หนังสือประจำบ้าน ....

หมวดหมู่ของบล็อก: 

...วันหยุดยาวนี้ทำหน้าที่แม่บ้านเต็มตัว อากาศแล้ง ๆ ร้อน ๆ พาลไม่อยากไปไหนเพราะร้อนอบอ้าว แต่ก็มิวายไปตะลุยเมืองกรุงซะหนึ่งวันไปดูหนังออสการ์กะพ่อบ้าน... อีกสองวันต่อมาใช้เวลาที่บ้านเต็มที่ จนพี่ตั้มโทรมาทักทายและส่งข่าวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าขาลุยอย่างเราไม่ไปไหนในวันหยุดอย่างนี้... หยุดยาว ๆ ขอใช้ชีวิตช้า ๆ สบาย ๆ หน่อยคะ ... วันนี้ทั้งวันวุ่นอยู่กับกองหนังสือ..มาดูกันว่าบ้านนี้อ่านหนังสืออะไรบ้าง ตามมาคะ



หนังสือ นิตยสารที่บ้านนี้อ่านประจำคะ ...มีหัวอะไรบ้างก็ตะแคงอ่านหรือน่าจะคาดเดาได้นะคะ อารมณ์อยากผจญภัยก็อ่านล่องไพรไปกับรพินทร์  อยากสงบใจก็อ่านเคล็ดลับการดำเนินชีวิตของอาจารย์โกเอ็นก้า ที่ลุงพีให้มา  ส่วน ค คน เล่มนี้ชอบมาก ๆ คะ เกือบคว้าจากแผงไม่ทัน อดที่จะซื้อให้พี่สาวอีกเล่มไม่ได้  คส คส. หนังสือดีที่คุณภาพคับแก้วและราคาไม่แพง เดือนนึงเสียเงิน 60 บาทให้คุณดำรงเสมอ อสท. ขาเที่ยวอย่างเราก็อ่านไว้หาข้อมูลบ้าง เล่มสุดท้ายเป็นเหมือนคลังความรู้ประจำบ้าน.....สารคดี... ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเนื้อหาคับแก้ว



เล่มนี้เริ่มอ่านตั้งแต่ทำงานใหม่ ๆ นะคะ คุณผู้ชายก็แนะนำให้รู้จักนะคะ ...ตั้งแต่นั้นก็เป็นขาประจำ... รู้จักงานเขียนพระไพศาล วิศาโล ก็จากหนังสือหัวนี้   ...อ่านเรื่อย ๆ เนื้อหาจะหนักบ้างเบาบ้าง..เป็นเหมือนของสะสมด้วยคะ ชอบในอุดมการณ์ของเจ้าของหนังสือที่สร้างสรรสิ่งดี ๆ ให้คนอ่านคะ และชอบบรรณาธิการด้วยคะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนคนแล้ว



ตอนนี้ลามมาชั้นที่สามแล้วคะ...มีไม่ครบทุกเล่มเพราะไม่ได้เป็น สมช. ลุ้นซื้อหน้าร้านเอาคะ ... ล่าสุดพี่ชายขอ เล่มจักรยาน ไปให้พระที่นับถือ ท่านตามหามานานและราคาในตลาดหนังสือเก่าก็สูง ก็ยกให้คะ เพราะรู้ว่าเอาไปใช้ประโยชน์จริง ๆ...

ความเห็น

ต้องฟิตร่างกายให้ได้ก่อนนะสิ เด่วจะเป็นลมก่อนขึ้นลูกแรก ท่าจะหินกว่าภูสอยดาวเยอะเลย..แต่สวยมาก ๆ คะ

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

ปกติไปอ่านฟรีในห้องสมุดที่คณะค่ะ ประหยัดตังค์ :uhuhuh:

สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี

พี่ชอบอ่านในห้อง rest room เลยเอาจากห้องสมุดมาบ่อย ๆ บ่ได้อะ อิอิ

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

 เมื่อก่อนก็ชอบซื้อสารคดีเหมือนกันแต่ตอนนี้หาอ่านในห้องสมุด ประหยัดตังค์ดี


 

พอเพียงเพื่อเพียงพอ


jabee_68@hotmail.co.th

เล่มไหนซื้อไม่ทันก็ไปเก็บตกจากห้องสมุดเหมือนกันคะ

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

มีล่องไพรกี่เล่ม มีตอนไหนบ้าง ขอยืมอ่านบ้างได้มั๊ยครับ..


 

 

"ไม่มีอะไรอยู่กับที่ ถ้าเราไม่หยุดเดิน"

..มีไม่เยอะอะดิ เล่มนี้เพิ่งซื้อมาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ เพราะชุดเก่าหายไปไหนไม่รู้...ชุดนี้ยังไม่กล้าลงทุน อาศัยยืมอ่านเหมือนกัน

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

โห....นักอ่านตัวจริงเลยค่ะ แหม่มใช้วิธีเช่าอ่านค่ะสำหรับนิตยสาร แต่ถ้าเป็นจำพวกพอคเก็ตบุ้คก็จะซื้อเก็บ แล้วเวลาซื้อหนังสือดี ๆ สักเล่ม ไม่เคยเสียดายตังค์เลยค่ะ การอ่านหนังสือก็เหมือนกับเป็นทางลัดให้เราได้เจอสิ่งทีแปลกใหม่ และเปิดโลกทัศน์แม้จะอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่บ้านก็ตาม

อ่านเยอะก็จำไม่ได้หมด มีปัญหาเรื่องความจำ จำแบบเลา ๆ ได้แต่จำชื่อชัด ๆ แม่น ๆ ไม่ได้ บางครั้งก็ไม่กล้าบอกข้อมูล 

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

เมื่อก่อนเคยบ้าอ่าน บ้าเก็บเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ บ้านรก แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า เกิดมา มีแตกและ ดับไป เลยบริจาคไปหมดแล้วค่ะ ก็ยังมีเก็บบ้าง แต่เก็บเฉพาะหนังสือเรียนภาษา แล้วก็หนังสือธรรมะค่ะ


สมัยเป็นเด็ก เคยเก็บหนังสือเล่มนึง รักมาก หวงมาก แบบว่า ชอบหนังสือเล่มนั้นตั้งแต่ยังไม่เข้าโรงเรียนเลยค่ะ ก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเหมือนกันในตอนนั้น ทั้งๆที่อ่านก็ยังไม่ออก เพราะยังไม่เข้าโรงเรียนเลย เป็นหนังสือ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ค่ะ เป็นประวัติศาสตร์เล่มแรกที่ไม่เคยเห็นที่ใหนมาก่อน ภายในเล่มมีภาพประกอปเกี่ยวกับการเสียเมือง เสียกรุง ไทยรบกับพม่า มีภาพพระยาตากสินกำลังขี้ม้า ขี่ช้างรบกับพม่า แล้วก็มีชาวบ้านบางระจันทร์ขี่ควายถือดาบกำลังรบกับพม่า มีย่าโมเป็นแม่ทัพ เก็บหนังสือเล่มนี้อยู่หลายปี จนกระทั่งเข้าโรงเรียน อ่านหนังสือได้ ก็เริ่มเอาหนังสือเล่มนี้ออกมาอ่านคนเดียว อ่านก่อนนอนด้วยนะค่ะ เป็นแบบนี้ทุกวัน จนกระทั่งหนังสือเล่มนี้หายไป ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหายไปตอนใหน ตอนนั้นเสียใจมาก เหมือนกับว่า ของมีค่าที่สุดในชีวิตได้หายไป (ในความรู้สึกตอนนั้น)


เนื้อหาในหนังสือจะเป็นตอนๆ มีหัวหัวข้อเรื่อง ระบุอย่างละเอียด รูปทรงของหนังสือเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสค่ะ ไม่ได้เป็นรูปเล่มเหมือนหนังสือในปัจจุบัน ระบุวันเดือนปีของการเสียกรุง การตีกรุงกลับคืนมาได้ ตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นเมืองหลวง มีรูปคุณหญิงมุก คุณหญิงจันทร์ คุณหญิงโม ด้วยคะ เห็นหน้าแบบชัดเจนเลย เป็นภาพสีทั้งหมด


ตอนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ เพิ่งจะได้ 7-8 ขวบเองค่ะ เอาหนังสือไปนอนกอดทุกคืน อ่านจนหลับคาที่นอน สงสัยพ่อคงแอบเอาไปทิ้ง แน่ๆเลย เฮ้อ ยิ่งเล่าก็ยิ่งยาว อีก 3 วันก็ไม่จบค่ะ


ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน

หน้า