***คิดถึง สมาชิกทุกท่านค่ะ***

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ไม่ได้เข้ามาอัพบล็อคบ้านสวนนานมากๆ แต่ก็แว้บๆมาดูเรื่องราวต่างๆบ่อยๆ

หลายท่านอาจลืมกันไปบ้างแล้ว   

เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่ไม่สามารถอัพบล็อคได้ บางครั้งก็อัพรูปไม่ได้ บ้างครั้งก็เน็ตล่ม 

แต่ก็ยังคิดถึงเพื่อนๆสมาชิกทุกๆคนค่ะ

หายหน้าหายตาไปหลักๆเพราะมั่งมั่นทำนาอินทรีย์ค่ะเลยอยากนำประสบการณ์

การทำนาอินทรีย์มาแชร์เพื่อนๆ

สวีทพี...เริ่มทำนาด้วยตัวเองมา 2-3 ปีแล้วค่ะ ก่อนหน้านั้นคุณพ่อ-คุณแม่เป็นคนจัดการแทบทุกเรื่อง

หน้าที่คือต้องการงบประมาณเท่าไหร่คะ มีหน้าที่จ่าย  ผลผลิตที่ได้หักค่าลงทุนกำไรน้อยมาก

ปีนี้เลยคิดใหม่ทำใหม่  ...

ด้วยข้อจำกัดคือสวีทพีรับราชการไม่มีเวลาที่จะทำนาอย่างเต็มเวลาได้

การทำนาหว่าน..จึงแก้ปัญหาตรงนี้ได้  ถึงแม้ว่าการทำนาปักดำจะได้ผลผลิตมากกว่า

จึงลงทุนในการไถหว่านไร่ละ 500 บาทเป็นอันเสร็จ

พอข้าวงอกสูงประมาณ 1 ฝ่ามือ คุณพ่อ-คุณแม่จะให้ใช้ปุ๋ยยูเรียเพื่อเร่งการเจริญเิตโบของต้นข้าว

ปีนี้ใจแข็งปฏิเสธปุ๋ยเคมีทุกชนิด ใช้น้ำหมักที่หมักไว้เป็นปีๆ+ขี้หมูพ่น

พอข้าวตั้งท้องคุณพ่อ-คุณแม่ให้ใช้ปุ๋ยหมาก(เคมีสูตร 15-15-15)

ปฏิเสธเช่นเคย  ...พอข้าวออกรวงสวีทพีใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดพ่น

 

พอถึงเวลาเก็บเกี่ยวต้องลาพักผ่อน 1 อาทิตย์เพื่่อเก็บเกี่ยวให้ทันท่วงที

เพราะข้าวปล่อยไว้นานจะกรอบ(ขอบ-ภาษาอิสาน)ข้าวจะเม็ดหักขายไม่ได้ราคา

คุ้มค่าเหนื่อย(ตลอดการทำนาไม่ค่อยมีเวลาดูแลเท่าไหร่)หรือเป็นเพราะบุญข้าวบุญน้ำ

ข้าวได้ผลผลิตมากเป็น 2 เท่าตัว เฉลี่ย 20 กระสอบต่อไร่ จาก 10 กระสอบต่อไร่

ชาวบ้านในชุมชนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าข้าวที่นี่งามกว่าทุกๆคนในชุมชนนี้

ในโอกาสนี้เลยอธิบายถึงการเกษตรอินทรีย์นี้ดีอย่างไร ต้นทุนต่ำ กำไรสูง

หลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จก็ทำการปรุงที่นา คือ โรยปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน

โรยปุ๋ยคอก(ขี้หมู) ต่อด้วยแกลบสด ตามด้วยน้ำหมักชีวภาพ

ไถกลบฟางข้าว   ปลูกแตงโมต่อเพื่อเป็นพืชคลุมดิน

...สรุป  การทำนาอินทรีย์นี้ดีหนักหนา   ใครๆก็ว่าทำนาไม่มีรวย ถ้ายังติดกับความคิดที่ว่า

ปุ๋ยเคมีช่วยให้ข้าวงาม(ซึ้งจำได้ว่าประมาณ 30 ปีที่แล้วชาวนาเริ่มรู้จักปุ๋ยเคมีและใช้กันแพร่หลาย

ประเภทที่ว่าไม่มีปุ๋ยเคมีแล้วข้าวไม่งาม ผลผลิตตกต่ำ) ชาวนาก็จะทำนาใช้หนี้ปุ๋ยเคมีอยู่เรื่อยไป

...ปีหน้าอาจมีจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในชุมชนบ้างเพราะเห็นชาวบ้านหลายคนมาดูงานตอนที่เราปรุงที่นา

และหลายๆคนปลูกแตงโมปลอดสารฯไว้กินเอง (ปีกลายนี้ทำเป็นตัวอย่างและแจกจ่ายชาวบ้านด้วย)

***Sweet_pea***

 

ความเห็น

คนที่มีที่นา แล้วได้ทำนา โดยเฉพาะนาอินทรีย์ เป็นอะไรที่น่าอิจฉามากๆเลยค่ะ มีข้าวไว้กิน มีไว้แจก ที่เหลือก็ขาย ใครว่าชาวนาจน ความจริงชาวนาเป็นคนรวยและก็น้ำใจงดงามมากๆค่ะWink

สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี

Angel  ขอบใจจ้ามะโหน่ง อิอิ

***Sweet pea***

ข้าวงามดีจังเลยน้องณี ข้าวของพี่ล้มหมดเลย ฝนตกจำน้ำ เมล็ดข้าวดำหมด 

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

ณี หวุดหวิดเก็บไม่ทันค่ะ   เสร็จปุ๊บฝนตกปั๊บเลย เป้นโชคดีของณีเหมือนกันค่ะพี่

***Sweet pea***

ทุกวันนี้ยังเสียดายที่มีที่นา แต่ไม่ได้เอามาใช้ทำประโยชน์อะไรเลย ปล่อยว่างเปล่า เพราะน้ำท้วม และก็ย้ายมาอยู่ต่างประเทศแบบนี้ ปีนึง กลับบ้านครั้งเดียว คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงภาพเก่าๆที่เคยใช้ชีวิตตามประสาคนต่าง จว. ดูแล้วก็มีความสุขไปอีกรูปแบบนึง

ทุกวันนี้ยังเสียดายที่มีที่นา แต่ไม่ได้เอามาใช้ทำประโยชน์อะไรเลย ปล่อยว่างเปล่า เพราะน้ำท้วม และก็ย้ายมาอยู่ต่างประเทศแบบนี้ ปีนึง กลับบ้านครั้งเดียว คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงภาพเก่าๆที่เคยใช้ชีวิตตามประสาคนต่าง จว. ดูแล้วก็มีความสุขไปอีกรูปแบบนึง

ให้คนเช่าก็ได้ค่ะ แบ่งข้าวกันหรือเหมาเป็นเงินเลย ที่บ้านคุณครูมีที่นา 10 ไร่ ให้คนเช่าแบบกันเองปีละ 15000 

***Sweet pea***

ดีใจจังมีชาวนาเกษตรอินทรีย์เพิ่มอีกคนแล้ว สาธุๆๆๆ ขอให้ประสบณ์ความสำเร็จแบบนี้ทุกๆ ปีนะคะ คิดถึงอยู่คะ การบ้านที่ให้มายังปลูกอยู่เรื่องๆ แต่ไม่ค่อยได้ผลเพราะแมลงเต่าทองลงเยอะ และไม่ค่อยมีเวลาดูแลอย่างจริงจัง ปีหน้าคงจะดีขึ้น แต่อยากเห็นไร่แตงโมจัง

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

คิดถึงป้าต่ายเหมือนกันค่ะ มะม่วงสีแดงที่ป้าต่ายให้มาโตวันโตคืนสูงท้วมหัวแล้วหละค่ะ อีก 3-4 ปีคาดว่าน่าจะได้กินลูก

ส่วนไร่แตงโมปลอดสารฯ (ปลอดจริงๆเพราะหยอดเม็ดลงดินก็ไม่ต้องทำอะไรกับเขาเลยก็ได้กิน)ตอนนี้ออก 3 ใบแล้ว

ไว้จะถ่ายรูปมาลงเป็นระยะๆนะคะBye

***Sweet pea***

พี่ณีเก่งมากๆ เลยค่ะ ต่อไปชาวบ้านคงทำนาแบบเกษตรอินทรีย์เหมือนพี่ณี


ต้นทุนต่ำลง ได้ผลผลิตเยอะมากขึ้น Laughing

หน้า