เทคนิคการปลูกผักหวานป่า

หมวดหมู่ของบล็อก: 

อยากจะแบ่งปันเทคนิกการปลูกผักหวานป่าบ้างจากประสบการณ์จริง ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าผักหวานป่าเป็นพืชที่ไม่ชอบแดดเลยก็ว่าได้ จะชอบอยู่ในร่มแบบรำไร หรือในร่มต้นไม้ใหญ่ที่สูงโปร่งไม่โดนแดดเลยก็ได้ขอให้ร่มไม้นั้นโปร่ง หลายคนที่คิดจะทำสวนหรือไร่ผักหวานป่าแล้วนำต้นกล้าไปปลูกกลางแจ้งแบบให้ได้รับแดดแบบเต็มที่เหมือนปลูกมะม่วง กระท้อน หรือพืชอื่นๆอีกหลายชนิด  ถ้าปลูกต้นฝนในระหว่างฤดูฝนต้นก็อาจจะเจริญเติบโตได้บ้าง แต่พอถึงหน้าแล้งก็จะตายหมด แต่ถ้าขยันรดน้ำก็อาจจะไม่ตาย  แต่โดยธรรมชาติแล้วต้นผักหวานในป่ามักจะเกิดตามโคนหรือใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ๆ ลองถามชาวบ้านที่เขาเก็บผักหวานป่ามาขายดูได้เลยว่าเคยเห็นต้นผักหวานป่าในป่าเกิดอยู่กลางแจ้งต้นเดียวโดดมั้ย สำหรับผมแล้วเคยเข้าป่ามาแต่เด็กกับพ่อและแม่ไปเก็บเห็ดบ้าง ไปหาฟืนบ้างเห็นต้นผักหวานในป่าก็เยอะทั้งต้นเล็กต้นใหญ่แต่ไม่เคยเห็นต้นใหนเกิดอยู่โดดกลางแจ้งเลย และนี้จึงเป็นประสบการณืที่ผมนำมาใช้ในการปลูกผักหวานที่บ้านซึ่งปัจจุบันมีต้นขนาดโคนขาผู้ใหญ่ สูง 5-6 เมตร 2 ต้น(ออกดอกออกผลแล้ว) ต้นขนาดสูง 2-3 เมคร 2ต้น และประมาณ 0.50 เมตรอีกหลายต้น ต้นใหญ่ผมต้องตัดตอนลงให้ต่ำเพราะเก็บยอดยาก  ฉะนั้นเวลาปลูกจึงควรปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่เช่นมะม่วง มะขาม เงาะ ลองกอง ฯลฯ หรือปลูกตรงชายพุ่มยิ่งดี คือให้โดนแดดได้วันละประมาณ 2 ชั่วโมง รับรองได้ผลแน่นอน  ถ้าใช้กิ่งตอน เหง้า จะโตเร็ว 3 ปีเริ่มกินยอดได้ แต่ถ้าใช้ต้นกล้าจากเมล็ดปลูกจะโตช้ามาก 6 - 7 ปี จึงจะเก็บยอดได้ ที่สำคัญอย่าเก็บยอดกินในขณะที่ต้นยังเล็กอยู่ไม่งั้นจะยิ่งโตช้าขึ้นไปอีก  ต้องปล่อยให้มันโตจนแตกกิ่งก้านก่อนจึงเริ่มเก็บชิมได้  ผักหวานป่าเมื่อต้นสูงได้ประมาณ 1 เมตรจะถือว่ารอดตาย และตายยากแล้ว คำว่าตายยากก็คือต่อให้ตัดต้นของมันไม่ให้เหลือตอเลย มันก็ยังสามารถแทงยอดใหม่จากเหง้าขึ้นมาได้ (ผมเคยเผลอไปตัดเอาตอนเดือนตุลาคม คิดว่าตายแน่นอนพอถึงเดือนเมษายนปีต่อมากลับแทงยอดใหม่ขึ้นมาจากใต้ดิน ถ้าคนเคยมีเครือหญ้านางในบริเวณบ้านแล้วใช้เสียบสับทิ้ง จะรู้ว่าหญ้านางจะไม่ตายง่ายๆ สับทิ้งก็เกิดใหม่เป็นอย่างนี้ตลอด ผักหวานป่าก็มีธรรมชาติคล้ายกันกับหญ้านาง ผมเคยไปขุดเอาเหง้าเล็กตามโคนต้นไม้ใหญ่ในป่ามาปลูก ปีต่อมาไปที่นั่นอีกก็ยังเห็นมีต้นผักหวานป่าเล็กงอกขึ้นมาใหม่


คราวหน้าผมจะเอารูปมาลงให้ดูด้วย ครั้งนี้ขอศึกษาวิธีการ insert รูปก่อน

ความเห็น

เป็นอีกหนึ่งผักที่อยากปลูก แต่ต้องรอเครียร์พื้นที่ดีก่อน ชอบและสนใจมานานแล้วเหมือนกันค่ะ แต่ยังหาที่ปลูกไม่ได้เลย

          ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามันชอบร่มๆ

ขอบคุณมากสำหรับข้อมมูลดี ๆ

จะรวบรวมเอาไว้ และจะขออนุญาตสมัครเป็นศิษย์ล่วงหน้าเลยนะคะ

:uhuhuh:   :uhuhuh: :cheer3: :cheer3:

:admire: ยินดีครับ และที่อุบลฯมีพืชชนิดหนึ่งที่ผมอยากได้เมล็ดอยู่เหมือนกันคือ "หมากยาง" รู้จักมั้ยครับ

ผมจะเล่าให้ฟังว่าที่สวนทำไงนะครับ (แบบคร่าวๆ)


1.นำเมล็ดมาเพาะกับทราย จนรากยาวประมาณ 1 นิ้ว


2. เตรียมดินด้วยการพรวนดินลึกประมาณ 20 ซม. แล้วเอาไม้ลูกชิ้นเสียบนำ นำรากหย่อนลง กลบเมล็ดหนาซัก 2-3 ซม.นำเข่งเล็กหรือซาแลนมาคลุมอีกครั้งกันสัตว์คุ้ยและก็จะได้รู้ว่าปลูกตรงไหนบ้าง


3.ปลูกพืชพี่เลี้ยงควบคู่กันไปแถวบ้านผม (บ้านหมอ สระบุรี) นิยมปลูก แค ตะขบ แล้วก็มะขามเทศ แต่ผมปลูกถั่วมะแฮะด้วย


                  ข้อดี                                       ข้อเสีย


แค             โตไว                                   หนอนเยอะ


ตะขบ           โตไว                                  จะมีต้นเกิดตามไหล


มะขามเทศ     (เค้าว่ากันว่า) ใบเป็นปุ๋ย                โตช้า, หนามเยอะ


ถั่วมะแฮะ      น่าจะช่วยเรื่องดิน เพราะเป็นตระกูลถั่ว   หนอนเยอะ อายุสั้น 1-2 ปี


เขาเลยปลูกแบบนี้ครับ ปลูกแคหรือตะขบระหว่างต้นผักหวาน แล้วปลูกมะขามเทศทุก ๆ 6 เมตร


พอมะขามเมศเริ่มให้ร่มเงา ก็ทยอยตัดแคหรือตะขบออก


**ไม่นิยมเอาผักหวานที่ปลูกลงถุงแล้วมีใบซัก 2 คู่เพราะ รากผักหวานจะขดอยู่ก้นถุง เวลานำไปปลูกจะโตช้าหรือไม่รอด(อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)**


วันหลังจะถ่ายรูปสวนมาให้ดูครับ ตอนนี้แม่ทำอยู่ประมาณ 3 ไร่

สวนจินตนาการ

นำจินตนาการ มาผสานให้เป็นจริง

ไม้ปราบเซียน บ้างคนต้องถอดใจ เลิกปลูก ถ้าไม่มีเวลาดุแล ทำยาก ปีนี้ได้เมล็ดมาประมาณ 50 เมล็ด ไม่รู้จะรอดซักกี่ต้น 


  ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ทดลองดูนะครับ  ใช้เทคนิคของคุณ สร (พิมพ์ข้อความ "เทคนิคการปลูกผักหวานป่าให้โตเร็ว" ลงในช่อง"ค้นหาในเวบนี้") ที่ทดลองแล้วได้ผลมาใช้ดูด้วย  คิดว่าต่อไปการปลูกผักหวานป่าคงไม่ใช่เรื่องยากแล้ว

หน้า