ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงสามัญประจำบ้านของคนทั่วโลก ทั้งน่ารัก น่ากอด เป็นมิตร แล้วบางครั้งก็ยังรับหน้าที่เป็นยามช่วยเราเฝ้าบ้านได้อีกต่างหาก จึงไม่แปลกเลยที่หลายคนเห็นเจ้าสัตว์สี่ขาขนปุยสายพันธุ์นี้ทีไร จะอดเข้าไปลูบ ไปจับ ไปเล่นด้วยไม่ได้ทุกที แต่ก็น่าเสียดายที่บางคนต้องอดใจไว้ เพราะมีอุปสรรคสำคัญอย่างการแพ้ขนสุนัขและคันจนทนไม่ไหว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสาเหตุของคนที่แพ้ขนสุนัขจนทำให้เกิดอาการคันไปทั้งตัว และเทคนิครับมือที่ถูกหลักสำหรับคนที่อยากหายขาดกัน
แพ้ขนสุนัขจนมีอาการคัน เกิดจากอะไร?
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าอาการแพ้ขนสัตว์เลี้ยงทุกชนิด มีสาเหตุมาจากขนของสัตว์เลี้ยง แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการแพ้ขนสุนัขเกิดมาจากสารก่อภูมิแพ้ซึ่งเป็นโปรตีน Can F1 และ Can F2 ที่อยู่ในน้ำลายของสุนัข มีขนาดเล็กกว่า 10-20 ไมครอน ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ด้วยพฤติกรรมชอบเลียตัวเองอยู่บ่อย ๆ ของสุนัข จึงทำให้มีน้ำลายซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้เคลือบอยู่บนขน รวมทั้งฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ เมื่อคนที่แพ้สารชนิดนี้ไปสัมผัสหรือสูดละอองสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในลมหายใจ จึงทำให้ร่างกายแสดงอาการแพ้ด้วยอาการคัน ตาแดง หรือระคายเคืองบริเวณผิวหนังออกมา
อาการแพ้ขนสุนัข นอกจากคันแล้วมีอะไรอีก?
หลังจากคนที่แพ้ได้สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้บนขนสัตว์แล้ว ร่างกายจะเร่งการผลิตฮีสตามีนที่ทำให้เกิดอาการแพ้ออกมา บางคนอาจเป็นในทันทีที่สัมผัส แต่บางคนก็มีอาจมีอาการแพ้ในเวลาต่อมา นอกจากจะคันหรือระคายเคืองผิวหนังแล้ว มักมีอาการต่อไปนี้
-
บริเวณโพรงจมูกและรอบดวงตามีอาการคันหรือบวม
-
มีผื่นขึ้น
-
ไอ จาม น้ำมูกไหล
-
แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก
-
ใต้ตาบวม ตาแดง น้ำตาไหล
ในกลุ่มผู้ที่มีความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดนี้ อาจมีความรุนแรงถึงขั้นเป็นลมพิษ หอบ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างทันท่วงที
วิธีรับมือเมื่อแพ้ขนสุนัขจนคันไปทั้งตัว!
หากสัมผัสสุนัขแล้วเกิดอาการแพ้ สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาต้านฮีสตามีนทั้งแบบพ่นเข้าจมูกและเข้าปาก ช่วยป้องกันอาการกำเริบ และถ้าหากมีเหตุจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับสัตว์ สามารถใช้วิธีภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งเป็นการฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกายทีละน้อยเพื่อสร้างภูมิต้านทาน และวิธีนี้ทำให้มีโอกาสหายขาดได้อีกด้วย