พี่แหม่มอยากจะบอกว่ารถยนต์ของพี่ที่ทำให้ลอยน้ำไว้น่ะ ติดเครื่องได้เป็นปกติแล้วไม่ได้รับความเสียหายคะ!

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ภาพนี้พี่เพิ่งได้ถ่ายเมื่อวานนี้ น้ำที่โรงรถลดลงมาได้7วันแล้ว พี่แหม่มเปิดฝากระโปรงรถขึ้นมาห้องเครื่องก็ยังแลสะอาดเหมือนเดิม พี่ตรวจเช็คระบบไฟทั้งหมดแล้วเห็นว่าปกติไม่มีอะไรเปียกชื้น ก็เลยลองสตาร์ทรถดู okนะคะเป็นปกติเหมือนเดิม แต่ก่อนที่พี่จะติดเครื่องยนต์ พี่แหม่มได้เปิดประตูรถหมดทั้ง5ประตูและได้เช็ดภายในทำความสะอาดเบาะ และทุกๆส่วนหมดแล้ว โชคดีไม่มีเชื้อราค่ะ รถจอดแบบนี้มา1เดือนเต็มๆโชคดีมากเลยที่แบตเตอรี่ยังมีไฟอยู่ พี่ก็เลยต้องติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้เพื่อให้แบตสะสมไฟ ทั้งระบบแอร์และเครื่องเสียงเป็นปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง พี่เปิดแอร์เพื่อไล่อากาศคือเปิดแต่พัดลมแอร์ก่อนโดยที่ยังไม่กดปุ่มคอมเพรสเซอร์ พร้อมทั้งเปิดประตูทั้ง5บานทิ้งไว้ด้วย หลังจากนั้นก็เปิดคอมเพรสเซอร์เพื่อให้น้ำยาแอร์ทำงานโดยที่ประตูทั้ง5บานยังเปิดอยู่เพราะว่าพี่ไม่แน่ใจว่าในรถของเราจะมีเชื้ออะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่แล้วนำมือไปอังที่ช่องแอร์ปรากฏว่าแอร์เย็นเป็นปกติ แล้วก็ตรวจเช็คดูที่พรมทุกๆมุมไม่มีน้ำซึมเข้า เป็นอันว่าภายในยังปกติเหมือนเดิม แต่พี่แหม่มก้มลงไปดูที่ใต้ท้องรถ...ปรากฏว่าหัวน็อตช่วงล่างบางจุดเป็นสนิมบ้างและคราบสกปรกติดอยู่ที่ใต้ถังใส่น้ำมันเครื่อง...งานเข้าแล้วเรา พี่แหม่มต้องรอให้น้ำบนถนนแห้งให้หมดก่อนถึงจะใช้แม่แรงยกรถไว้เพื่อนำเอากระสอบทรายออกทั้ง4ล้อก่อน และยังมีเรื่องระบบเบรคทั้ง4ล้ออีก ล้อถูกแช่น้ำถึงครึ่งล้อเป็นเวลา1เดือนสงสัยเบรคติดแน่ๆเลยไม่อยากเดา ตอนนี้พี่แหม่มยังไม่ขอความช่วยเหลือค่ะ ขอใช้ปัญญาตัวเองไปก่อนเอาไว้พี่นำรถออกจากบ้านไม่ได้จริงๆแล้วจะมาขอความช่วยเหลือค่ะ แต่ที่แน่ๆเข้าศูนย์คราวนี้ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์เพาเวอร์ น้ำมันเบรค ต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย ดิสเบรคหน้าแช่น้ำเสียหายอย่างแน่นอน และเบรคหลังอีก จานเบรคเป็นสนิมหมดเลยต้องเจียร์จานใหม่แน่นอนเลย โดนถอดล้อแบบนี้ก็หนีไม่พ้นค่าตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ เชื่อไหมคะ?พี่แหม่มถอยป้ายแดงออกมาได้32เดือนนี้รถถูกใช้งานไปแค่1หมื่น8พัน(18000)กิโลเมตรเองค่ะ นานๆจะวิ่งทางไกลสักครั้ง ไม่เคยมีอุบัตติเหตุ ไม่มีรอยเฉี่ยวชน เสียใจตรงมาโดนลอยน้ำนี่แหล่ะค่ะ พี่แหม่มขับรถเป็นตั้งแต่อายุ16ปี พออายุ17ปีก็ไปสอบทำใบขับขี่ ขับรถทุกวันเหมือนเป็นบ้านที่2ของพี่ จนตอนนี้อายุ50ปีแล้ว ก็เลยทำให้เรารู้ใจของรถดี และจะต้องดูแลเขาอย่างไร จะขับอย่างไรเขาถึงจะอยู่กับเราได้นาน รถยนต์คันนี้เป็นคันที่2ที่พี่แหม่มซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของพี่เอง ที่พี่เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าพี่จะอวดตัวว่าเก่งหรอกนะ แต่อยากจะให้เป็นข้อคิดแก่น้องๆ และเพื่อนๆทุกคนโดยเฉพาะเพื่อนหญิงด้วยกันว่า ถึงโลกใบนี้จะไม่มีผู้ชายพวกเราก็ต้องอยู่ให้ได้ พวกเราก็จะต้องหัดพึ่งตนเอง ถ้าเรารู้จักเรียนรู้....

ภาพนี้คือตอนที่ลอยน้ำอยู่คะ น้ำสูงประมาณ70ซม.

ภาพนี้น้ำเริ่มลงแล้ว

พอน้ำเริ่มลดลงลูกทุ่นที่พี่ทำก็เริ่มดีดตัวออกจากใต้ท้องรถแล้ว เพราะว่าแรงดันน้อยลง

ความเห็น

พี่แหม่ม ไอเดียเป็นเลิศ :good-job: :good-job:

ต้นไม้พืชผักของพี่แหม่มตายหมดเลยค่ะ :crying2: :desperate: ตอนนี้ไม่มีแรงปลูกเลย...เป็นไข้ทุกวัน ลูกบอกว่าพี่เป็นโรคไข้ใจตรอมใจเพราะว่าสวนฝันพังทลาย :nonono: :desperate:

กินอยู่อย่างพอเพียง ไม่ขี้อิจฉา ชอบสันโดษ รักธรรมชาติ

พี่แหม่มคะ ดีจังที่รถไม่เป็นรา เป็นหลาย ๆ คันที่เค้าห่อไว้เป็นราหมดยังนึกถึงรถพี่เลยคะ  เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนเห็นบล็อกต้นไม้ที่จากไปของพี่ เสียดายจัง ช่วงนั้นเข้ามาอ่าน แว๊ป ไม่มีเวลาคอมเม้นท์  แต่เชื่อนะคะว่า ไม่นานทุกสิ่งทุกอย่างพี่แหม่มต้องนำมันกลับมาใหม่ และต้องดีกว่าเดิมด้วย


ดีใจที่การต่อสู้ฝ่าฟันกับน้ำ วันนี้น้ำลดลงแล้ว แต่ยังมีหลายสิ่งให้เราทำอีก บ้านใครน้ำไม่ท่วมไม่รู้หรอกนะคะ ว่าลำบากขนาดไหน  ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนคะ

พี่ดีใจที่คุณยังนึกถึงพี่เสมอ พี่เข้าไปอ่านบล็อกของคุณแล้ว อดปลื้มใจแทนไม่ได้ที่คุณ2คนตายายสามัคคีรักกันกลมเกลียวเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไม่ทิ้งกัน พี่แหม่มขอแสดงความชื่นชมค่ะ :admire: :admire2: :good-job: :good-job:

กินอยู่อย่างพอเพียง ไม่ขี้อิจฉา ชอบสันโดษ รักธรรมชาติ

หน้า