สี่สิบวันแห่งความทรงจำ
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกนะคะพี่น้อง เผลอแป๊บเดียวก็ย่างเข้าวันที่สี่สิบแล้วค่ะ สังเกตไหมคะว่าตั้งแต่ผ่านวันคล้ายวันเกิดของท่านประธานแจ้วมาเมื่อไม่กี่วันมานี้ คำว่าสี่สิบหรือหลักสี่ก็ได้ยินหนาหูขึ้น หรือแม้แต่บางท่านที่ก็ไปรออยู่แถวห้าแยกปากเกร็ดแล้ว ก็ยังกลับมาเดินเล่นแถวหลักสี่บ่อยๆก็มี เพราะหลักสี่มีอะไรที่น่าสนใจเยอะแยะน่ะสิคะ !!!
แต่มิเป็นไรค่ะ ทุกคนมีโอกาศมาถึงหลักสี่ด้วยกันทั้งนั้นค่ะ ไม่ต้องรีบไม่ต้องร้อน ช่วงที่จะผ่านหลักสี่การจราจรอาจจะติดนิดนึงนะคะ เนื่องด้วยถนนช่วงนี้มีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างจากช่วงสามแยกเกษตรนิดหน่อยค่ะ ถนนช่วงสามแยกเกษตรเป็นถนนใหญ่กว้างขวางข้างละสี่เลน รถราวิ่งผ่านไปมาได้สะดวกสบาย แยกหรือเลี้ยวต่างๆก็มีที่มีทางให้ตีวงได้อย่างสบายๆ ซ้ำจาราจรที่คุมสี่แยกไฟแดงก็ไม่ใคร่จะเข้มงวดเท่าไหร่ ใครขับรถผ่านไฟแดงก็หยวนๆกันไปด้วยเพราะจับไม่ได้ไล่ไม่ทันกับพวกที่ชอบอ้างว่า'ขับตามน้ำ' เหล่านั้น
แต่พอมาถึงหลักสี่นี่สิคะ กฏจราจรจะเข้มงวดขึ้นและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมเขี้ยวเล็บของพวกชอบทำผิดกฏหมายมากขึ้นแล้ว เห็นรถวิ่งมาไกลๆ ก็รู้ทันแล้วว่าพวกนี้เห็นไฟเหลืองไม่ได้ แทนที่จะรีรอเพื่อจอดรอไฟแดง แต่คนเหล่านี้กลับเร่งความเร็วเพื่อผ่านไฟเหลืองแล้วก็ผ่าไฟแดงในที่สุด แต่บางที่ก็หาได้ จับ ปรับ ทำโทษอะไรหรอกนะคะ ด้วยเพราะใจอ่อนหากเจอผู้ขับขี่ที่ยังไม่มีประสบการณ์บนท้องถนนเพราะยังผ่านชีวิตไม่ถึงยี่สิบพรรษา อย่างนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจค่ะ
ช่างบังเอิญเหลือเกินที่การเขียนบล๊อกวันนี้เป็นวันที่สีสิบที่เราได้กลับมาอยู่บ้านพอดี เป็นสี่สิบวันที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายค่ะ ทั้งหัวเราะ ร้องไห้ สุข ทุกข์ โศก เศร้า เคล้าน้ำตาทุกอย่างผ่านมาหมด
การตั้งใจกลับมาอยู่บ้านนอกในครั้งนี้ ก็ด้วยเพราะเราถึงจุดอิ่มตัวในการใช้ชีวิตในเมืองกรุง ดังที่เคยเขียนไปแล้วในบล๊อก 'สูงสุด คืนสู่สามัญ' แล้ว และตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาปรับปรุงพื้นที่บ้านซึ่งอยู่ติดกับบ้านคุณแม่ที่ถูกปล่อยให้รกร้างไว้นานแล้ว จึงได้เข้ามาหาข้อมูลเรื่องการปลูกต้นไม้ และการทำเกษตรแบบพอเพียงจนได้มารู้จักกับบ้านสวนพอเพียงแห่งนี้ค่ะ
ช่วงสี่สิบวันที่ผ่านมานี้ เราได้รับน้ำใจจากสมาชิกบ้านสวนฯมากมายอย่างคิดไม่ถึงค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธ์จากป้าต่าย , รางจืด และ พด1 จากคุณอ้วน และยังเมล็ดผักจคุณศิษย์ และคุณลำใย , ดอกไม้จากป้าปุก และเมล็ดทานตะวันจากคุณอวยพร และ ฯลฯ แต่ทั้งหมดทั้งปวงเราก็ยังไม่ได้ส่งการบ้านเลยสักวิชาเดียวเนื่องจากเราสอบตกทั้งหมดค่ะ พูดแล้วมันน่าเศร้านะคะ แม้กระทั่งวิชาปลุกบวบที่ใครๆบอกว่ามันปลูกง่ายหนักหนา เรายังไม่ผ่านเลยค่ะ
เคยคิดจะใช้เคล็ดของคนโบราณที่บอกว่าถ้าปลุกอะไรไม่ขึ้นเลยให้ปลูกกล้วย เพราะชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า 'กล้วย' แต่ก็อย่างที่เล่าให้ฟังในบล๊อก 'มหัศจรรย์แห่งชีวิต' หน่ะค่ะ ว่าเรื่องกล้วยๆของเรา มันมิได้กล้วยดังที่คิดเล้ยยยย
แม้กระทั่งจนวันนี้ เรากลับไปเอากล้วยที่ตรังอีกครั้ง แต่ก็ยังไมมีกล้วยน้ำว้าพันธ์ที่เราต้องการให้เราเลยค่ะ
และวันพรุ่งนี้ก็ถึงเวลาทีเราต้องกลับกรุงเทพอีกแล้ว สรุปก็คือว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างที่บ้านสวนในฝันของเราเลย ดินก็ยังแข็งเหมือนเดิม ต้นข่อยก็โค่นไปแล้ว กล้วยก็ยังไม่ได้ปลูก ผักสวนครัวก็ตายเกือบหมด และกว่าเราจะกลับมาอีกครั้งก็คงต้องกลับมานับหนึ่งใหม่อีก
ชีวิตทำไมมันเศร้าอย่างนี้ !!!
- บล็อกของ หมวยเล็ก
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 3120 ครั้ง
ความเห็น
หมวยเล็ก
11 มิถุนายน, 2011 - 16:36
Permalink
ขอน้อมรับคำชี้แนะจากพี่หยอยค่ะ
พี่หยอยขา หนูขอน้อมรับคำแะนำด้วยความยินดียิ่ง และจะปฏิบัติตามค่ะ
ก่อนที่หนูจะไขกุญแจไปหาความหมายอย่างอื่น หนูขอใขปรัชญาคำสอนจากบทกลอนของพี่หยอยก่อนนะคะ
เพราะทุกคำสนอของพี่ที่มีให้น้อง หรือครูทุกท่านที่มีให้ศิษย์ล้วนเกิดมาจากความปราถนาดีทั้งสิ้น
คำสอนของพี่หยอย มีความหมายซ่อนอยู่ในนั้นมากมาย หนูคิดว่าคงไม่เกินความสามารถที่หนูจะค้นหาความหมายระหว่างบรรทัดให้เจอค่ะ
ลุงแอ้ด
12 มิถุนายน, 2011 - 02:14
Permalink
ใจเย็นๆนะครับ
ใจเย็นๆนะครับ ถึงแม้ว่าทำแล้วลองแล้วไม่สำเร็จ แต่ถือได้ว่าได้ลองได้ทำ ความสุขมันอยู่ตรงนั้น บางครั้งได้อ่านบล็อกคนอื่นๆที่เค้าทำอะไรมากมายในขณะที่เราไม่ได้ลงมือทำเองเลย มันก็มีความสุขเหมือนกัน มันอยู่ที่ว่าความสุขของเรามันอยู่ตรงไหน คุณเพชรีโชคดีกว่าผมเยอะที่ได้ลงมือทำแล้ว ผมเองยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย อีกสิบเก้าเดือนผมก็จะลาออกจากงานที่อเมริกาแล้วจะกลับไปอยู่เมืองไทย
สู้ๆนะครับคุณเพชรี ยังมีผมอีกคนหนึ่งที่กำลังเริ่มทำเหมือนกัน ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
RUT2518
12 มิถุนายน, 2011 - 12:01
Permalink
ลองผิด ลองถูก
ผมเองก็ลองเหมือนกันครับ ถ้าไม่ลองก็ไมรู้ สู้ต่อไปครับ
หน้า