ตอนที่สอง: ตามล่าหาความจริงของเชื้อเมลิออยด์ในดินทุ่งนาที่ภาคอีสาน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ความเห็น

ขอให้มีความสุขและประสพความสำเร็จค่ะ

ขอบคุณ คุณลุงแอ๊ด ข้อมูลที่ได้อ่านมีประโยชน์โดยส่วนตัวและโดยส่วนรวมมาก ผู้ที่เพาะปลูกทำกสิกรรมทำนาจำนวนมากไม่ทราบเรื่องเหล่านี้ นอกเหนือจากผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงสื่อได้  ก็ยังเสียดายว่าผู้ให้ความสนใจเรื่องนี้ มีอยู่เพียงจำนวนหนึ่ง   ขอขอบคุณมาก เรื่องน่าสนใจและเป็นประโยชน์มากๆค่ะ เห็นความตั้งใจในการทุ่มเททำงานและเปิดเผยข้อมูลเช่นนี้ เรียนว่าขอเป็นกำลังใจให้อย่างยิ่ง การเปิดเผยข้อมูลอย่างนี้ สักวันเมื่อมีผู้สนใจได้เข้ามาอ่านโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นผู้สนใจที่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หรือไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคคิดเชื้อนี้ หรือว่ามีบุคคลใกล้ชิดป่วยก็ตาม ข้อมูลเช่นนี้นับว่าจะเป็นประโยชน์มากมายทีเดียว ขอขอบคุณอย่างยิ่ง

ขอบคุณนะครับคุณสายพิณ ถึงแม้ว่าไม่มีคนสนใจมาก แต่ความรู้มีไว้ วันหนึ่งถ้าต้องใช้ก็ค้นหาได้นะครับ

:studying: :studying: มัวแต่ยุ่งอยู่กับภารกิจส่วนตัวมากมาย  พอวันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาก็รีบเข้ามาเปิดดูบล๊อคลุงแอ้ด... แหม เกือบตกข่าวไม่ทันโลกเสียแล้ว.. เพราะตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะต้องอ่านให้ครบทุกตอน และจะรออ่านตอน สามอีกนะคะ... ของดีๆ  มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ.. จะพลาดได้อย่างไร..อิอิ...:admire2:

.................

อ่านแล้วคงได้ความรู้นะครับ น้องกายส์

ขอบคุณมากๆนะครับ สู้ๆนะครับ


ขอบคุณครับคุณรุจน์

จากที่อ่านมาทั้ง 2 บล๊อคแล้ว

การติดเชื้อเกิดจากการที่เรามีบาดแผล  และหายใจเข้าไปเท่านั้นหรือเปล่า ? 

เพราะว่าแถบอีสานหรือคนต่างจังหวัด  โดยส่วนมากนิยมดื่มน้ำฝนกัน  

การเก็บน้ำก็เก็บในตุ่มน้ำธรรมดา  มีโอกาสที่เชื้อจะปลิ้วไปอยู่ในน้ำได้

พอหลังจากหน้าฝน น้ำที่ใช้ดื่มก็จะเป็นน้ำบาดาล

ที่สูบขึ้นมาจากไต้ดิน (แหล่วอาศัยของเชื้อ)

หรือบางทีก็ดื่มน้ำจากบ่อน้ำ ซึ่งหนูคิดว่ามีความเสี่ยงมากที่จะติดเชื้อ

เพราะไม่นิยมต้มน้ำก่อนดื่มกัน

จึงอยากเรียนถามลุงแอ๊ดค่ะว่า  

การที่เราจะนำน้ำมาดื่มกินต้องป้องกันยังไงก่อน  จึงจะปลอดภัย 

ขอบคุณหล่วงหน้าและจะติดตามต่อไปค่ะ


น้ำดื่ม เช่นน้ำฝน และน้ำบาดาล ยังไม่เคยเจอเชื้อครับ ถ้าต้มก่อนสักสิบนาทีก็จะดีครับ

แล้วน้ำฝนที่ใช้ดื่มกิน และน้ำบาดาลอีกหล่ะคะ

ต้องป้องกันยังไงถึงจะปลอดภัย

หน้า