แยมลูกมะเดื่อ หรือแยมลูกฟิก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

มาทำแยมจากลูกมะเดื่อ หรือลูกฟิกไว้ทานกันเถอะ

นี่คือลูกฟิกที่เก็บได้จากต้นหลังบ้านค่ะ เป็นภาพที่ถ่ายไว้ก่อนลาพักร้อน แต่ยังไม่มีโอกาสนำเสนอผลงาน

*****

ก่อนลงมือทำก็ต้องหาภาชนะที่จะใส่แยมมาเตรียมไว้ก่อนนะค่ะ อ๊อดเลือกขวดโหลแบบนี้ค่ะ เพราะหาได้ง่ายในท้องถิ่น

นำขวดที่จะใช้บรรจุมาล้างด้วยน้ำยาล้างจานให้สะอาด เพื่อขจัดคราบน้ำมันกันสนิมหรือฝุ่นผงต่างๆ เฉพาะส่วนที่เป็นขวดแก้ว หรือฝาเท่านั้นนะค่ะ ส่วนที่เป็นแหวนเกรียวนั้นไม่ต้องล้างค่ะ

*****

นำส่วนที่เป็นฝา หรือ Lid และ Jar นั้นมาต้มในน้ำเดือด ประมาณ 5-10 นาที เพื่อฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา หรือแบคทีเรียต่างๆ ที่อาจจะติดมากับภาชนะ

หลังจากนั้น นำขึ้นพักไว้ให้เช็ดน้ำ และแห้งพร้อมที่จะใส่แยมในทันที

*****

หั่นลูกมะเดื่อผ่าครึ่งหรือเป็นชิ้นๆ ประมาณ 4 ถ้วยตวง(ถ้วยตวงตามมาตราวัด measure cup)

ลอกเปลือกออกให้หมด เอาเฉพาะเนื้อในและส่วนที่เมล็ดนุ่มๆทั้งหมด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือจะสับให้ละเอียดเลยก็ได้ถ้ามีเวลามากพอ

*****

เตรียม ผง pectin หรือผงแยมควรเทใส่แก้วไว้เลย เพื่อสะดวกในการเทลงหม้อแยมเมื่อลูกฟิกสุก พร้อมมะนาวครึ่งลูก


อ๊อดเลือกใช้ชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลค่ะ ผง Pectin มีสองแบบ คือแบบผง และแบบ น้ำเชื่อม แต่อ๊อดขอแนะนำให้ใช้แบบผง จะดีกว่า(ผง pectin ควรผสมน้ำตาลทรายลงไปด้วย ประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ และคนผสมกัน (น้ำตาลจะช่วยให้ผงแยมทำงานดีขึ้น)

*****

นำลูกฟิกที่หั่นเตรียมไว้ ใส่ลงในหม้อ ผสมน้ำผลไม้ 1 ถ้วยตวง (น้ำผลไม้ควรใช้ น้ำแอปเปิ้ล หรือน้ำองุ่น) หากไม่มีก็น้ำเปล่า "ห้ามใช้น้ำส้ม หรือน้ำมะพร้าว เพราะไม่นิยม"

ใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดด้วยไฟแรง หมั่นคนอยู่ตลอดเวลา ห้ามหยุด เพราะอาจติดก้นหม้อ หยดน้ำผึ้งลงไป สัก 3 ช้อนโต๊ะ หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ ใช้ที่บดมันฝรั่ง กดลงไปให้เนื้อลูกฟิกละเอียด หรือแตกเละเป็นเนื้อเนียน หรือถ้าใครชอบเป็นชิ้นๆก็ ไม่ต้องบดก็ได้

*****

ต้มต่อไปประมาณ 20 นาที หรื่อจนกว่าลูกฟิกจะสุก ไฟต้องแรงนะค่ะ และเดือดปุดๆ ห้ามอ่อนไฟเด็ดขาด และคนอยู่เรื่อยๆ

เมื่อลูกฟิกสุกได้ที่ ใส่น้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน สองภาพนี้จะเห็นความ แตกต่าง คือด้านซ้าย ยังไม่ใส่น้ำมะนาว ภาพด้านขวา ใส่น้ำมะนาวลงไปแล้ว

จะเห็นได้ว่า สีของเนื้อแยมที่ยังไม่ได้ใส่น้ำมะนาวนั้นออกเขียวๆ ซีดๆ แต่พอใส่น้ำมะนาวลงไป สีของเนื้อแยมจะแดง สุก ไส น่าทานขึ้นมาทันที

สาเหตุที่ต้องใส่น้ำมะนาวเพราะว่า ลูกฟิกมีความเป็นด่างสูง และ น้ำมะนาวมีความเป็นกรดสูงนั้นเอง น้ำมะนาวไปปรับสีของเนื้อแยมให้แดงขึ้น สวย น่ารับประทาน เป็นสีจากธรรมชาติ ที่เราไม่ต้องเติมสีอาหารลงไปแม้แต่นิดเดียว และยังได้ไวตามินซีอีกด้วย

*****

เมื่อใส่น้ำมะนาวลงไปแล้ว คนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลลงไป 1 ถ้วยตวง ชิมรส เปรี้ยวหวาน ตามชอบ และตามด้วย ผง pectin

ขั้นตอนนี้สำคัญมาก

เมื่อเทผงแยม หรือผง Pectin ลงไปปั๊บ ให้คนให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว และให้นับ 1,2,3,4,5, ไปเร็วๆ จนถึง 50 และให้ยกหม้อแยมออกจากเตาทันที คือให้ขยับหม้อแยมออกจากไฟ หรือปิดเตาไฟทันที ห้ามว๊อกแว๊ก

*****

เมื่อนำแยมออกจากเตาแล้ว ให้ตักแยมใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ทันที

รอให้เย็นสักครู่ แล้วผิดฝาให้สนิท หมุนให้แน่นที่สุด เท่าที่จะแน่นได้ ห้ามปิดหลวมๆเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำเข้าไปได้

*****

ตั้งแยมทิ้งไว้ให้อุ่นๆ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดๆ ประมาณ 10-

15 นาที เพื่อ ปิดผนึก หรือ Seal ฝาให้แน่น และเพื่อไล่อากาศออกให้หมด

ในการต้มเพื่อปิดผนึกนี้ ควรใช้หม้อใบใหญ่ๆ ที่มีก้นลึก และต้องใส่น้ำให้ท่วมฝา และต้องวางในแนวตั้ง ห้ามนอน ห้ามตะแคงเด็ดขาด เพราะจะไล่อากาศออกไม่หมด

*****

นำแยมที่ได้ออกมาวางเรียงไว้ ให้เย็น เช็ดน้ำออกให้แห้ง

ใช้นิ้วมือ กดไปที่ตรงกลางของฝา ว่ามีเสียงดัง "ป๊อกแป๊ก" หรือไม่ ถ้ามีเสียง แสดงว่ายังผนึกฝาไม่แน่น ยังมีอากาศอยู่ข้างใน ไม่ต้องตกใจนะค่ะ ก็นำกลับไปต้มใหม่ จนกว่าจะกดแล้วไม่มีเสียงดัง

*****

หลังจากที่ผนึกฝาเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเขียนชื่อ วัน เดือน ปี ที่ผลิต ลงไปที่สติกเกอร์ เพื่อจะได้ไม่ลืมว่าเราผลิตเมื่อใด

***********

การทำแยมไว้ทานเองแบบนี้ เราสามารถเลือกปรับระดับความหวานของแยมได้ ว่าเราต้องการความหวานมากน้อยแค่ใหน ปราศจากสารกันบูด ไม่มีแป๊ะแซ ความหวานที่ได้ ส่วนใหญ่ก็จะได้มาจากผลไม้ล้วนๆ และสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 ปี โดยไม่ต้องเข้าตู้เย็น

*****

หมายเหตุ: 1.) หากเปิดทานแล้ว ทานไม่หมดจะต้องนำแยมขวดนั้นไปเข้าตู้เย็นนะค่ะ เพื่อป้องกันการขึ้นรา ส่วนขวดที่ยังไม่ได้เปิด ก็นำไปเก็บไว้ที่แห้งไม่ชื้น และไม่โดนแสงแดด

2.) ทำแยมแบบนี้ไม่ต้องใส่น้ำตาลได้ใหม? ตอบว่า ไม่ได้ค่ะ เพราะว่า ผงแยม หรือผง pectin นั้น อาศัยความหวานของน้ำตาลช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น หรือน้ำตาลช่วยให้ผง pectin ตกผลึกจับตัวแข็งนั้นเอง แต่สามารถใช้ผงน้ำตาลเทียมแทนได้ หากไม่ต้องการใช้น้ำตาลจากธรรมชาติ และเลือกใส่ในปริมาณที่น้อยได้

3. เมื่อแยมเย็นได้ที่ และใส่ลงในขวดเรียบร้อยแล้ว ให้จับขวดแยมตะแคงดู หมุนขวดกลับหัวหลับหางไปมา ดูว่าเนื้อแยมแข็งหรือไม่ หากแยมที่ทำได้เป็นน้ำโหลงเหลง แสดงว่าผิดขั้นตอน ไม่ต้องตกใจค่ะ แยมไม่เสียนะค่ะ ให้เปิดแยมออกมาเทใส่หม้อเหมือนเดิม ตั้งไฟให้เดือด และ ไส่ผง pectinและน้ำตาลลงไปใหม่ และทำตามขั้นตอนที่ได้อธิบายไปแล้ว 

4. หากแยมที่ทำได้ แข็ง หรือเข้มข้นเกินไป ให้เติมน้ำผลไม้ลงไป  และเอาไปอุ่นในภาชนะก่อนทาน

5. ปริมาณผง pectin ที่ใช้ จะมากน้อยเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เราซื้อมา ให้สังเกตที่ข้างกล่อง ที่กล่องจะระบุไว้ว่าใช้ปริมาณเท่าใด และต้องใช้ผลไม้เท่าใด เพราะแต่ละยี่ห้อนั้นมีความเข้มข้นไม่เท่ากัน

ข้อควรระวัง:

เมื่อใส่ผงแยมลงไป จะต้องคนตลอดเวลา ห้ามหยุด และให้นับ 1-30 เหมือนเข็มวินาที ถ้านับช้าให้นับถึง 30 ถ้านับเร็วให้นับถึง 50 พอ (ห้ามขาด ห้ามเกิน) เพราะจะทำให้แยมเป็นน้ำโหลงเหลง ไหลโจ๊ก เวลาที่เริ่มจากการเทผงแยมลงไป รวมเวลาแล้วจะต้องไม่เกิน 60 วินาที

ขอบคุณค่ะที่ติดตาม หากท่านใดมีข้อสงสัย ฝากข้อความไว้ที่ฝากข้อความถึงสมาชิกได้ค่ะ 

ขอให้มีความสุขสุดสัปดาห์ แล้วพบกันใหม่ค่ะ

******************

 


ความเห็น

:cute2: ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ครับ  เพิ่งรู้ว่าต้องใช้ผง pectin ด้วย  ขอ Bookmark ไว้นะครับ 

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ต้องใช้ค่ะ ถ้าไม่ใช้มันจะไม่เป็นแยม ที่เมืองไทยเขาทำกัน เขาไส่แป๊ะแซด้วย โห หวานน้ำตาลก็แย่อยู่แล้ว ยังมาหวานแป๊ะแซ อีก โห เบาหวานถามหาเลย

เพื่อนเราสุดยอดมาก ๆ เลย โหวต ๆๆๆๆๆๆๆ บักเดื่อบ้านเฮาเฮ็ดได้บ่เพื่อน เคยแต่เอามาจิ้มกับแจ่วบองนะแซบอีหลี..:sweating::sweating:โหวต ๆๆๆ

 

บักเดื่ออันแนวนั้นยังบ่เคยเฮ็ดกินเด้อ เคยตะเอามาจ้ำปลาแดกบอง


สุดยอด  ทำขายได้เลย

ได้ประมาณ โหลกว่าค่ะ ให้แฟนทาหนมปังตอนเช้าๆ ทานตลอดปี 

กะว่าจะเอาไปแจกเพื่อนๆที่เมืองไทยชิมด้วยค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะขนไปได้มากน้อยแค่ใหน เพราะมันหนัก อิอิ

ใช้ผลไม้อื่นแทนได้ไหมคะ อยากลองทำมั่งค่ะ

ใช้ผลไม้อย่างอื่นก็ได้ค่ะ วิธีทำก็เหมือนกัน แต่ส่วนผสมจะไม่เท่ากันนะค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ให้อ่านฉลากที่ข้างกล่องผง pectin ทุกกล่องจะบอกจำนวนผลไม้ และปริมาณการใช้ผง pectin ไว้ที่ข้างกล่องทุกกล่องค่ะ

ขอให้โชคดีนะค่ะ

กำลังจะหาสูตรทำแยมอยู่พอดีเลยค่ะพี่อ๊อด ขอจดเลยนะค่ะ


ปล.หากไม่เป็นการรบกวนขอกิ่งมะเดื่อมาชำสักกิ่งสองกิ่งได้ไหมค่ะ จะส่งซองติดแสตมป์ไปรับค่ะ ขอขอบคุณในความเมตตามาล่วงหน้าค่ะ


:admire: :cheer3:

อ๊อดอยู่อเมริกาค่ะ ไม่สามารถแจกกิ่งตอนมะเดื่อได้ ที่เมืองไทยมีกิ่งตอนขายค่ะ ลองเซิสหาดุทางกูเกิ้ล มีขายที่ ม.เกษตรตอนช่วงหน้าเทศการ เกษตรแฟร์ นะค่ะ ลองติดตามข่าวสารทางเน็ตดู และที่ตลาดนัดจตุจักรก็มีขายค่ะ แต่ไม่มีข้อมูลร้านที่ขายเลย ลองเซิสหาทางเน็ตดูค่ะ 

หน้า