เมื่อไม่มีเงินไปใช้หนี้สินที่ท้วมหัว ท้วมตัวอยู่
ส่วนเรื่องให้เงินคนอื่่นยืม สำหรับพริกตอนนี้เข็ดจนตายค่ะ กรณีของพริกนะ เพื่อนกันรักกันมาก
ตอนมาขอยืมพูดดี น่าสงสาร เราก็นะเพื่อนกัน เพื่อนไม่ช่วยเพื่อนแล้วจะมีเพื่อนไว้ทำไม เลยให้ไป
เวลาผ่านไป ปีนี้เข้าปีที่ 8 ยังไม่มีวีแววว่าจะคืนเลยค่ะ สิ่งที่ได้กลับมาไม่ใช้ ดอกเบี้ย นะค่ะ แต่กลับแคลงใจ
ไม่ติดต่อ ไม่มีการเจรจาอะไรทั้งสิ้น เรียกว่าเสียเพื่อนไปเลยค่ะ
นับตั้งแต่มา ประกาศเลยค่ะ ช่วยเหลือได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเงิน
ปล.ไม่ได้พูดให้กลัว แต่เล่าเป็นอุทาหรณ์
ยังไม่รวย อยู่อย่างรวย ไม่มีวันรวย.....ยังไม่จน อยู่อย่างจน ไม่มีวันจน
ตั้ม
9 สิงหาคม, 2010 - 20:30
Permalink
ของพี่ 16 ปีแล้ว
ของพริก 8 ปี ของพี่ 16 ปีแล้ว..แต่ก็มีข้อดีอย่างนึงคือ..เค้าไม่กล้ามาขอเราอีกเลย..(หายหน้าไปด้วย..ไม่พบเจอเลย)
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
ป้าเล็ก..อุบล
9 สิงหาคม, 2010 - 20:39
Permalink
555ชอบข้อดี
เหมือนเป๊ะ
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
M Browne
10 สิงหาคม, 2010 - 17:21
Permalink
เคยโดนเหมือน เขายืมหมื่น
เคยโดนเหมือน เขายืมหมื่น เราห่วงกลัวเค้าไม่พอใช้ ให้ไปหมื่นห้า สิบปีแล้วยังไม่คืน แถมกล้ากลับมายืมอีกรอบนะ แต่ไม่มีอีกแล้ว จบ
แต่กับคนนี้ ทีให้ยืมไป คือ เค้าไม่เคยยืม แล้วเป็นครั้งแรกที่เค้ายืมเราด้วย เค้าบอกว่าปีนี้ดวงเค้าตกมาก เราบอกว่า อย่าโทษดวงเลย เค้าประมาทกับการใช้ชีวิตเอง
มานี มานะ วีระ ชูใจ
9 สิงหาคม, 2010 - 20:31
Permalink
ผมไม่เคยเห็นนะคนพวกนี้....
เพราะอะไรหรือ....
เพราะผมไม่เคยมอง...
ไม่เคยสนใจว่าเค้าจะทำอะไร...
จับเฉพาะสาระด้านดีๆของเขามาปรุงแต่งชีวิตตัวเอง...
มีก็กิน ไม่มีก็หา เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง แต่ต้อวตื่นตัวตลอดเวลา
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
สะเออะไปรักเขา
9 สิงหาคม, 2010 - 23:53
Permalink
โห้ยยยยยยยยยยยย พิมพ์กันเยอะจัง
ผมคนอ่านๆ ทุกๆคน...อ่านจบ นอนหอบแฮ๊กๆ เลย (เขาห้ามคนไทยอ่านหนังสือเกินวันล๊ะ 7 บรรทัด)
M Browne
10 สิงหาคม, 2010 - 05:10
Permalink
ใครห้ามค่ะ ขอร้องเถอะ
ใครห้ามค่ะ ขอร้องเถอะ ขอแบบสร้างสรรหน่อย การอ่านเป็นการพัฒนาคนเหมือนกัน
คือเราเห็นคุณพิมพ์ประมาณนี้หลายครั้งแล้วค่ะ ถ้าคนไทยไม่รักชาติไทย จะให้ใครมารักค่ะ ช่วยกันภูมิใจและสร้างสิ่งดีๆกับตัวเราก่อนดีกว่า อย่ามาบอกว่า เขาว่านั่น เขาว่านี่
แดง อุบล
10 สิงหาคม, 2010 - 10:51
Permalink
สังคม
คนประเภทนี้ พี่เคยเจอมาหลายรายแล้วค่ะ คือเงินเค้าได้มาง่าย ๆ ก็ไปแบบง่าย ๆ พอขาลง แล้วจนไม่ลงค่ะ
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
เซพ
11 สิงหาคม, 2010 - 01:52
Permalink
รวยแต่ปลือก
''คนเราวัดความรวยกันที่ความสุข'' จริงครับคนเราวัดกันแบบนี้แหละ ถ้ารวยแล้วไม่มีความสุขไม่ขอรวยดีกว่า๕๕
หน้า