รายงานความคืบหน้า"ปลูกพืชผักด้วยปุ๋ยหมักพอเพียงในกระสอบ"
รายงานความคืบหน้า"ปลูกพืชผักด้วยปุ๋ยหมักพอเพียงในกระสอบ"
ความที่อยากได้ผัก สดๆ กรอบ อร่อย และสำคัญสุดๆคือเป็นผักปลอดภัยกินอย่างสบายใจในครัวเรือน
เป็นจุดเริ่มต้นที่ตัดสินใจทำปุ๋ยหมักตื่นตัว(ตามแนววิธีการคุณทูเอส)
ที่ในวันนี้ถูกเรียกว่าปุ๋ยหมักพอเพียง
...หลายวันที่ผ่านมา ดีใจว่ากองปุ๋ยหมักกลับกองมาเป็นครั้งที่เก้าน่าจะใช้งานได้
เริ่มเลยย้ายต้นเล็กๆ
จากที่ก่อนหน้านี้ปลูกในกระถาง ผักต้นผอมๆ แกร็นๆ ยิ่งผักจีนด้วย คะน้า กวางตุ้ง เป็นต้น
ที่ควรจะกินได้แล้วลงกระสอบข้าวที่ตัดครึ่งทำเป็นแปลงปลูกผัก
ก้นกระสอบเจาะรูไว้ให้น้ำระบายออกได้
ไม่ได้ปลูกในแปลงดิน
แต่ปลูกผักในกระสอบที่แบ่งครึ่ง ฝนมาหลบฝน
ตรงไหนแดดเยอะหน่อยพาไปเจอแดด
ต้นฟักในกระถางจับยกทั้งกระถางลงบนกองปุ๋ยหมักในกระสอบ
และก่อนที่รากต้นฟักจะโตกว่านี้
ขอแบ่งพื้นที่น้อยๆสักหน่อยให้ผักพอได้อาศัยโตสักพักก่อน
ความเป็นอยู่ในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด ...แดดก็จำกัด ...
นี่อีก ต้นโชยเตียจั้ว(น่าจะใช่ต้นเพกา)ที่เพาะในกระถาง กับมือด้วยเมล็ด
แต่วันนี้รากโผล่พ้นกระถาง จำเป็นต้องขยับขยายให้มีอาหารมากพอ
ไม่อยากให้รากกระเทือนเลยเจาะก้นกระถางฝังลงกองปุ๋ยหมักในกระสอบ
...ต้องลองดู...
นี่อีกต้น เอาต้นผักไปอาศัยก่อนที่รากเพกาจะออกมาดูดซับธาตุอาหารจากกองปุ๋ย
คงพออาศัยกินผักได้ระหว่างรอรากต้นเพกาชอนไชจากก้นกระถาง
และเมื่อต้นหนักกว่านี้ยกไม่ไหวค่อยหาที่ปักหลักให้
แตงหูฉลามที่เพาะในกระถาง
เมื่อใบจริงโผล่ เจาะก้นกระถาง ยกวางไว้บนกองปุ๋ยหมัก
มีใบเลี้ยงที่ใหญ่ ส่วนใบจริงปรากฏเป็นใบที่ห้าหนวดหรือมือยึดจับปรากฏ
(ต้นก่อนหน้านี้ประมาณมือจับยื่นออกมาเมื่อมีใบที่เจ็ด)
ต้นแข็งแรงมาก เป็นอีกความหวังว่าจะมีผลแตงหูฉลาม
ฟักทองต้นจากเมล็ดที่ร่วงหล่นซอกพื้นหิน ใกล้กองปุ๋ยหมักพอเพียงที่กองปลูกผัก
เวลารดน้ำผักน้ำซึมให้อาหารจนต้นโตสวย
วันนี้เอาหลักปักไว้ต้นจึงเลื้อยสูง...เก็บภาพหลังเติมปุ๋ยหมักพอเพียงรอบใหม่
(หากติดผลได้คงต้องหากระเช้าแขวนผลฟักทองแทน)
เพาะอีกรอบ ต้นอ่อนร้อคเก้ตกำลังเริ่มชีวิตใหม่
(ยกเว้นต้นกระถางล่างสองจากซ้าย)
...ผักชีฝรั่งที่ปักไว้หลายๆต้น หนึ่งในนั้นเริ่มกำลังจะให้ดอก...
อีกหน่อยจะมีเมล็ดที่จะเพาะต่อในกองปุ๋ยหมักพอเพียงกองเล็กๆ
...ต้นใหม่จะไม่เห็นเป็นภาพผอมแห้งๆ เหมือนอย่างนี้...
บอกลากันวันนี้ด้วยแรดิชที่เพาะจากเมล็ดแดนไกล เกือบสิบเมล็ดเหลือสองต้น
มีต้นลาเวนเดอร์...ที่โตช้าไม่ทันใจ...เป็นฉากหลัง
.
- บล็อกของ สายพิน
- อ่าน 10131 ครั้ง
ความเห็น
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
26 มีนาคม, 2011 - 21:08
Permalink
พี่สาย
หนูเพาะในแกลบดำอ่ะค่ะ วันก่อนที่ฝนตกหนัก ตื่นเช้ามา เห็นแกลบกระจายดำๆไปทั่วทุกกระบะเลย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเมล็ดยังอยู่หรือว่ากระเด็นไปหมดแล้ว เลยรอดูอาการอีกสักระยะ คิดว่ายังมีเม็ดเก็บไว้อยู่ ถ้าหากไม่งอก คงลุ้นใหม่อีกรอบ
กลัวไม่มีการบ้านส่ง วันนี้รีบเพาะร็อกเก็ต กะผักอืก 3-4 อย่าง เฮ่อ อากาศเปลี่ยนแบบนี้ ทำไม่ถูกเลย บางวันร้อนจัด บางวันฝนตกหนัก ต้นไม้คงจะงงเหมือนกัน
สายพิน
26 มีนาคม, 2011 - 21:52
Permalink
คุณแก้ว
คุณแก้ว เอาใจช่วยหวังว่าจะมีเมล็ดลาเวนเดอร์งอกที่พื้นดิน แต่ว่าต้นเล็กมากอาจแยกยากว่าเป็นต้นลาเวนเดอร์ค่ะ
ที่ทำคือเพาะใส่ถ้วยแล้วใส่กระถาง
เอากระถางใส่ตะกร้า ยกหลบฝนหาแดด วันละหลายรอบ ยิ่งวันฝนตกด้วยแล้ว กล้ามขึ้นเลยค่ะ
อยากบอกคุณแก้วว่า วันฝนตกเจอปัญหาหอยทากกินใบต้นถั่ว(เดิมทีใส่ตะกร้าไว้ จนต้นสูงต้องปักหลักให้เลยเอาไปตั้งหน้าบ้านรับแดด)
สำรวจหลังเช้ามืดวันฝนตก ไม่เหลือเลยค่ะ ...ซึมไปว่ากว่าจะงอกมาเป็นต้นพันหลักได้เป็นเมตรก็ตั้งหลายวัน...ถูกกัดทิ้งชั่วข้ามคืนที่ไม่เห็นกัน รวมทั้งถั่วพุ่ม ถั่วแปบด้วย (ส่วนถั่วอีโต้นั้นงามดีเลยค่ะ) แต่ว่ายังมีเมล็ดเหลือนะคะ ว่าวันสองวันนี้จะเริ่มเพาะใหม่อีกรอบ
ก่อนหน้านั้น กัดกินต้นแตงหูฉลาม ต้นบัตเตอร์นัต ต้นบวบ วันละต้นสองต้น ...ทั้งที่กว่าจะเพาะได้...เลยได้ทำใจกัน
sam k.
26 มีนาคม, 2011 - 14:17
Permalink
น้องสายพิน
นักสู้ของผักสีเขียวคนหนึ่งนะ..
สายพิน
26 มีนาคม, 2011 - 21:00
Permalink
ขอบคุณมากค่ะ คุณลุงแซม
ขอบคุณมากค่ะ คุณลุงแซม แวะมาให้กำลังใจกัน ยังไงกำลังฝึกฝนเรียนรู้น่ะค่ะ คงพอได้ผักกินบ้าง
เสิน
26 มีนาคม, 2011 - 14:28
Permalink
คุณสายพิน
:cheer3: ฝันอะไร ถ้าใจสู้ก็ย่อมได้อันนั้น สู้สู้นะครับ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
สายพิน
27 มีนาคม, 2011 - 11:13
Permalink
ขอบคุณค่ะ คุณเสิน
ขอบคุณค่ะ คุณเสิน ยังพอมีแรงทำ ...นี่ก็เตรียมต้นไม้ที่ปลูกครั้งเดียวได้กินนานๆไว้เหมือนกัน เผื่อว่าหมดแรงปลูกยังได้เก็บยอดกินบ้าง
คนยอง
26 มีนาคม, 2011 - 16:26
Permalink
พี่สายพิน
งามๆทั้งนั้นเลยครับพี่ สักวันผมคงมีโอกาสทำปุ๋ยหมักใช้เองบ้าง
ตอนนี้เวลาไม่เอื้อ ข้อเก็บข้อมูลไว้ก่อนนะครับ
สายพิน
27 มีนาคม, 2011 - 14:18
Permalink
คุณคนยอง
คุณคนยอง ...วันที่ตัดสินใจทำคือมองซ้ายมองขวาว่ามีอะไรทำได้ หยิบทำเลยค่ะ แล้วก็ค่อยๆเพิ่มใบไม้เพิ่มฟางทีละอย่างสองอย่าง เอาใจช่วยให้คุณคนยองเริ่มต้นทำได้ในเร็ววันด้วยค่ะ
2s
26 มีนาคม, 2011 - 17:45
Permalink
วัสดุปลูกเก่า 2-21/2 ส่วน ผสม กับ ปุ๋ยหมักพอเพียง 1ส่วน
ปุ๋ยหมักพอเพียง ถูกออกแบบมาเพื่อปลูก ผักกินใบ ผักกินผล ถั่ว แตง พริก มะเขือและมะละกอ โดยตรง โดยที่ไม่ต้องการให้มีการเผาเศษพืชใดๆทั้งสิ้น ไม่ต้องการให้ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช และต้องการให้กลับกองเอง จึง ใช้สีเหลือง(แห้ง)(ฟางข้าว) ต่อสีเขียว(สด)(หญ้า(หน้าฝน) ใบไม้ เศษอาหาร) 1:1 โดยปริมาตร กองสูงไม่น้อยกว่า 90ซม. และความชื้น 50% กลับกอง อาทิตย์ ละ 2ครั้ง กองปุ๋ยต้องไม่มีกลิ่น แมลงวัน มารบกวน ทุกๆบ้านด้วย จึงจะเรียกว่า ปุ๋ยหมักพอเพียง
แต่ไม่อยากให้ กองยุบมากไป และจะไม่ได้ความสูงตามมาตรฐาน และปริมาณปุ๋ยหมักจะได้น้อยไปเมื่อเสร็จสิ้นจึง ให้ผสมกากกาแฟ และปุ๋ยคอก อีก 20% โดยปริมาตร
เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อปลูกผักโดยตรง รสชาติ กรอบ อร่อย จึงมีลักษณะโดดเด่น นอกจาก สี ความสด ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว ไม่รวมถึงธาตุอาหารครบเกือบทุกธาตุ ที่จะทำให้ผู้ที่รักสุขภาพ มีความพอใจ ชอบใจเป็นพิเศษครับ
ทำต่อไป โดยความเพียร อดทน ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
อนึ่ง ก้อนเห็ดที่เสร็จแล้วสามารถผสมเข้าไปในกอง แต่ช่วงแรกๆ อย่าให้เกิน 10%โดยปริมาตร ถ้ามีประสบการณ์แล้ว ให้กองผสมกับปุ๋ยคอกทิ้งไว้ก่อนจะได้สะดวกเวลาทำงาน ผสมได้ถีง 20%
เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย
สายพิน
26 มีนาคม, 2011 - 20:15
Permalink
คุณ2s
คุณ2s ช่วงวันหลังๆนี้กองยุบลงมากค่ะ ประกอบกับฝนตกอุณหภูมิขณะกลับกองปุ๋ยครั้งล่าสุดภายในกองไม่ร้อนมาก ฟางยังย่อยเหลือเส้นฟางอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่อยากนำมาใช้งานเลยไม่รอจนฟางย่อยสลาย กองนี้ใช้ใบไม้หลายอย่าง รวมทั้งใบสดของมะม่วงและเสาวรสด้วย (เดิมใช้แต่ใบมะเฟือง) ยังไม่ทราบว่าใบมะม่วงที่มีรสเปรี้ยวนี้จะมีผลทำให้ดินออกมามีผลต่อภาวะความเป็นกรดด่างของกองปุ๋ยหรือไม่ด้วย
ที่จริงก็เสียดายปุ๋ยนะคะ กับการไปลงต้นไม้มากกว่าเอาใส่ผักอย่างเดียว หากเป็นต้นไม้แล้ว อย่างเช่นต้นเพกานี้ควรจะเป็นปุ๋ยมูลสัตว์ล้วนๆหรือไม่คะ เคยใส่ปุ่ยขึ้วัวในกระถางต้นไม้สังเกตว่าต่อมาดินแน่นเหนียวน้ำไม่ค่อยไหลผ่าน
ต้องขอขอบพระคุณมากนะคะ คอยติดตามและให้คำแนะนำเป็นระยะ เมื่อเวลาที่ให้ความคิดเห็นในแต่ละครั้งทำให้มีความเข้าใจมากขึ้นและเป็นการทบทวนว่าสิ่งที่ทำยังต้องปรับปรุงอย่างไรด้วยค่ะ
หน้า