เพลงนี้เพื่อเธอ ...

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ก็เธอนั่นแหละ 55555 

 

ช่วงนี้ยุ่งกับชีวิตมากพอมควร ส่วนตัวแล้วก็ หน้าที่การงาน

มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย ซะเหลือเกิน มากมายจนเกินจะ .... ( ไรดี )

เล่าให้ฟังเรื่องงาน ( เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ฮา )

...

สามปีต่อมา ไวเหมือนโกหก

...

เชื่อเปล่าว่า ผมเปลี่ยนที่ทำงานประมาณสิบที่ 

แต่กับบริษัทปัจจุบัน 5 ปีกว่าแล้ว วันแรกที่เข้าไปสัมภาษณ์งาน กับ วันแรกที่เริ่มงาน

วันแรกที่เข้าไปสัมภาษณ์งาน "บริษัทดูดีมากเลย"

 

วันแรกที่ได้เริ่มงาน ( หลังจาก สัมภาษณ์ ไ้ด้ อาทิตย์นึง )

"ทำไมมันมั่วไ้ด้ ขนาดนี้ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น ..... นึกถึงบริษัทที่ลาออกมา "

แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม

 

สามปีก่อนหน้านั้น ผมเปลี่ยนงานบ่อยมาก

"ไม่น่าสนใจ" "งานน่าเบื่อ" "ผู้บริหารไม่เก่ง"  "บริษัทนี้น่าสนใจ" "อยากทำงานบริเวณนี้ ( สาทร สีลม .... อโศก สุขุมวิท )" 

ไม่มีอะไรดีขึ้น ... มากมาย อย่างคาด เปลี่ยนงานได้เงินมากขึ้น เจอคนมากขึ้น  ( ลิสต์ในเอ็มมากกว่า สองร้อย ออนพร้อมกันเป็นร้อย ) ก็แค่นั้น

กับบริษัทใหม่ ผมเลย เอาน่า ...  บริษัทก่อนหน้่านี้สูงสุด ( ที่แรกด้วย ) อยู่ สองปีบริษัทนี้ต้องอยู่ให้ได้ เกินสองปี ....
ปัญหาทุกอย่างมีทางออก เราต้องอยู่ให้ได้ให้เกินสองปี เป็นอย่างต่ำ ( ค่อยลาออก )

ช่วงหลังจากนั้นก็โดน เพื่อนๆ พี่น้องๆ สบประมาทต่างๆ นานา ว่าคอยดูเหอะ ผมจะต้องอยู่ที่นี่ ออกที่นี่คนสุดท้าย แน่ๆ

ผมก็ไม่มีทาง ยังไงก็ไม่อยู่เป็นคนสุดท้ายแน่ๆ ( ด้วยเหตุผลบางอย่าง ) ผมคิดว่าการลาออก เปลี่ยนงาน บางทีก็ไม่ได้ทำให้อะไรๆ ดีขึ้น ถ้าตัวงานมันไม่น่าสนใจจริงๆ บริษัทไ ม่ได้ต่างกันมาก ครับมันเป็นข้ออ้างอย่างนึงสำหรับคนขี้เกียจๆ อย่างผมแม้ว่าเงินเดินก็ยังไม่พอเพียงเสียเท่าไหร่

เจอเพื่อนเก่าๆ ( ยังคบกันดีอยู่ ) "คำถามแรกๆ เฮ้ยยังอยู่เหรอ ลาออกเหอะ ดูเอาเถิดเพื่อนผู้หวังดี ...."
กระทั่งเมื่อวาน เพื่อนรุ่นเดียวกัน ... ที่เจอกันทุกเช้า วันทำงาน กินข้าวกลางวันด้วยกันทุกมื้อ เลิกงานกลับพร้อมๆ กัน ลาออกไป ผมเป็นคนสุดท้าย แล้วจริงๆ มันเป็นอย่างนั้นแล้วจริงๆ 

 

**********************************************

เข้าเรื่อง  ( ข้างบนน้ำทั้งน้านนน ) เนื้อๆอยู่ข่างล่าง ฮาอีก

*********************************************

 

เมื่อวานออกจากที่ทำงาน เกือบๆ 6 ทุ่มรอเพื่อนเคลียร์งาน ทำนั่นทำนี่  ก็หลายๆอย่างผมต้องรับช่วงต่อ 

ระหว่างรอว่าจะเศร้านะ ..ว่าจะทำอารมณ์มิวสิกเสียหน่อย  แต่พอเข้าบ้านสวน ........ อะไรๆ มันก็เปลี่ยน ไปให้ตายเหอะ ลืมเศร้าไปเลย 
พอมาตอนเช้า ... ไม่เศร้าก็ไม่ได้ล่ะ เพื่อนไม่อยู่แล้ว

 

ปกติเวลาจะนินทาเจ้านาย หรือ อื่นๆ จะส่งข้อความ ทาง gtalks ( เหมือน MSN ) มองหน้ากันยึ้มๆ หน่อยๆ ตอนนี้ไม่มีล่ะ
จะขำจะยิ้มได้ก็บ้านสวนนี่แหละ 

อยากจะขอบคุณบ้านสวน .... ผู้ใหญ่ ลูกบ้าน ... หน้าม้า ..

ไม่มีคำพูดสวยหรู ไม่มีอะไร ที่เขียน .... เอาเพลงไปฟังล่ะกัน 

 

เพลงนี้เคยเป็นเพลง ของป้าเอลตันจอห์น แต่ตอนนี้เป็นเพลงของคนบ้านสวนแล้วคับ

 

It's a little bit funny this feeling inside
I'm not one of those who can easily hide
I don't have much money but boy if I did
I'd buy a big house where we both could live
         มันตลกนะ ที่รู้สึกอย่างนี้อยู่ข้างใน
         ฉันไม่ใช่คนที่เก็บความรู้สึกได้ดี
         ฉันเงินก็ไม่ค่อยมี แต่ถ้าฉันมีนะ...
         ฉันจะซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ ให้เราได้อยู่ด้วยกัน

If I was a sculptor, but then again, no
Or a man who makes potions in a travelling show
I know it's not much but it's the best I can do
My gift is my song and this one's for you
         ถ้าฉันเป็นปฏิมากร... แต่ก็อีกนะ  ว่า..ไม่ใช่
         หรือ ถ้าฉันเป็นนักแสดง ทำเงินมากมายจากการแสดงโชว์
         ฉันรู้ว่ามันเป็นแค่สิ่งเล็กๆน้อยๆ  แต่นี่แหละคือสิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุด
         ของขวัญจากฉันก็คือ... เพลงนี้ของฉันเพื่อเธอคนเดียว

And you can tell everybody this is your song
It may be quite simple but now that it's done
I hope you don't mind
I hope you don't mind that I put down in words
How wonderful life is while you're in the world
         และเธอสามารถที่จะบอกทุกทุกคนได้ว่า นี่เป็นเพลงของเธอ
         มันอาจเป็นแค่เพลงง่ายๆ แต่มันก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว
         ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่รังเกียจ
         ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่รังเกียจ ที่ฉันนำมันเรียงร้อยเป็นถ้อยคำ
         ชีวิตมันช่างยอดเยี่ยมขนาดไหน  ที่มีเธออยู่ในโลกนี้

I sat on the roof and kicked off the moss
Well a few of the verses well they've got me quite cross
But the sun's been quite kind while I wrote this song
It's for people like you that keep it turned on
         ฉันนั่งอยู่บนหลังคา และแตะต้นมอสมันทิ้งไป
         แม้บทกวีที่ฉันกำลังแต่งอยู่ มันจะทำให้ฉันมึนไปบ้าง
         แต่ดวงอาทิตย์ก็ยังเป็นใจ ให้ฉันเขียนเพลงนี้
         เพื่อคนอย่างเธอ คนที่ทำให้พระอาทิตย์สว่างไสว

So excuse me forgetting but these things I do
You see I've forgotten if they're green or they're blue
Anyway the thing is what I really mean
Yours are the sweetest eyes I've ever seen
         และก็ได้โปรดยกโทษให้ฉันเถอะนะ ถ้าหลงลืมอะไรไปบ้าง
         อย่างที่เธอเห็นว่า ฉันชอบลืมไปว่า ตาของเธอสีฟ้าหรือเขียว
         อย่างไรก็ตามนะ จริงๆแล้ว  ฉันหมายความว่า
         ดวงตาของเธอนั้นสวยซึ้งที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา

And you can tell everybody this is your song
It may be quite simple but now that it's done
I hope you don't mind
I hope you don't mind that I put down in words
How wonderful life is while you're in the world
         และเธอจะสามารถที่จะบอกให้กับทุกคนได้ว่า นี่เป็นเพลงของเธอ
         มันอาจเป็นแค่บทเพลงง่ายๆ แต่มันก็เสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว
         ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่รังเกียจ
         ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่รังเกียจ ที่ฉันนำมันเรียงร้อยเป็นถ้อยคำ
         ชีวิตมันช่างยอดเยี่ยมแค่ไหนที่มีเธออยู่ในโลกนี้

I hope you don't mind, I hope you don't mind
what I put down in words
How wonderful life is while you're in the world.
While you're in the world
While you're in the world 
         ฉันหวังว่าเธอคงไม่รังเกียจ, ฉันคาดว่าเธอคงจะไม่ว่าอะไร
         ที่ฉันเรียงร้อยถ้อยคำใส่เพิ่มเข้าไปในบทกวี
         มันเป็นชีวิตที่น่าประหลาดใจอะไรเช่นนี้ ขณะที่มีเธออยู่ในโลกใบนี้
         ขณะที่มีเธออยู่ในโลกใบนี้
         ขณะที่มีเธออยู่ในโลกใบนี้

 

 

ขอบคุณคำแปลจาก เว็บ : http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=3f096b1673c42ee0

 

 

อ่านแล้ว ฟังแล้วอยากให้หัวเราะคับ ถ้าไม่หัวเราก็ขออภัยด้วยเขียนไม่เก่งคับ  Tongue out

อ้าววว ฮา าาาาาาาาาาาาาาาาาา

ความเห็น

เมื่อคืนรอบนึงแล้ววันนี้เอาแต่เช้า แฮะๆ

พี่ตั้มบอกว่า จะมาสองทุ่ม เราเลยเปลี่ยนเวลา ฌาปนกิจ ใช่ป่ะ อิอิ

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

แต่ วันหลังคาดว่าจะได้เห็นพี่ตั้มนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน 

55555

 

เพลงนี้น่ารักนะ น่ารักเหมือนพี่ ๆ ในบ้านนี้เลย

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

สำบัดสำนวนนะน้องชายพี่

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

เข้าสู่โหมด ตัวตนที่แท้จริงซักครู่ คับ

แล้วจะไปฮา ต่อ  55555

( ไม่มั่นใจตัวเองเลย กลับไปอ่านอีกรอบ สำบัด ...สำนวนเหรอ หืมมม )

สวัสดีครับคุณ ป้อม ตอนนี้ผมก็กำลังจะเจอชะตากรรมในการทำงานเหมือนคุณป้อมเลย

ตอนนี้ผมเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ทำงานที่นี่มาเกือบจะเข้าปีที่ห้าแล้ว(เป็นที่ทำงานที่ที่สองของผม ผมเปลี่ยนงานแค่ครั้งเดียวเอง)

ผมทำงานที่นี่มานานเพราะว่าผมชอบที่จะอยู่เบื้องหลัง ไม่ต้องออกไปผจญกับลูกค้า

เพราะว่าผมทำหน้าที่เขียนโปรแกรมอย่างเดียว คอยรับงานจาก  SA อีกที ส่วน SA ก็รับจาก customer support ที่ไปเก็บข้อมูลมาให้อีกต่อหนึ่ง

สี่ปีกว่าผ่านไปไว้เหมือนเวลาเลย ตอนนี้ SA คนสุดท้าย(อยู่มาเกือบสิบปี)ที่มีอยู่ยื่นใบลาออกไปแล้ว แล้วก็ customer support ที่ดูแลระบบที่ผมทำก็ออกไปด้วย

โอ้ ชีวิตความรู้ขององค์กรกำลังจะเดินหายวับไปแล้ว ตอนนี้ก็รอรับคนไหม่อยู่ เศร้า เครียด เลยครับช่วงนี้ ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่นานสำหรับการถ่ายทอด

องค์ความรู้จาก SA

เฮ้ย ต้องรับงานต่ออีกมหาศาลเลย กำแพงที่กั้นผมกะลูกค้ามันกำลังจะพังแล้ว ผมต้องติดต่องานโดยตรงกับลูกค้า

(จบ ...)

ก่อนหน้่านี้สองสามปีผมก็ต้องออกไปคุยกับลูกค้าเยอะเหมือนกันคับ

ไทยฝรั่งญี่ปุ่น .... อยากจะบอกว่า มันก็เป็นรสชาติชีวิต

- บางทีก็ดี ดีซะจน นนน

- บางทีออกไปทางขมขื่นอีกแบบบนะคับ

จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยชอบหรอกคับ เพราะว่าออกไปแล้วกลับมางาน ตรึม มมม รออยู่ ต้องเสียเวลากับ สภาพจราจรกรุงเทพ แล้วก็ ปัจจัยอื่นๆทีีคุมไม่ได้

 

ตอนนี้ไมไ่ด้ไปใหนเลยคับ ลูกค้า 100% อยู่ญี่ปุ่นครับ บริษัทไม่รับงานในไทยเลยคับ

เลยสบายไป ( รึเปล่าไม่รู้ )

 

คนที่ลาออกไป เนี่ย คนที่อยู่รับกรรมไป -___-"

ก็คนใหม่เข้ามาไม่ว่าจะตำแหน่งอะไรถ้าต้องทำงานกับเรา ... ก็ต้องมาเสี่ยงทายว่า นิสัยใจหอเป็นแบบใหน เข้ากันได้หรือเปล่า ...

ช่วยงานเราได้ขนาดใหน .... หรือต้องให้เราช่วยอะไร บ้าง  ถึงจะไม่ใช่ข้อเสียทั้งหมด แต่ก็ นะทำให้เราต้องปรับตัวอย่างมาก อีกอย่างคนเดิม อยู่เป็นสิบๆ ปี ใช่ว่าใครจะมาแทนกันได้ง่ายๆ

 

อืม คุณวุฒิไม่อยาก upgrade ไปทำแทนเขาเหรอครับ แล้วจะรู้ว่าชีวิต กับลูกค้า มันน่าตื่นเต้นขนาดใหน แฮะๆ

ว่างๆ มาบ่นเอ้ยเล่าให้ฟังบ้างนะครับบบบบบ

 

เรื่อง upgrade ผมเคยโดนทาบทามอยู่ครับ แต่เพิ่งปฏิเสธหัวหน้าไป(ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะมีคนออก)

แต่ก็มีมาคุยอีกรอบครับตอนนี้ผมก็บอกว่าแล้วแต่หัวหน้าหล่ะกันครับเพราะว่ามันต้องมีคนรับช่วงต่อ

ที่ไม่อยากขึ้นไปแทนเพราะว่างานเดิมก็เยอะเกินอยู่แล้วครับ ขึนขึ้นไปอีกตายแน่ๆ

ตอนที่งานที่แรกผมเคยทำทุกอย่างแล้วครับ ทั้งเขียนเอง ติดต่อลูกค้าเองก็เลยเกิดเบื่อๆไม่อยากออกไปเจอครับ

พอมาเจอที่นี่ก็ดี สี่ห้าปีที่ผ่านมา แทบไม่ไ้ด้เจอหน้าลูกค้าเลย ^^

   มันก็คงเป็นผลพวงทำให้ผมไม่อยากออกไปเจอคนข้างนอกอีกเพราะทำงานอยู่เบื้องหลังอย่างเดียวมานาน

ผมเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่า EQ ตัวเองต่ำลงทุกวันเพราะไม่ค่อยได้เจอคนข้างนอกแล้วก็ไม่ค่อยคุยกะใคร

แต่ตอนนี้เริ่มเตรียมตัวปรับเปลี่ยนตัวเองแล้วครับ

ไม่รู้จะงา..เฮ้ย.ฮา หรือเศร้าดี

สงสัยไม่ได้กินส้มตำ ไก่ย่างหลายวันแล้ว ไปหาอะไรกินซะ..เที่ยงแล้ว

พรุ่งนี้...คงจะดีกว่า ปล่อยให้เวลาของวันนี้ผ่านไปเถอะ แล้วจะรู้ว่า สิ่งที่ดีๆยังมีอีกเยอะ

...หากข้ามคืนนี้หัวใจไม่แหลกยับเยินซะก่อน จะไปอ้อนวอนขอเธออย่าตัดรอน รอก่อนวันพรุ่งนี้.......

มอบให้น้องป้อมจ๊ะ  ฟังให้เพราะๆนะ เดี๋ยวโดนความผิดอีกกระทงหรอกTongue out

Laughingทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาชีวิตน้อยลงทุกวัน

หน้า