พาเที่ยวสวนภูพนา อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

เดือนนี้เป็นเดือนเกิดของพ่อ ตั้งใจไว้ว่าจะหาซื้อหน้าวัวพันธุ์ใหม่ๆไปให้เป็นของขวัญ กลับบ้านมาเมื่ออาทิตย์ก่อน เห็นแกขยายพันธุ์เอาไว้มากต้นแต่ก็ไม่หลากหลายสายพันธุ์ คิดว่าหลังจากเสร็จภาระกิจงานบุญที่อ.คอนสาร จะเลยไปที่สวนภูพนาอ.น้ำหนาว เพื่อเสาะหาหน้าวัวสายพันธุ์แปลกๆมาให้แกเพาะเลี้ยงดู

ดอกหน้าวัวที่บ้านเพิ่งสังเกตุเห็นว่าแกคงใส่ดินเข้าไปในกระถางด้วย ได้รับทราบข้อมูลมาจากคุณพนา สวัสดิบุตร เจ้าของสวนภูพนาปราชญ์เกษตรของแผ่นดินจ.เพชรบูรณ์ ว่าควรใช้แต่วัสดุเพาะจำพวกกาบมะพร้าวหรืออื่นๆไม่ควรใส่ดินลงในกระถางปลูก

เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนผมได้หลงทางผ่านไปอำเภอน้ำหนาวแบบไม่ตั้งใจ(ตั้งใจจะไปนอนที่ อช.น้ำหนาว) และได้แวะพักค้างแรมที่ไร่สินติ้ง ที่พักน่ารักบนเขาอีกแห่งหนึ่งของอ.น้ำหนาว และขากลับก่อนจะถึงตัวอำเภอน้ำหนาวประมาณไม่เกินหนึ่งกิโลเมตรได้ขับผ่านสวนภูพนา เห็นป้ายแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรติดอยู่จึงได้แวะเข้าเยี่ยมชม คุณลุงพนาได้ออกมาต้อนรับและพาชมสวนด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดีเยี่ยม แม้จะพบเจอกันเป็นครั้งแรกพอพูดคุยภาษาต้นไม้ทำให้มีความสนิทสนมอย่างรวดเร็ว (คิดไปเอง ความจริงท่านเป็นคนที่มีนิสัยเช่นนี้เอง)

คุณลุงพนาพาเดินชมสับปะรดสีสายพันธุ์ต่างๆมากมาย

ตอนนั้นต้องท่องอยู่ในใจซ้ำว่า "โฟกัสๆ" (ผมตั้งใจไว้ว่าจะไม่ปลูกไม้ดอก)

แกคงได้ยินเสียงพึมพัม เลยพาเดินมาชมอีกโรงเรือนที่ปลูกแอฟริกันไวโอเล็ต (หลากหลายสายพันธุ์อีกแล้วครับท่าน)

"โฟกัสๆ" และก็

แถมให้อีกช่อ

ถึงตอนนี้ผมคงเปล่งเสียงลอดไรฟันออกมาแล้ว คุณพนาจึงพาไปชมโรงเรือนหน้าวัว ซึ่งถือได้ว่าแกเป็นมือหนึ่งของเมืองไทย นอกจากจะเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ไทยโบราณแล้ว แกยังผสมสายพันธุ์ใหม่ๆขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ

มีเกล็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม คุณพนาเคยประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2538 สวนหน้าวัวเสียหายมูลค่านับแสน แกจึงตัดสินใจย้ายมาตั้งหลักปักฐานที่อ.น้ำหนาวตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 และอีกเจ็ดปีต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่นของภาคเหนือด้านไม้ดอกไม้ประดับ ที่สวนยังเป็นศูนย์เรียนรู้และฝึกงานให้แก่นักศึกษาจากหลายสถาบัน

จากนั้นก็ถึงคิวเปิดตัวพระเอกของสวน โรงเรือนหน้าวัว

ที่เห็นต้นใหญ่ๆทางขวามือนั่นคือพันธุ์ไทยโบราณ ที่เหลือก็เป็นพันธุ์ลูกผสม

ได้ความรู้อีกอย่างที่เคยถามพ่อว่าเคยผสมเกษรเองบ้างมั๊ย คุณพนาบอกว่าดอกหน้าวัวจะมีเกษรตัวผู้เฉพาะหน้าหนาว การที่สวนตั้งอยู่ที่น้ำหนาวทำให้มีโอกาสผสมเกษรเพื่อปรับปรุงพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี 

ลักษณะดอกหน้าวัวที่ดี กลีบที่เว้าต้องเข้ามาชิดกันและเกษรมีความยาวพอดีกับปลายกลีบดอก

ท่องไว้ในใจ "โฟกัสๆ"

อันนี้หละที่ตั้งใจมาซื้อไปฝากพ่อ เป็นของขวัญวันเกิด

แกถามว่าผมปลูกอะไรอยู่ พอบอกว่าสมุนไพรกับไม้แปลกๆ แกรีบพาไปชม"ว่านสาวหลง" กลิ่นคล้ายๆหมุยหอม หรือโปร่งฟ้า แถมยังให้ดูว่านค้างคาวดำสองสามต้นที่กำลังติดฝักแก่อยู่

และก็นี่"ชาลุงโฮ" จากนครพนม บอกว่าลุงโฮเอาเมล็ดติดตัวมาด้วยตอนอพยพมาเมืองไทย

ต้นเคพกูสเบอร์รี่ที่กำลังออกลูก

ขอให้คุณพนาเลือกหน้าวัวให้สองสายพันธุ์ เพื่อเอาไปฝากพ่อ

ได้มาแล้วสองต้น อีกสองต้นไม่ต้องสงสัย "ทับทิมสยาม" หน้าวัวสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่หมายตาเอาไว้นานแล้ว

สุขใจทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย เด็กไม่อยู่คุณพนาก็จัดการห่อให้เองเลย แถมคิดราคาซะผมเข่าอ่อน(ถูกมากๆครับ เนื่องจากที่นี่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ส่งให้ตลาดต้นไม้)

แถมท้ายด้วย"ตะไคร้ต้น" เทพทาโรหรือจวงหอมที่ผมได้รับน้ำใจจากพี่ศักดิ์(คุณพุทธบุตร)หอบหิ้วมาจากเมืองตรัง สังเกตุว่าใบไม่เหมือนกันทีเดียว ต้องรอดูต่อไปเพราะที่ได้มาจากตรังต้นเล็กมาก ก็เป็นข้อมูลสำหรับคนที่เสาะหาแหล่งจำหน่ายอยู่นะครับ

คุณพนายังได้นำท่อนไม้"ตะไคร้ต้น" มาให้พิสูจน์กลิ่นด้วย

สมาชิกท่านใดผ่านไปแถวอ.น้ำหนาวอย่าลืมแวะเวียนไปเที่ยวชมสวนภูพนาให้ได้นะครับ ขับเลยตัวอำเภอไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรจะเห็นสวนทางซ้ายมือ จะได้รับความรู้และความเพลิดเพลินอย่างมากมาย ส่วนท่านที่ชอบถ่ายรูปดอกไม้รับรองว่าจะลืมเวลาไปเลยครับ