เขาเจ็ดยอด กล่าวถึงลุงพี

หมวดหมู่ของบล็อก: 

    ผมดีใจมากที่รู้ว่าลุงพีได้มาร่วมทางขึ้นเขาเจ็ดยอด ส่วนตัวแล้วคิดว่าลุงพีคงสบายมากสำหรับทริปนี้ เพราะตั้งแต่ออกเดินทางผมเห็นว่า ลุงพีสบายๆ ทิ้งห่างกับพวกผมไม่มากนัก

ลุงพีตอนเริ่มออกเดินทาง

ลุงพีตอนเดินทรงตัวบนขอนไม้

   จะเห็นว่ารูปนี้ลุงพีไม่มีเป้สะพายด้านหลังแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าลุงพีให้น้องที่นำทางช่วยสะพายเป้ตั้งแต่จุดนี้หรือเปล่า ลุงพีมีเป้และของอื่นพะรุงพะรุงไปหมด ผมเลยอาสาเอาถุงนอนของลุงพีมามัดกับเป้ผม ลุงพีสะพายเป้ และหอบหิ้วของมาก็ถือว่าเป็นระยะทางไกลพอสมควร พอผมมีโอกาสได้ลองยกเป้ของลุงพี "โอ้ลุงสะพายมาได้ไงเนี่ย" เป้ลุงพีหนักกว่าของผมเยอะมาก ก็ไม่แปลกใจเลยที่ลุงพีจำเป็นต้องยกภาระแยกเป้ให้กับน้องทีมนำทาง เพราะเป้ลุงพีหนักมาก

   ถึงแม้ว่าขากลับลุงพีจะไม่ได้แบกเป้เอง แต่การเดินทางกลับมาถึงตอนสามทุ่มก็ไม่ธรรมดา "Oh My Rod"

ความเห็น

ลุงพีเก่งมากค่ะ

  ขาขึ้นพี่หยอยพลังกายใจเต็มเปี่ยม เฝ้าสังเกตพี่น้องทุกๆคนในขบวน น้องโสพลาดทำรังวัดบ่อยนะ555 น้องจานิ่งแน่วแน่มาก ลุงเสริฐดูคล่องมาดฐานนิ น้องอ๊อดสาวท้าวยาวตัวปลิว น้องต๊อกไม่กระโตกกระตากเรย ฮิๆๆ น้องศักดิ์แน่วแน่เดินลิ่ว  แต่ไม่เคยเห็นลุงพีลื่นล้ม มีแต่หยุดพิจารณาเป็นพักๆใหญ่ๆ ขาชึ้นที่เราผ่านป่าดิบและดงทาก ผ่านสายน้ำสามแพรกขึ้นไป มาหยุดพักตรงลานก้อนหินใหญ่ที่ยื่นออกไปคล้ายหน้าผา มองลงไปข้างล่างพาให้หวาดเสียวถึงความสูง(หลายคนเก็บภาพไว้เพราะมุมสวย5555แต่ถ้าลื่นหล่นลงไปละก้อ ตามเก็บไม่ได้แน่ๆ) มองขึ้นฟ้าไม่เห็นฟ้ายังปกคลุมไปด้วยแมกไม้ เห็นมะหาสะดำปกแผ่เป็นกลุ่มๆ ช่วงนี้เข้าใจว่าพี่หยอยจัดการให้น้องพรานรับแบกสัมภาระของลุงพีแล้ว เพราะเห็นลุงพีเริ่มหยุดพิจารณานานๆๆ ก่อนย่างก้าว


  โค้งสุดท้ายขาขึ้นพี่หยอยไล่น้องศักดิ์และอ๊อดไม่ทันเสียแล้ว แต่นึกในใจว่าน้องๆคงถึงยอดเขากันแล้ว ฝนตกหนักจึงพักหลบฝนอยู่ใต้ชะง่อนหิน ฝนซาลุงพีตามมา จึงออกเดินขึ้นไปพร้อมๆกัน มองเห็นฟ้าสว่างรำไรอยู่ตรงหน้า "ผ่านเขาลูกนี้ อีกฮึดใจเราก็ถึงยอดเขาแล้วค่ะลุงพี" และแล้วเราก็มุดพงไม้หนาทึบออกสู่ทุ่งกว้างคล้ายประตูทะลุมิติ


  พี่หยอยและลุงพี ต่างเงียบปลดเป้ลงนั่งพักเอนหลังลงกับพื้นหญ้าสูดหายใจลึกเต็มปอด นิ่งนาน  จากนั้นเดินตามเส้นทางวนเวียนสู่หุบเพิงพัก มุดป่าไผ่เตี้ยบ้าง ดงกระจูดหนูสลับมังเรบ้าง ที่เห็นตลอดทางคือหม้อข้าวหม้อแกลิง และบัวแฉก โดนหนามหวายขีดข่วนบ้าง ถึงที่พักรีบจัดแจงอาหารทันที หิววววววมากๆๆๆๆๆ    


  

ผมมันคน หลาวๆ นิพี่หยอย :uhuhuh:

และแล้วเราก็มุดพงไม้หนาทึบออกสู่ทุ่งกว้างคล้ายประตูทะลุมิติ พี่หยอยและลุงพี ต่างเงียบปลดเป้ลงนั่งพักเอนหลังลงกับพื้นหญ้าสูดหายใจลึกเต็มปอด นิ่งนาน

"ป้าหยอยรู้อดีตชาติของตนเองหรือยังครับ" เป็นคำถามของผม ที่รู้สึกเหมือนตัวเองผุดออกมาจากภวังค์

"หยอยไม่อยากรู้" คือคำตอบ

จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆเพียงครั้งเดียวที่ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับป้าหยอยตลอดการเดินทางทริปนี้ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังที่พัก


พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

ลุงพีมีสมาธิในการเดินค่ะ Laughing


เดินข้ามสะพานไม้เปียกๆ และคิดว่าน่าจะลื่นได้ดีเลยค่ะ


การทรงตัวดีมาก และลุงพีกับผู้ร่วมทริปทุกคน มีพลังกาย พลังใจที่อึดกันทุกคนเลยค่ะ


สุดยอดจริงๆ สำหรับทริปนี้

ชื่นชมลุงพีมากค่ะ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

ขอคารวะด้วย.........ไวท์ท้อแท้ 1 จอก      :cute:

ถ้าพี่ไปด้วยสงสัยไม่ทิ้งเฉพาะเป้แน่ ๆ:sweating:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

นี่ดีนะว่า..เราไม่ไปอีกคน..555..ทริปชราทัวร์คงสนุกแน่ ต้องหิ้วปีกคนแก่..ก่อนไปผมก็เชื่อมั่นอยู่แล้วว่าลุงพีแกผ่านตลอด555

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

จริงครับ ถ้าเฮียตั้มมาด้วยพวกเราคงไม่มีแรงเดินถึงยอดเขากันแน่ๆ

(หัวเราะจนหมดแรง)

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

หน้า