สีน้ำอีกสักครั้ง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

กลับมาอีกครั้ง อาร์ตแกลอรี่สีน้ำจากศิลปินไร้ชื่อเสียง แต่ใส่ใจกลับผลงานของเธอ SP คือนามแฝงของอ้อยหวาน ดูผลงานสีน้ำของอ้อยหวานปีที่แล้วได้ที่นี่ ข้อคิดจากการหัดวาดรูปสีน้ำ

เอาผลงานตัวเองของปีนี้มาออกสื่ออีกครั้ง แถมพกพาความมั่นใจสุดๆ เอาผลงานสีน้ำของตัวเองออกสื่ออินเตอร์อีกด้วย  ดูได้ที่นี่ ญี่ปุ่นในความทรงจำของฉัน

 

รูปข้างบนคือลักกี้ ลูกหมาของครอบครัว ที่เลี้ยงดูและเติบโตมาพร้อมๆ กับลูกๆ สองคน และลักกี้ก็คิดว่าตัวเองเป็นลูก ไม่ใช่หมาของครอบครัว ลักกี้จากไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ด้วยอายุ 17 ปี อ้อยหวานเคยเขียนเล่าเรื่องลักกี้ในบล็อกนี้

การได้นั่งวาดรูปลักกี้และลงสีน้ำ ทำให้ความทรงจำเก่าๆ ดีๆ ผุดขึ้นมามากมาย อ้อยหวานไม่เคยคิดว่าจะวาดและระบายสีรูปคน หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้ เพราะคิดว่าอยากสำหรับนักเรียนที่เพิ่งหัดเรียนหัดวาดด้วยตัวเอง โดยเฉพาะดวงตาซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่รูปนี้ก็ออกมาไม่เลวเลย ใช่ไหม? ขอความเห็นหน่อยค่ะ

 

รู้ไหม? ว่าการวาดรูปเป็นการบำบัดจิตใจแบบหนึ่ง ที่มีชื่อหรูว่า ศิลปะบำบัด (Art Therapy) ศิลปะสามารถนำมาใช้บำบัดจิตใจ สำหรับโรคหลายชนิด เช่น โรคเครียด  โรคเศร้าซึม โรคจิตตก โรคเบื่อ โรคกังวลวิตกจริต โรคบอบช้ำทางจิตใจจากการสูญเสีย

ศิลปะบำบัดใช้ได้กับทุกเพศ ทุกวัย สามารถนำมาใช้กับเด็ก (หรือผู้ใหญ่) ที่มีปัญหาในด้านการพัฒนา  เด็ก (หรือผู้ใหญ่) ที่มีปัญหาในด้านการเรียนรู้ได้อีกด้วย

 

ศิลปะสามารถช่วยเพิ่มองค์ประกอบต่างๆ ของความคิด

ช่วยให้มีความคิดริเริ่ม (Originality) ช่วยให้มีความคิดแปลกใหม่ เกิดการนำความรู้เดิมมาคิดดัดแปลง และประยุกต์ให้เกิดเป็นสิ่งใหม่

ช่วยในด้านความคล่องแคล่ว (Fluency) ช่วยให้มีความคิดที่รวดเร็ว ไม่หมกมุ่น ไม่คิดวกวน

ช่วยในเรื่องความยืดหยุ่น (Flexibility) ช่วยให้คิดได้หลากหลายมุมมอง ไม่ซ้ำรูปแบบหรือกรอบคิด แบบเดิม ไม่ยึดติด สามารถเห็นประโยชน์ของสิ่งของอย่างหนึ่งว่า มีอะไรบ้าง ได้หลายอย่าง

ช่วยให้เกิดความละเอียดลออ (Elaboration) ช่วยให้มีความพิถีพิถันในการตกแต่งรายละเอียด ช่างสังเกตในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นหรือมองข้าม

ขอบคุณข้อมูลจาก จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ของนพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา และ Wikipedia

 

อ้อยหวานยังใช้การวาดรูปสีน้ำเป็นบันทึกความรงจำอีกด้วย ประตูโทริแดงแห่งเกาะมิยะจิมะ (Miyajima) สัญลักษณ์ของญี่ปุ่นรองจากภูเขาฟูจิ กาลหนึ่งนานมาแล้วอ้อยหวานและคุณผู้ชายที่บ้านได้ไปฮันนิมูนกันที่นี่ เราแวะไปอีกครั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อ้อยหวานเอาภาพอดีตนานมาแล้วจับรวมกับภาพเมื่อต้นปี แล้วกลายมาเป็นภาพนี้ ภาพอดีตนานมาแล้วคือเราสองคนที่ยังเอ๊าะๆ เอวบางร่างน้อย หากวาดภาพของปัจจุบัน ก็คงต้องเติมอีกคนละเท่าตัว และที่เพิ่มตามน้ำนักตัวคือความรักและความเข้าใจ (มดมาเต็มเลย)

 

เอาภาพเรียกมดมาอีกภาพ อ้อยหวานตั้งชื่อว่า “ฝันหวานใต้ต้นซากุระ”  อีกช่วงเวลาหนึ่งที่ทำให้นึกถึงอยู่มิวาย เอาไว้ดูตอนทะเลาะกัน

 

โดดเดี่ยวท่ามกลางฤดูหนาว   Winter solitude

ในโลกของสี สีเดียว       in a world of one color

กับเสียงของลม             the sound of wind

กลอนไฮกุของท่าน Matsuo Basho

หัดวาดรูปโดยใช้โทนสีเดียวแต่ความเข้มของสีต่างกัน สีฟ้าเทาเป็นสีของภูเขาในวันฟ้าหม่น เราไปเดินป่าในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นหลังจากพายุหิมะ หุบเขาทั้งหุบเป็นสีฟ้าอมเทา

 

เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม เมื่อต้นปีที่ผ่านมาอ้อยหวานและคุณผู้ชายที่บ้านได้ไปเดินลุยหิมะบนเส้นทาง 8 กิโลเมตรในหุบเขา ดูดิ สมกับกลอนไฮกุของท่าน Matsuo Basho ไหม?  ในโลกของสี สีเดียว (in a world of one color) ในวันนั้นตลอดเส้นทางในหุบเขาเป็นของเราแต่ผู้เดียว โดดเดี่ยว..แต่ไม่เดียวดาย เป็นเส้นทางที่สวยมากๆ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะพายุหิมะ ก็จะไม่โดดเดี่ยวและเดียวดาย มีรถทัวร์นักท่องเที่ยวหลายคันรถตรงเมืองปากทาง ทุกคนลงมาเจอหิมะ วิ่งกลับขึ้นรถ ตลอดเส้นทาง 8 กิโลเมตรมีแต่เราสองคนที่เดินลุยหิมะบางช่วงสูงเทียมเข่า รองเท้าเปียกสนิทไปจนถึงถุงเท้าและกระดูกนิ้วเท้า มือไม้เย็นเจี๊ยบ เสียงลมวีดหวิวผ่านป่าไผ่ เคร้ากับเสียงหิมะตก เปาะแปะ..เปาะแปะ จากยอดไม้

 

บางช่วงผ่านป่าสนญี่ปุ่นต้นสูงใหญ่ ฟ้าเปิดโอกาสให้แสงแดดส่องผ่านมาแว็บหนึ่ง เป็นลำแสงที่ส่องลงมาสวยมาก แต่กล้องถ่ายรูปของอ้อยหวานไม่สามารถเก็บมาได้สวยเท่าตาเห็น

 

3 ชั่วโมงกว่ากับการเดินย่ำหิมะขึ้นๆ ลงๆ ในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น แม้จะหนาวสั่นเพราะไม่ได้เตรียมตัวไปย่ำหิมะ แต่เป็นวันดีดี ที่เราจะจดจำไปนานแสนนาน

 

“ความทรงจำดี้ดี ที่ภูเก็ต”

ลองหัดวาดโปสกาสด์หรือโปสเตอร์โฆษณาบ้าง ในรูปแบบของ ศิลปะบันทึกประจำวัน (Art Journal) คอนเซปต์ของศิลปะบันทึกประจำวัน (Art Journal) ก็คือการคิดสร้างสรรค์งานศิลปที่รวบรวมเอา สีสัน ข้อเขียน และรูปภาพ เข้าด้วยกัน เป็นการทำงานศิลปที่สนุกมากๆ

 

หน้าร้อนปีนี้เราขนจักรยานใส่รถ แล้วออกไปปั่นเที่ยวกันในชนบทรอบๆ เมืองออตตาวากันหลายทริป นี่เป็นบันทึกของวันที่เราไปชมทุ่งรองเท้านารีในเขตอนุรักษ์ Purdon แล้วปั่นจักรยานเที่ยวไปรอบๆ แถวๆ นั้นอีก 43 กิโลเมตร เป็นวันปลายฤดูใบไม้ผลิที่สวยงาม อากาศไม่หนาวไม่ร้อน นอกจากรองเท้านารีสุดสวยแล้ว ตลอดทางปั่นยังเรียงรายด้วยดอกไม้ริมทาง

 

เขตอนุรักษ์ Purdon เป็นพื้นที่อนุรักษ์รองเท้านารีพื้นเมืองของแคนนาดา (Showy Lady's Slipper Orchid) เป็นกล้วยไม้พื้นเมืองที่สวยและดอกใหญ่ที่สุดของกล้วยไม้พื้นเมืองของแคนาดา และต้องขอขอบคุณนักอนุรักษ์ในอดีตที่ช่วยกันเก็บรักษา ทำให้ลูกหลานในปัจจุบันได้ชื่นชมดอกไม้ที่ค่อยๆ สูญหายไปเพราะฝีมือของมนุษย์

ในที่นี้คือนาย Joe Purdon ในช่วงทศวรรษที่ 1930 นาย Purdon ได้ค้นพบต้นรองเท้านารีพื้นเมืองในฟาร์มของเขา ทำให้เขาสนใจศืกษาเกี่ยวกับรองเท้านารีพื้นเมืองอย่างจริงจัง และตลอดเวลา 50 ปี นาย Purdon เป็นผู้ดูแล อนุบาล พื้นที่แห่งนี้ จนรองเท้านารีไม่กี่กอ เจริญเติบโตเต็มทุ่ง และเมื่อยามใกล้ตายก็ยังเป็นห่วง นอนตายตาไม่หลับแน่ๆ นาย Joe Purdon เพื่อที่จะเก็บอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม เขาจึงบริจาคพื้นที่แห่งนี้ให้รัฐบาลดูแล และนี่คือที่มาของเขตอนุรักษ์ Purdon สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ Purdon Conservation Area

 

เป็นรองเท้านารีสีชมพูที่สวยมากมาย

 

“ต้นสี่ฤดู”

ภาพนี้เป็นการยืนยันว่า การวาดรูปสีน้ำสามารถช่วยเพิ่มองค์ประกอบต่างๆ ของความคิด

ช่วยให้มีความคิดริเริ่ม (Originality) มีความคิดแปลกใหม่

ช่วยในด้านความคล่องแคล่ว (Fluency) ช่วยให้มีความคิดที่รวดเร็วไม่หมกมุ่น ไม่คิดวกวน

ช่วยในเรื่องความยืดหยุ่น (Flexibility) ช่วยให้คิดได้หลากหลายมุมมองไม่ซ้ำรูปแบบหรือกรอบคิด แบบเดิม

ช่วยให้เกิดความละเอียดลออ (Elaboration) ช่วยให้มีความพิถีพิถันในการตกแต่งรายละเอียด ช่างสังเกต ในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น หรือมองข้าม

ครบทั้ง 4 ข้อในหนึ่งภาพ

 

..พาฉันโบยบินไปสู่ดวงจันทร์

พาฉันโลดเล่นกับดวงดารา

สองเท้ามาดมั่น ปั่นไปข้างหน้า

เหิรเวหา ตามคว้าไคว่ฝัน

..จะไม่หยุดยั้ง ไม่มีวันหยุดฝัน

หยอกล้อดวงจันทร์ ปลายสุดเวหา

ถึงแม้อยู่ไกล จนสุดสายตา

รอหน่อยนะจันทร์จ๋า ..ฉันจะปั่นไปหาเธอ

          

ถึงเวลาชีพจรลงเท้าอ้อยหวานอีกแล้วค่ะ คงจะห่างหายจากการเขียนบล็อกไปสัก 9-10 อาทิตย์ อ้อยหวานกลับเมืองไทยค่ะ กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ และแน่นอนคือปั่นจักรยานตามเก็บฝัน หากมีเวลาจะแวะทักทายนิดๆ หน่อยๆ จะได้ไม่ลืมเลือนกัน ฝากบ้านสวนแห่งนี้ด้วยนะคะ

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

ความเห็น

สวยทุกรูปเลยค่ะพี่อ้อย รูปลักกี้นี่น่าจะวาดยากนะคะตัวสีขาวแล้ววาดบนกระดาษสีขาวอีก ตาแวววาวเป็นประกายตอนวาดนี่คนวาดแอบมีน้ำตามั้ยน๊าาาา...ตัวที่บ้านนู๋รักก็เดินไม่ค่อยจะไหวแล้วค่ะ แต่กินเป็นพายุเลย surprise 

สวยมาก ภาพวาดดูแล้วสวยงามสบายตา

สวย กลมกลืน กัน ดีทีเดียวค่ะ พี่อ้อย....น้องลักกี้รูปที่วาด เหมือนเศร้า ค่ะ แต่มองนานๆ เหมือนเอาแต่ใจตัวเองค่ะ คือ...ฉันน่ารัก ..แต่อย่ามายุ่งกับฉันมาก นะ งับๆๆๆๆ(เฉพาะที่มิใช่เจ้าของ)

ได้ความรู้สึก และเก็บความทรงจำทีดี smiley

“นานุวัฒน์ ทำเกษตรให้สนุกและมีความสุข”

เห็นด้วยกับพี่อ้อยหวานครับ กลับเมืองไทยถ้าพี่อ้อยหวานจะ Update Status ว่าปัจจุบันอยู่บริเวณไหน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเจอ (ตัวเป็น ๆ) ครับ 55

ไร่สุโขทัยนี้ดี ไร่นี้มีแต่ความสุข

เห็นด้วยกับพี่อ้อยหวานครับ กลับเมืองไทยถ้าพี่อ้อยหวานจะ Update Status ว่าปัจจุบันอยู่บริเวณไหน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเจอ (ตัวเป็น ๆ) ครับ 55

ไร่สุโขทัยนี้ดี ไร่นี้มีแต่ความสุข

ชอบรูปพี่อ้อยกับพี่ททอมนั่งใต้ต้นซากุระคะ วาดพี่ทอมปั่นจักรยานได้ตัวเล็กหุ่นดี ชอบทุกรูปดีกว่า ฮ่่าฮ่าฮ่า

ความสะดวกสบายมีขาย แต่ความสุขเงินซื้อไม่ได้ เพราะความสุขมิใช่เงิน

ความคิดริเริ่ม จะต่างกันมั๊ยกับ จินตนาการ 

เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

น้องหายไปนานกลับมา พี่อ้อยหวานก็ยังคงมีความสุขกับการโพสต์เรื่องราวประสบการณ์ดีๆ ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน แหม่..เหนียวแน่นจริงๆ ค่ะ

ดูรูปพี่อ้อยหวาน ภาพเขียนสีน้ำหลายภาพ สวยๆ ทั้งนั้น น้องเองก็พอจะมีฝีมือวาดภาพอยู่บ้าง เวลาที่ดูก็พยายามคิดตาม จินตนาการวาดตามในใจ แต่มีอยู่ภาพเดียวที่ไม่สามารถวาดตามได้เลย ก็คือ เจ้าสุนัขสีขาวตัวนี้ สรีระ กายวิภาคของสิ่งมีชีวิต ถ้าไม่ตีสเกล ก็วาดตามยากจริงๆ พี่อ้อยหวานเก่งมากเลย

    ภาพเขียนสถานที่ๆ พี่อ้อยหวานได้ไปมา บวกกับคำบรรยาย น้องอ่านแล้วชอบมาก เกิดนึกไอเดียว่า จะเขียนเรื่องราวความทรงจำของเรา เอาไว้ติดฝาผนังห้องนอนบ้าง ขอบคุณสำหรับไอเดียนะคะ

ฝีมือดีจัง กำลังหาเรื่องดีๆ ที่เหมาะกับตัวเองอยู่เลย ทำงานเครียดมากค่ะ