พาสมช.ใต้ ไปวัดพระแก้ว

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เนื่องจากคุณบุญพา ที่เป็นที่รัก ของพี่น้องชาวเว็บเรา มาเยือนถึง กทม. พวกเรา(เท่าที่มาได้) ก็จัดการต้อนรับ แบบประทับใจ ไม่มีวันลืม


เราวางแผนการเดินทาง จะไปนมัสการพระแก้วมรกต ในตอนเช้า วันเสาร์ที่ 13 พย.


 แก้วเริ่มออกเดินทางจากบ้าน ไปท่าเรือวัดศรีบุญเรือง แล้วนั่งเรือคลองแสนแสบ  ไปรับคุณพา



ไปโบกรับคุณพา พร้อม นนท์ และ ไอรินลดา(จ๋า) มาขึ้นเรือด้วยกัน



บรรยากาศริมน้ำ ยังน่ารื่นรมย์ ลมพัดเย็นๆ เวลาเรือวิ่งผ่าน


ไปขึ้นเรือที่ท่าผ่านฟ้า แล้วต่อรถตุ๊กๆ ไปวัดพระแก้ว-รอชมภาพจากนนท์


ถึงวัดพระแก้วแล้วเราเที่ยวกันอย่างสนุกสนานก่อน



หน้าวัดมีต้นมะขาม ตัดทรงพุ่มอย่างสวยงาม คุณพาประทับใจมาก บอกจ๋าๆ ถ่ายรูปให้หน่อย เอาไปฝากลูก



ชมบรรยากาศในวัด มีชาวต่างชาติมากมาย แต่ คนไทยเราจำนวนมาก กลับไม่เคยไปนมัสการวัดคู่บ้านคู่เมือง



เรา4คน เริ่มเดินชมวัด เก็บภาพความงามไปรอบๆ ขอบอกว่าได้ภาพมา ราวพันรูป คงลงไม่หมด ค่อยๆดูบ้างนะคะ ลงได้เพียงเล็กน้อยค่ะ



งดงามทุกกระเบียดนิ้ว ตั้งแต่ โบสถ์ วิหาร และ วิหารราย


 




คุณพาอยากถ่ายรูปคู่กับยักษ์ จ๋า(เสื้อขาวยืนหันหลัง) กำลังถ่ายรูปให้คุณพา โดยมีนนท์แอบถ่ายรูปจ๋า และ แฮะแฮ่ม แก้วแอบเก็บภาพคนทั้งสาม และพฤติกรรมน่ารักๆของพวกเราไว้ดูเล่น



กลับมาชมวัดกันต่อค่ะ



น้องนีและครอบครัว มาถึงแล้ว กลุ่มเราเริ่มใหญ่ขึ้น แถมมีเด็กน้อยสุดโจ๋ มาร่วมขบวนด้วย



ปราสาทพระวิหารแบบจำลองค่ะ มีให้ชมที่นี่ด้วย




บรรยากาศแบบนี้ ใครไม่ได้มา น่าเสียดาย



ใครระลึกความจำได้ ว่ารูปปั้นนี้ชื่ออะไร มารับรางวัลค่ะ



แล้วเดินชมภาพจิตกรรมฝาผนังกัน



สนุกพอแล้ว ไปนมัสการ พระแก้วมรกต ด้วยกันค่ะ



ข้างในอุโบสถ ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ


หลังจากไหว้พระเสร็จ ซึ่งนนท์และคุณพาใช้เวลาในการนมัสการ นานมากๆๆๆๆ


น้องนี ลากลับก่อน ด้วยภารกิจทางครอบครัว ส่วนพวกเรา ไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์ต่อ คอยติดตามตอนต่อไปนะคะ


**********


 

ความเห็น

น้องพาทันสมัยได้นั่งเมล์ฟรีด้วย

พี่พาทันสมัยจริง ๆด้วยค่ะ


ขึ้น ปอ. พี่พาได้นั่งค่ะ


ขึ้นรถเมล์ฟรี พี่พาโหนรถเมล์ค่ะ Laughing

ไม่ต้องกลัวหลง ถามพี่พาได้ เมื่อวานนี้กระเป๋ารถเมลล์ฮามากมาย ค่ารถเมล์คนละ 12 บาท ขึ้นกันทั้งหมด 5 คน คุณป้ากระเป๋าถามว่า แล้วมันเป็นเงินทั้งหมดกี่บาท ป้างง ป้าเคยคิดมากสุดแค่สามคน 555++ ป้าบอกว่าเอางี๊ละกัน ตั้งต้นที่คนละ 10 บาท 5 คนก็ 50บาท เศษค่อยเก็บไว้คิดทีหลัง ที่นี้ก็ขำกันก๊ากเลยค่ะ พี่นนท์ (ตัวแสบ) บอกว่าเงียบๆไว้น้อง ได้ราคานี้ดีแล้ว สุดท้ายป้าก็เดินไปถามคนขับว่า สรุปแล้ว 5 คนมันคิดเป็นเงินกี่บาท พอถามไถ่กันเสร็จ ป้ากระเป๋ารถเมล์ก็เดินกลับมาใหม่ บอกว่าคิดเลขแค่นี้ไม่เห็นจะยากเลย ก็ 5 คน ก็50 บาท พอบวกเศษ คนละ 2 บาท (แกเอานิ้วชี้ๆด้วย ขำดี) ก็รวมได้หกสิบพอดี เป็นไงมั่ง น่าจะส่งโกโก้ ลูกของพี่แจ้วมาเรียนสูตรคูณกับคุณป้านะ Laughing เท่านั้นยังไม่พอ ตั๋วที่ใช้มันเขียนราคา 13 บาท แต่ราคาจริงที่ต้องจ่ายคือ 12 บาท ผู้โดยสารท่านหนึ่งได้รับเงินทอนขาดไปหนึ่งบาท ป้าแกอุทานออกมาว่า ตายละหว่า มันหายไปไหนบาทนึง ยังมีต่ออีกนะ พระท่านจะลงรถเมลล์แล้วคุณป้ากระเป๋า ก็ไม่รู้เลยไม่ได้บอกคนขับ พระท่านเกือบตกรถเมลล์ ที่นี้หละฮาคุณป้ากระเป๋ากันทั้งรถเลยค่ะ (เล่าทางตัวหนังสืออาจจะไม่ฮาเท่ากับการได้เจอเหตุการณ์จริง ไปถามพี่พาได้เลย) มีรูปคุณป้ากระเป๋ารถเมล์ที่น่ารักท่านนี้มาฝากด้วยSmile


สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี

สนุกกันจังเลย น้องพาไป กทม.เที่ยวนี้คุ้มสุดคุ้ม มีโทรมาโม้ด้วยนะ เหมือนรู้ว่าพี่อิจฉา

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

พี่เล็กมาเที่ยวบ้างนะคะ


จะได้ไปตะลอนทัวร์ด้วยกันค่ะ


และถ้าจ๋าไปสงขลา พี่เล็กพาไปเที่ยวทักษิณคดีนะคะ


จ๋าเคยไปครั้งนึงตอนเรียน ปวส. ประทับใจมาก


ถ้าพี่เล็กมีโอกาสและมีเวลา อยากให้พี่เล็กเสนอบล็อกทักษิณคดีค่ะ


แต่น่าเสียดายที่ด้านในทักษิณคดีเค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป


เหมือนวัดพระแก้ว บางห้อง บางจุดก็ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปค่ะ


ไม่งั้นมีรูปสวยๆ มาฝากสมาชิกบ้านสวนฯ อีกเพียบค่ะ Smile

พูดเรื่องป้ากระเป๋ารถเมล์นี่ก็ขำจริงๆ


ก็บอกอยู่ว่า "สิบสองห้าหกสิบ" (12x5=60)


ป้าแกก็ไม่สนใจ เดินไปสะกิดถามคนขับอีก


อยู่กรุงเทพฯมาก็หลายปี ขึ้นรถเมล์ตลอด


เพิ่งจะมาเจอป้าแกนี่แหล่ะ  ฮาได้อีก YellYell

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าขึ้นรถเมล์มากกว่า 3 คน (กรณีไปด้วยกัน)


เพราะลำบากป้าแก ปกติเคยคิดเยอะสุดคือ 3 คน


เห็นมั๊ยขึ้นมา 5 คน ลำบากคนขับอีกWink

ผมเคยพาลูกสาวสมัยเรียน ม.3 ไปซื้อของที่ตลาดสด..ถามราคาผักอย่างนึงโลละ 25 บาท ชั่งได้ 9 ขีด บอกให้ลูกคิดแข่งกะป้า(แม่ค้า) ลูกคิดช้ากว่าป้าเยอะมาก..ทั้งๆที่ป้าเรียนแค่ ป.7..กลับมาบ้านลูกถามว่าทำไมป้าคิดไวมาก เลยบอกว่าหากเป็นลูก..ลูกจะคิดเทียบบัญญัติไตรยางค์ใช่มั๊ย..ป้าก็คิดเหมือนลูกแหละ..แต่ต่างกันตรงที่ หนูหาสิบขีดได้ 25 ..หนึ่งขีดได้ 2.50 ..9 ขีดก็เอามาคูณ..แต่ป้าเค้าจะเอาหนึ่งขีดมาลบออกจาก 25 ก็เหลือ 22.50 ง่ายกว่ากันเยอะ..ลูกถามว่าทำไมพ่อรู้..ผมตอบว่า..สมัยเด็กๆพ่อก็เป็นพ่อค้ามาก่อน..(ขายผ้า ตัดผ้าขายอาจไม่ครบเมตร) คนค้าขายจะมีวิธีคิดที่เร็วมาก..น่าทึ่ง..อย่างกระเป๋ารถเมลย์นี่ก็น่าทึ่งนะ..(ลองคิดดูถ้ามีการคูณที่เกินกว่าแม่ 12 เราจะช้ากว่าหรืออาจต้องใช้กระดาษทด แต่แม่ค้าไม่ต้องใช้หัวอย่างเดียว..ก็วิธีแบบนี้แหละ) ผมเคยสอนลูกศิษย์เรื่องคิดเลข..อย่างการถอดรากที่สอง ถ้าถอดแบบวิธีที่โรงเรียนต้องจำวิธีปวดหัวและยุ่งยาก แต่หากใช้วิธีแยกตัวประกอบจะง่ายกว่ามาก เรื่องเปอร์เซนต์ร้อยละก็เหมือนกัน..ถ้าคิดแบบสูตรช้ากว่ามาก..ผมจะให้ใช้วิธีแบบแม่ค้าเร็วกว่าเยอะ..(คิดเฉพาะแบบไม่แสดงวิธีนะ) ยังเอาสอนผู้ปกครองเลย..ชอบกันมาก..และบอกอยากให้สอนแบบนี้กับลูกด้วย..ภูมิปัญญาการคิดของชาวบ้านร้านค้าไม่ธรรมดานะ

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

นับถือ จริง ๆ พี่ เชื่อค่ะเชื่อ

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

จะพาตะเวณไปทานด้วยจ้า อิอิ...

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

หน้า