กินดี มีสุข ตอน ทะเลสาบคือ ชีวิต ๒.

หมวดหมู่ของบล็อก: 

                          

  บันทึกเรื่องราวชาวเลพื้นที่อำเภอเขาชัยสน และบางแก้ว จ.พัทลุง ได้มาด้วยการไปใช้ชีวิตร่วมกับชุมชนระหว่างวันที่ ๓๐ พค.- ๑มิย.ที่ผ่าน พรานทะเล มีชีวิตอยู่กับทะเลตั้งแต่เกิดจนวันตาย(ไม่ต่างชาวป่าหรือพรานไพร)และชาวนา มีเรือประมงขนาดเล็กทำขึ้นจากภูมิปัญญาใช้ไม้ตะเคียนมาขุดเป็นเรือและใช้น้ำมันต้นยางนามาประสานไม่ให้น้ำซึมเข้าเรือ  ชาวเลพื้นบ้านต้องออกเรือต้งแต่ตอนเย็นเพื่อวางแหอวนใช้เวลา ๓-๔ ชั่วโมง แล้วกลับมานอน  ตื่นตี ๓ ออกเรือไปลากอวนซึ่งจะได้ปลาติดมากับอวนกลับขึ้นเรือ แล้วมานั่งปลดปลาจากอวน หากได้ปลาตัวใหญ่เช่นปลากด ปลาตะเพียน ก็จะแยกขายสดๆ ถ้าได้ปลาตัวเล็กๆปลาสมรม(หลายชนิด) ส่วนใหญ่ทำปลาแห้งปลาเค็มไว้ส่งแม่ค้าในตลาด ชีวิตเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยไป

             

   ทิวเขาข้างหน้าคือเกาะใหญ่ อ.กระแสสิน จ.สงขลา ฝั่งตรงข้ามคือแหลมจองถนน อ.เขาชัยสน และบางแก้วมีทั้งเลทั้งนาข้าว สองฟากฝั่งห่างกันประมาณ๖๐ กิโลเมตร ระดับน้ำลึก๒-๓เมตร

                   

ต้นลำพู(คู่หิ่งห้อย)สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแม่เลสาบ เท่าที่เห็นยังหนาตากว่าฝั่งสงขลา รากลำพูเป็นกำแพงตามธรรมชาติอยู่ชายฝั่งและเป็นที่หลบภัยของปลาหลายชนิด 

รากลำพูขนาดใหญ่เนื้อเนียนน้ำหนักเบา ใช้ทำไม้กวนขนม ไม้เคี่ยวน้ำตาลโตนด

กระชังเลี้ยงปลาดุก ปลากระพง เราจะเห็นมากที่เกาะยอ สงขลา เพราะต้องส่งปลาให้ร้านอาหารและโรงแรมต่าง

พัทลุงมีน้อยเพราะกิจการโรงแรมน้อยกว่า อย่างไรก็ตามการเลี้ยงปลาในกระชังก็เป็นวิธีคิดที่เอาแต่ได้ โดยไม่คำนึงถึงเรื่องที่ทำให้เกิดของเสียที่ทำให้แม่เลสาบป่วยไข้

น้านึกกับเมียกลับเข้าฝั่งตอนเจ็ดโมงเช้า ลากอวนเกือบสี่สิบหัวได้ปลาขาวตัวน้อย เช้านี้ได้ประมาณ ๒๐กิโล ขายส่งกิโลละ๒๐-๒๕บาท แม่ค้ารับไปตัดหัวทิ้งเอาขี้ปลาออกแช่น้ำแข็งขายในตลาดราคา๕๐-๖๐บาท

ชาวเลแท้หน้าตาผิวพรรณเช่นนี้ กรำแดด ลม ฝน ตลอดปีด้วยหัวใจชีวิต..ต้องสู้

แม่ศรี ขายปลาขายขนมสาคูต้นกวนส่งลูกเรียนได้เป็นครู๓คนลูก๕คน ทุกวันนี้ยังขายขนมขายผักที่ปลูกข้างบ้าน เราจัดเวทีกินดีมีสุขขึ้นที่บ้านแม่ศรี เพราะแม่เป็นที่รู้จักในนามคนขยันสู้ชีวิตอย่างชาวเล

พี่แดงกำลังซ่อมข้าวนาปรัง คนนี้ยอดฝีมือแกงส้มปลาหัวโม่งรสกลมกล่อมอย่างไรขอให้ผู้ใหญ่โสช่วยบอกคร๊าบ

หลากหลายชีวิตชาวเลที่บางแก้ว เขาชัยสนวันนี้ยังอยู่กับการแก้ปัญหาปากท้องวันต่อวัน อย่างไม่มีทางเลือกหรือโอกาสอื่นๆต่างกับชาวทะเลน้อยที่มีทางเลือกเพิ่มในการขายของหรือบริการด้านท่องเที่ยวบ้าง

แต่พบว่าสิ่งชาวเลมีไม่น้อยไปกว่าพวกเราชาวสวนพอเพียงคือ มิตรภาพและการให้ต่อเพื่อนพี่น้องร่วมสุขทุกข์ ส่วนเมนูกินดีมีสุข หน้าตารสชาติอย่างไรบ้าง ขอรอดูจากบล๊อกแจ้ว โสทร น้องต๊อก นะจ๊ะ หลับสบายด้วยหัวใจที่วางและว่างจากภาระกิจชีวิตทั่วกันค่ะ

ความเห็น

เจ้าของบ้าน และคนที่มาร่วมงานทุกคนใจดีมาก

กับข้าวด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้าน อร่อยมาก แต่หนักใจเขียนบล็อกเรื่องไหนก่อนดีหว่า

พาสาวมาลุยเหม็ดผู้ใหญ่  พี่หยอยหนุกกับคนเฒ่าๆ55555 โชว์ภาพอาหารชัดๆงามๆให้แลสักบล็อกติ

ขอบคุณมากครับ ได้ดูภาพได้อ่านตามไปด้วย ทำให้เข้าถึงชีวิตชาวเล ว่่าเขาสู้ชีวิตขนาดไหน


ชีวิตต้องสู้ครับ แต่ชาวเลที่กล่าวถึงโอกาสน้อยจริงๆครับ

ภาพสวยสื่อความหมายดีเยี่ยมพี่...อาหารก็อุดมสมบูรณ์...ดีครับได้รู้จักชีวิตชาวเล..ผมชอบปลามากๆๆพี่.:love::love:

 

อยู่ไกลทะเล พี่หยอยค่อยส่งปลาเค็มให้แล้วกันนะครับ

ชีวิตที่เรียบง่าย แต่ดูแล้วมีความสุขไปด้วย


ความสุขที่ไม่สามารถหาซื้อมาได้ด้วยเงิน

ขอบคุณพี่หยอยมากค่ะที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตของชาวเลให้ทราบ


เป็นชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนจริงๆ ใช้แรงกายเป็นหลัก


ออกไปเก็บอวนตั้งแต่ตี 3 การทำงานก็มีความเสี่ยงต่อชีวิต


แต่เมื่อได้ปลามา นำมาขายได้ราคาถูกมาก


แต่ลุงๆ ป้าๆ ทุกคน มีมิตรภาพที่ดีต่อผู้ไปเยือน ประทับใจและจะนำมาประยุกต์ใช้


กับการดำเนินชีวิตของตัวเอง สิ่งที่รับทราบและสัมผัสได้ นั่นคือความความอดทน และพึ่งพาตนเอง


เรื่องกินให้ดีเรื่องใหญ่น้องเหอ คิดถึงจ้านนิ

ภาพชัดๆ..วิถีชีวิตชาวเล...แลเห็นภาพเป็นธรรมชาติสวย...เรียบง่าย

แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปในจิตใจ...ต้องต่อสู้ดิ้นรน...ต่อสู้กับภัยธรรมชาติ

ต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงของโลก...ของสังคม..เศรษฐกิจยุคใหม่..

  เอาละ...ชีวิตไม่สิ้น..ก็ดิ้นต่อไป...

"จะปลูกทุกอย่างที่กิน จะกินทุกอย่างที่ปลูก"

หน้า