มาตามคำขอคุณโสทร

เคยเล่าเรื่องต้นไม้หลายอย่างให้คุณโสทรฟัง 2 ต้นนี้ คุณโสทรอยากเห็น ที่จริงเคยเอาลงให้ดูแล้ว 1 ต้น ครั้งนี้จะให้ดูครบทั้งสองต้น เป็นต้นไม้ที่มีชื่อพ้องกัน ทำให้เกิดการสับสนเป็นอย่างมาก แม้แต่นักวิชาการทางด้านต้นไม้โดยตรงยังสับสนเลย ลองดูนะครับ ใครมีข้อมูลโต้แย้ง หรือแนะนำเพิ่มเติมเชิญได้เต็มที่เพื่อความถูกต้อง

ต้นแรกเท้ายายม่อม (Tacca leontopetaloides) ต้นนี้ชื่อสามัญภาษาอังกฤษยังสับสนมาก

รูปนี้เคยลงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เป็นที่ใบหยักๆนะครับ และจะเห็นดอกที่มีหนวดคล้ายดอกว่านค้างคาว

เท้ายายม่อมจะมีหัวกลมๆอยู่ในดินใช้ทำแป้งเท้ายายม่อมสำหรับทำขนมไทยหลายชนิด

(รูปนี้เป็นต้นที่ปลูกไว้เอง ตอนนี้ยุบตัวเหลือแต่หัวใต้ดิน)

ต้นนี้ชื่อไม้เท้ายายม่อม (Clerodendrum petalsites) แต่บางที่ก็เรียกเท้ายายม่อมเหมือนต้นข้างบน ชื่ออื่นๆได้แก่ ไม้เท้าฤาษี พญารากเดียว

ดูใบให้ชัดๆ

(รูปไม้เท้ายายม่อมนี้ถ่ายมาจากกรมป่าไม้)

2 ต้นนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คือเท้ายายม่อมที่ใช้ทำแป้ง(ต้นแรก)เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนเท้ายายม่อมต้นที่ 2 ที่มีดอกสีขาวนี้ เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ประโยชน์ใช้ทำยาสมุนไพร

ความเห็น

ใบคล้ายๆต้นบุก(เขียนถูกหรือเปล่า)ค่ะ

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

ส่วนต้นที่สองไม่มีค่ะ

เคยอ่านพบในเอกสารเกี่ยวกับว่านเหมือนกัน น่าสนใจดี

มีชื่อพันธุ์ไม้หลายชนิด ชวนสับสน

ล่าสุด สับสนเรื่องพระเจ้าห้าพระองค์ ซึ่งมีทั้งที่เป็นไม้ใหญ่ยืนต้น พูพอนขนาดใหญ่ อยู่ในป่า

ให้เมล็ดออกมาเป็น "วัตถุมงคล" กับว่านพระเจ้าห้าพระองค์ ซึ่งเขาว่ากันว่า เป็นไม้เถา --

แต่ทั้งหมดนี้ ปุ๋ยก็ยังไม่รู้จริงนะคะ ต้องศึกษา และถามผู้รู้ต่อไปค่ะ Smile

 

 

ไม่รู้จักทั้ง 2  อย่าง   ก็รู้ว่าถ้าธรรมดา ทั่วๆไป  คุณสุรพลไม่ปลูก

อยากได้ตำนานที่พี่เล่าให้ผมฟัง ลองค้นใน google แล้วไม่เจอครับ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสองผัวเมียคู่หนึ่งชื่อ ยายม่อมและตาแม้น ทั้งสองเป็นชาวประมงแต่มีอาชีพเสริมด้วยการทำขนมขาย ขนมของยายม่อมเป็นที่เลื่องลือในความอร่อยและราคาถูก อยู่มาวันหนึ่งยายม่อมออกไปขายขนมตามปกติ ตั้งแต่เช้าแต่ค่ำแล้วยายม่อมก็ยังไม่กลับบ้าน ตาแม้นรู้สึกเป็นห่วงเมียสุดที่รักเป็นอย่างยิ่ง จึงออกตามหา จนกระทั่งมาพบว่ายายม่อมถูกโจรป่าฆ่าตายเสียแล้ว ตาแม้นพบแต่เพียงขาข้างขวาของยายม่อม เหตุที่รู้ว่าเป็นขาของยายม่อมเพราะยายม่อมมีนิ้วเท้าข้างขวา 6 นิ้ว ตาแม้นได้แต่เศร้าโศรกเสียใจและได้นำเท้าขวาของยายม่อมไปฝังไว้ ตั้งแต่ยายม่อมตายไปตาแม้นไม่เป็นอันทำมาหากิน ร่างกายผ่ายผอมเพราะไม่ได้กินอาหาร ด้วยความหิวโซตาแม้นเดินหมดอาลัยตายอยากไปที่ฝังเท้ายายม่อม ซึ่งบัดนี้ได้มีต้นไม้แปลกประหลาดงอกขึ้นมาสูงจากพื้นดินพอประมาณ ใบหยักๆสีเขียวอ่อน มีดอกเป็นช่อยาวและมีหนวดเขียวๆห้อยลงมาดูแปลกตา ตาแม้นคิดว่านี่ต้องเป็นยายม่อมเป็นแน่แท้ ตกกลางคืนวิญญาณยายม่อมมาเข้าฝันขอให้ตาแม้นมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อดูแลลูกที่พิการที่มีอยู่ 1 คนต่อไป โดยบอกให้ตาแม้นนำพืชที่ตาแม้นพบไปใช้ประโยชน์ เอาไปทำขนมกิน รุ่งเช้าตาแม้นจึงเอาจอบไปขุดตรงที่ฝังเท้ายายม่อม ขุดไปไม่เท่าไหร่ก็เจอลูกกลมๆคล้ายหัวมัน จำนวน 6 หัว ยิ่งทำให้ตาแม้นมั่นใจว่าเป็นยายม่อมแน่ๆ (เพราะยายม่อมมีนิ้วเท้าข้างขวา 6 นิ้ว) ตาแม้นนำหัวเท้ายายม่อมกลับบ้าน ทำเป็นขนมกิน โดยกวนกับน้ำตาล กินกันสองคนพ่อลูก ไม่นานทั้งสองรู้สึกว่ากระชุ่มกระชวย มีกำลังวังชาขึ้นมา สองพ่อลูกจึงรับรู้ถึงความรักและความห่วงใยของยายม่อม ตาแม้นนำหัวเท้ายายม่อมที่เหลือจากทำขนมไปปลูกขยายพันธุ์(แบ่งให้ผมด้วยหัวนึง..หิหิ)และหมั่นรดน้ำพรวนดินต้นเท้ายายม่อมด้วยความรักและทะนุถนอม...เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

หมายเหตุ ย่อและดัดแปลงเล็กน้อย จากเรื่อง คุณยายม่อม www.songsaijang.com 

เหมือนได้อ่านนิทานเลย

ชื่อแปลกอีกแล้ว เท้ายายม่อม เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยิน ว่าแป้งเท้ายายม่อมใช้ทำขนม เมื่อตอนกลับบ้านใหม่ ๆ ก็ไม่ได้สนใจ ก็คิดว่าเหมือนลูกแป้งธรรมดา วันนี้ได้รู้จักต้นเท้ายายม่อมเพิ่มขึ้น ได้ความรู้เพิ่มขึ้นทุกวัน จะติดตามข้อมูล จากคุณสุรพลค่ะ

....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....

อ่านตำนานเพลินเลยค่ะ มีแบ่งให้คุณสุรพล 1 หัวด้วย ไปหาตาแม้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

แถวบ้านก็มีรูปแบบเดียวกับรูปแรกค่ะ ท้าวยายม่อม แต่เรียกว่าบุก

เรียกว่าบุกรอ เหมือนที่ชุมพรหรือเปล่าครับ แล้วบุกที่คุณแจ้วพูดถึงคงไม่ใช่บุกแบบนี้ใช่มั๊ย

 

เพราะต้นนี้คือบุกจริงๆ ดูใบให้ดีจะเห็นว่าแตกต่างจากเท้ายายม่อม(บุกรอ)

ถ้าขุดดูหัวจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะหัวเท้ายายม่อมเป็นหัวค่อนข้างกลมเล็กกว่าหัวบุกมาก

ที่แตกต่างอีกอย่างคือ ดอกของเท้ายายม่อมจะคล้ายดอกว่านนางครวญ(ดังรูป)

หน้า