บทเสวนา ... เพื่อ ... สังหารเวลา

หมวดหมู่ของบล็อก: 

      ก่อนอื่น ต้องขออนุญาตบอกกล่าวไว้เป็นเบื้องต้น ว่าบันทึกนี้ ไม่มีสาระ อะไรนัก เพราะเป็นการหาโอกาสเข้ามาเสวนากับ สมช. เป็นการสังหารเวลา ด้วยการหาสิ่งที่เกิดขึ้น - เป็นไป ตามธรรมชาติ ที่ปรากฏอยู่รอบ ๆ บ้าน มานำเสนอประกอบการคุย เพื่อป้องกันโรคระอา ที่อาจเกิดแก่ สมช.

      สืบเนื่องจาก เมื่อวันเสาร์ที่ 23 เม.ย. 2554 ข้าพเจ้าไปพบหมอ ตามสั่ง (ขออนุญาตไม่พาดพิง หมอ และโรงพยาบาล) หลังจากถูกจับ หยอดนั่น - ส่องนู่น - ฉายนี่  จนข้าพเจ้า หน้ามืด ตามืด ไปห้วงเวลาหนึ่ง

      จึงถูกเรียกตัวเข้าพบ “อาจารย์หมอ” (ได้ยินเขาเรียกกันอย่างนี้) อาจารย์หมอ สั่งให้นั่งตรงหน้า แล้วจัดการส่องกล้อง สั่งให้มองแสงจนตามัวอีกรอบ ท่านจึงหันไปเปิดจอ เรียกข้อมูลมาให้ดู ซึ่งข้าพเจ้า มองเห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง เนื่องจากตายังพร่าด้วยฤทธิ์ ของแสงสารพัดกล้อง ที่กล่าวมาข้างต้น

         “ดูเหมือนจอตา ตรงจุดรับชัด ทะลุ นะ” แม้ตาจะมองไม่ชัด แต่หูยังทำหน้าที่ ฟังเสียงอาจารย์หมอ ได้ชัดเจนทุกถ้อยคำ

             “เป็น เพราะ อะไรครับอาจารย์” ข้าพเจ้าถามถึง สมุฐาน

         ก็มีเสียงตอบกลับมา “ยากจะระบุ”

             “เพราะความดัน หรือเปล่าครับ” ข้าพเจ้าตั้งคำถามใหม่

         ก็มีเสียงวิสัชนาจากอาจารย์หมอ ว่า “ไม่น่าใช่ ค่ะ”

             “เพราะอายุมาก เป็นไปได้ ไหมครับ” ถามเพราะคนที่อายุมาก ๆ มักมีอาการเกี่ยวกับการมองเห็น

         “อาการนี้พบได้ในทุกวัยแหละค่ะ” อาจารย์หมออธิบายแทนการตอบคำถามตรง ๆ

             “เป็นเพราะไวรัส ได้ไหมครับ” ถามโง่ ๆ เพราะคิดคำถามอื่นไม่ทัน

         “ไม่เกี่ยวกับไวรัส หรอกคะ” อาจารย์หมอยังใจเย็นตอบข้อสงสัย

             “เอ ... งั้นแมงอะไรเข้าไปแทะ น้า...” ข้าพเจ้าปรารภเล่น ๆ กับตัวเอง แต่คงปรารภดังไปหน่อย

      เลยได้ยินเสียง “ฮึ ๆ ๆ...” แสดงอารมณ์ขันจากลำคอของอาจารย์หมอ แทนคำตอบ  แล้วท่านก็หันมาบอกอย่างจริงจัง ว่า

          “เอาอย่างนี้แล้วกันลุง .... วันอังคาร มาฉีดสี แล้วยิงแสงอูเส้นเลือดอีกหนนะ”

       นั้นคือปะกาศิต ให้ข้าพเจ้าต้องรอ  และการรออย่างว่าง ๆ ก็กระไรอยู่ เดี๋ยวจะเกิดโรคปวดหัวเพราะไม่ได้แส่ ก็เลยออกเดินดูรอบ ๆ บ้านที่นครปฐม ก็แว๊บคิดที่จะเอาอดีต ที่เคยรื้ออิฐทางเดิน แล้วเปลี่ยนตามกาลเวลา  มาเป็นปัจจุบัน มานำเสนอให้ดูเล่น ๆ

 

 

 

 

    ชิ้นแรก ก็ แม่บุญธรรม “ต้นมะม่วงเบา” - กับ “ยอดมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง” ลูกบุญธรรม  ซึ่งจะเห็นว่าทั้งสองรักใคร่ เลี้ยงดูกันดี โตวัน โตคืน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     ถัดมา ก็ซุ้ม ฟักข้าว ที่หนาแน่นด้วยใบ (จะเผือใบซะก็ไม่รู้) หวังว่าอีกหน่อย คงได้เห็นดอก

 


 

 

 

 

 

 

       ชิ้นที่สาม กูรู ในซุ้มบ้านฯ ของเรา เห็นปุ๊บ ก็ร้องอ้อ “เสาวรส” แล้วปรารภต่อ “ไม่เห็นแปลก”

       ครับ ... ไม่ได้นำเสนอความแปลก แต่นำเสนอความก้าวหน้า จากที่เคยนำเสนอภาพที่เป็นใบเลี้ยง ต้นเล็ก ๆ ในกระถาง มาเป็นต้นบนพื้นดินอย่างที่เห็น นี่แหละ

 

 

 

 

 

 

 

 

     แล้วก็ตามมาด้วย มะนาวพันธ์ พิจิตร 1 ที่ปลูกในกระถาง ที่มีพริกขี้หนู ขี้เหงามาขึ้นร่วมกระถางด้วย ซึงข้าพเจ้า สงสาร เลยให้พักพิงอยู่ด้วย (ไว้ตำน้ำพริก ไม่ต้องหาซื้อพริกสด ฮึ ๆ ๆ...)

 

 

 

 

 

      

 

      อ้าว .... แถมด้วยประชากรพลัดถิ่น “ต้นเหลียง”  ครับที่เห็นเป็นกิ่งตอน ที่ตอนมาจากสวนที่สุราษฎร์ฯ ครับ ความก้าวหน้ายังไม่ปรากฏชัด แต่แน่ ๆ ตอนนี้ ดูสด สมบูรณ์ ดี

 

 

 

 

 

 

      ครับ .... ต้องพักก่อนแล้วครับ ตาชักพร่า และ แสบ - เคืองแล้วครับ 

                                     หวัดดี......

ความเห็น

     อาการเจ็บป่วย มันก็มี แค่หาย กะ ไม่หาย เท่านั้นแหละป้าหน่อย ไม่น่าจะต้องตื่นเต้นกะมันนะ ก็เรื่องของไตรลักษณ์ นั่นหละ

    "ทุกข์" มีไว้เพื่อเห็น ถ้าเรารู้ทัน ... แล้วไม่เข้าไปเป็น มันก็หนีเองแหละ

       ผมเคยรู้สึกปวดหลัง แล้วหมอ (ที่เป็นเพื่อนกัน) บอกว่ากระดูกกดทับฯ ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ที่เอวนะปวดบ้าง แต่ที่ใจ ... เฉย ๆ .. ครับ

    ผ่าแล้วไม่หาย .... ความรู้สึกที่จะถูกปรุงขึ้นมาใหม่ .... คืออะไรเอ่ย?

เข้ามาบล็อกนี้ได้ทั้งเรื่องตา  + เรื่องต้นไม้  คุ้มจริง ๆ  ขอให้ลุงหายไว ๆ นะคะ 

    ก็หายบ่อยอยู่แล้ว เดี๋ยวแว๊บ ๆ .... จะให้หายถาวรเลยรึเจ้....

         ย้อ ... เย่น นา

อย่าไปกังวลวันนักเลย ปัจจัยเป็นอย่างไร ก็อย่างนั้นแหละ .... จะหายก็ได้ ไม่หายก็เอา ตราบที่ยังเข้ามาคุยกันได้ ก็จะพยายาม ครับเจ้

     ขอบคุณมาก ๆๆ...ครับ ที่ให้กำลังใจ

ลุงทำใจเย็นสบายได้ก็สุดยอดแล้วค่ะ  ถ้าเป็นจุ๋มคงกลุ้มใจมากจนทำให้ร่างกายส่วนอื่นไม่สบายไปเลยก็ได้ค่ะ


หมอไทยมักใช้คำพูดและภาษาเกินความเป็นจริง  อย่างเช่น  “ดูเหมือนจอตา ตรงจุดรับชัด ทะลุ นะ”   หมอว่าเอ็นกดทับเส้นประสาท   ที่จริงแล้วมันไม่น่าเป็นไปได้


ถ้าจอตาทะลุเราคงมองอะไรไม่เห็นแล้วหละค่ะ  เอ็นกดทับเส้นประสาท  ตรงไหนหรือคะ?  ถ้าพูดว่าหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทบริเวณหลังก็น่าจะถูกตามหลักการแพทย์หน่อย


จุ๋มทำงานเป็นล่ามและส่วนใหญ่ก็แปลให้รพ. อนามัย หมอสวีเดนงงมากเวลาที่คนไข้พูดอะไรแปลกๆ  มันฟังดูเหมือนพวกพ่อมดหมอผีบอกคนไข้ยังไงไม่รู้ค่ะ อาจจะเป็นเพราะคนไข้มาจากตวจ.ห่างไกลความเจริญก็ได้  หมอเลยต้องหาอะไรมาพูดให้คนไข้เข้าใจในสไตล์ของคนไข้ก็ไม่ทราบได้

     หมอ ท่านก็ทำหน้าที่ ของท่าน น่ะหลาน

        ส่วนเรา ก็ต้องทำหน้าที่ ให้ "รู้" และ "เห็น" ตามที่เป็นจริง .... และก่อให้เป็นสัมมาสังกัปโป

     ไม่มีอะไรแปลกหรอกคราบ ... เหอ ๆๆๆๆ .....

ขอให้ อดทน มีสติสมาธิ ในการจะแก้ปัญหา ผ่านอุปสรรคต่างๆ ด้วยจิตใจที่สงบ ด้วยจิตใจที่ตั้งมั่น ผ่าน ความทุกข์ทั้งกาย และใจ ไปได้ด้วยดีนะครับ

วิบากกรรมที่เกิดขึ้น เรายอมรับ และเชื่อมั่นว่า ด้วยความศรัทธาในทางธรรม การเจริญ ทางศีล สมาธิ ภาวนา ในปัจจุบันธรรม ที่ คุณลุงทำอยู่ จะสร้างกรรมดี ให้พบกับความสงบ พ้นทุกข์ทางใจได้ ทั้งใน ปัจจุบัน อนาคต และในภพภูมิ ต่อๆไป

ด้วยจิตคารวะ

เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย

 

 

    ขอบคุณมาก ๆ ต่อกุศลจิต ... ผลกุศลนี้ ได้สนองผลอันถูก ควร แด่ท่าน 2s อยู่แล้วอย่างแน่แท้  ไม่จำต้องมีใครมาอ้อนวอน ส่งมอบ

    ความสุข อิ่มเอิบ ปรากฎเป็นปัจจัตตะภายในจิตท่าน ตั้งแต่ท่านเกิดสัมมาทิฐิแล้ว

             จึงขอขอบคุณ ในกุศลจิตอีกวาระ

ขอให้สายตาลุงพาโลหายเร็วๆนะครับ


จะได้เห็นความก้าวหน้าและเจริญเติบโตของลูกหลานในบ้านสวนต่อไปนานๆ

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

    ขอบคุณ ในกุศลเจตนา .... จะหายหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาหรอกหลาน

      จากที่สัมผัส สมช. บ้านสวนฯ มา ลุงมั่นใจว่า บ้านสวนฯ ก้าวไปสู่อนาคต อย่างมั่นคง และพัฒนาได้แน่ ๆ

          ขอบคุณ นะ คราบ.....

สรุปว่ายังไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือ ขอให้ให้หายไวๆนะค่ะ

แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง

ทดสอบ

หน้า