ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง การเงินไม่คล่องตัว ของแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่รายได้ไม่สัมพันธ์กัน หนี้สินรุงรัง จะทำอย่างไรดี การขอสินเชื่อจากบริษัทสินเชื่อนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเข้ามาช่วยให้คุณสามารถนำเงินไปใช้ในการจัดการปัญหาทางการเงินหรือนำไปใช้ในการซื้อสินทรัพย์ต่างๆ ได้ตามต้องการ การขอสินเชื่อส่วนนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน นั่นคือการขอสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้านและคอนโด และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งการขอสินเชื่อแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันออกไป รวมถึงรายละเอียดและข้อสัญญาของแต่ละบริษัทสินเชื่ออีกด้วย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักความแตกต่างของการขอสินเชื่อแต่ละประเภทกัน
สินเชื่อรถยนต์
ต้องบอกว่าตอนนี้สินเชื่อรถยนต์นั้นเป็นหนึ่งสินเชื่อที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถ เพราะนอกจากจะสามารถขอสินเชื่อเพื่อนำเงินมาใช้ได้ก่อนและยังสามารถใช้รถได้ตามปกติแล้วนั้น บริษัทสินเชื่อบางแห่งก็มาพร้อมกับข้อสัญญาที่ว่าไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนอีกด้วย ซึ่งการขอสินเชื่อรถยนต์นั้น ทางบริษัทสินเชื่อก็มักที่จะพิจารณาลูกค้าหรือผู้ขอสินเชื่อที่มีเครดิตดี ไม่มีประวัติการชำระหนี้ล่าช้าหรือค้างชำระ เพื่อเป็นหลักประกันว่าสามารถชำระค่างวดรถได้ตามกำหนด โดยเฉลี่ยแล้วจะมีการกำหนดระยะเวลากู้เอาไว้ประมาณ 12-72 เดือน และมีรายได้สม่ำเสมออย่างน้อย 3 เท่าของเงินค่างวดที่จะต้องจ่ายในแต่ละเดือน
สินเชื่อบ้านและคอนโด
สำหรับบ้านและคอนโดที่ถือเป็นสินทรัพย์ราคาสูง และมีการผ่อนอย่างยาวนาน โดยมากแล้วบริษัทสินเชื่อมักจะให้กู้ล้านละ 7,000 เป็นอย่างต่ำ และควรที่จะต้องมีความสามารถในการชำระเงินและมีสภาพคล่องทางการเงิน อย่างน้อยควรที่จะมีการจ่ายผ่อนไม่เกินเดือนละ 30-40% ของเงินเดือน ซึ่งการขอสินเชื่อนั้นจะต้องมีการคำนวณถึงภาระทางการเงินให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและภาระทางการเงินในอนาคต
สินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อตัวสุดท้ายอย่างสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นจะเป็นการขอสินเชื่อเพื่อนำเงินก้อนไปใช้จ่ายตามที่ต้องการ ส่วนใหญ่แล้วมักนำไปลงทุนในธุรกิจ และจะมีวงเงินประมาณ 5 เท่าของเงินเดือน และถ้าหากใครที่กำลังทำธุรกิจหรือมีแผนธุรกิจแล้ว การยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคลพร้อมกับแผนธุรกิจให้กับบริษัทสินเชื่อนั้นก็มักที่จะได้รับการอนุมัติเพิ่มมากขึ้น
หวังว่านี่จะเป็นข้อมูลดีๆ ที่จะช่วยให้คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินเชื่อแต่ละประเภทได้มากขึ้น รวมไปถึงการเลือกประเภทการขอสินเชื่อให้เหมาะสมกับตัวเองและสิ่งที่ต้องการมากที่สุด ทั้งนี้ ก่อนการขอสินเชื่อในเรื่องใดๆ ก็ตาม อย่าลืมที่จะพิจารณาสภาพคล่องทางการเงินเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางการเงินตามมาภายหลังได้