คนตกปลา

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เช้าแล้วหรือนี่   ??

ลมเย็นๆที่พัดผ่านแนวฝนมาจากทางทิศตะวันตกแรงจนได้ยินเสียงกระพือของริ้วผ้าม่านลูกไม้โปร่งที่ริมหน้าต่างซึ่งโบกพลิ้ว ปลิวสะบัดล้อเล่นลมแรงๆ  ในยามเช้าต้นฤดูฝนที่บ้านนาของฉัน


ฉันลุกขึ้นบิดขี้เกียจและสะบัดเจ้าตัววายร้ายที่เกาะอยู่ตามแข้ง ขา หน้า หลัง อย่างรวดเร็ว   ได้ผลค่ะ.... มันหลุดกระเด็นออกไปตั้งสี่ตัว   !!!


ทำไมน้ำที่บ้านนอกมันเย็นอย่างนี้นะ ?   ฉันถามตัวเองดังๆแบบนี้     อาจเป็นไปได้ว่าน้ำประปาที่บ้านนอกทำมาจากน้ำฝนซึ่งตกมาทั้งคืน   น้ำที่บ้านนอกจึงเย็นกว่าน้ำในกรุง  แต่ถึงจะเย็นแค่ไหน ฉันก็อาบน้ำแต่งตัวและมาทานอาหารเช้าด้วยความสดชื่น


ถั่วเขียวถูกเพาะไว้เมื่อสองวันที่แล้ว  อันนี้พี่หยอยสอนให้เพาะค่ะ   

วิธีการคือเอาถั่วเขียวแช่ในน้ำร้อน แล้วหลังจากนั้นก็ใส่ไว้ในภาชนะที่เป็นรูๆเพื่อให้รากโผล่ออกมาได้ และคลุมทับด้วยผ้าที่ต้องมีความชื้นตลอดเวลา เก็บไว้ในที่มืดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง  จากถั่วเขียวเม็ดกลมๆที่ควรจะเป็นขนมหวาน ก็กลายเป็นถั่วงอกซึ่งกลายเป็นกับข้าวมื้อเช้าของฉันค่ะ



 

เลือดหมู สองก้อนห้าบาท   ผัดได้จานโตกินได้ทั้งบ้าน    ใส่ต้นหอมหั่นยาวๆเพิ่มความเขียวสักสี่ ห้าต้น   กินแกล้มกระเทียมโทนสดและพริกขี้หนูหอมเม็ดเล็กๆ 

เผ็ดซี๊ดดด ชูรสอาหารดีค่ะ

 

ฉันใช้เวลาว่างในช่วงกลางวันของต้นฤดูฝนหมดไปอย่างสุรุ่ยรุร่ายวันแล้ววันเล่า  

แต่ในวันอากาศดีเช่นนี้ ฉันอยากบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์บ้าง จึงเดินสำรวจรอบบ้านว่าพอมีอะไรที่ให้ทำได้บ้าง 

ฉันมองเห็นแท่งไม้ไผ่เล็กๆกำลังเหมาะมือ สอง สาม อัน เสียบไว้บนคานหลังคาโรงนา   จึงปีนขึ้นไปหยิบลงมาดู พร้อมถามคนข้างเคียงว่าเป็นไปได้ไหมถ้าวันนี้ฉันจะเป็นคนตกปลา  !!


ใช่แล้วค่ะ   วันนี้ฉันจะเป็นผู้อาสาหาอาหารมื้อเย็นเอง  จำไม่ได้ว่าฉันทำบาปครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่   เพราะทุกครั้งที่ได้ถือคันเบ็ด ฉันไม่เคยตกปลาได้ตัวใหญ่เกินนิ้วโป้งเลยสักที  แม่เคยบอกว่าฉันคงจะทำบาปไม่ขึ้น   แต่นั่นก็มันนานมาแล้ว  วันนี้ฉันนึกสนุกอยากออกไปตกปลาในแม่น้ำป่าสักกลางฤดูฝนค่ะ 


ไส้เดือน !!!!   ฉันร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินทุกคนบอกว่าต้องไปขุดไส้เดือนเพื่อเอาไปเป็นเหยื่อ... จะเป็นไปได้อย่าไร   ในเมื่อฉันทั้งเกลียดทั้งกลัวไส้เดือนอย่างกับอะไรดี    แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรกับการที่จะให้ฉันจับไส้เดือนมาเกี่ยวเบ็ด  !


ในที่สุด ก็มีอัศวินขี้ม้าขาวขันอาสาขุดไส้เดือนให้ค่ะ   และยังรับอาสาต่อว่าจะเกี่ยวเบ็ดให้ฉันตลอดการตกปลาวันนี้   ก็เป็นอันว่ากระบวนการของคนบาปกำลังจะเริ่มต้น  ณ บัดนาว 


“ฉันนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่ง”    .......แต่ เอ....จะบอกว่า “นั่ง”   ก็ไม่ถูกนะคะ  เพราะฉันไม่กล้านั่งค่ะ  เหตุที่ไม่กล้านั่งเพราะกลัวกระป๋องไส้เดือนมันจะหกคว่ำลงมาค่ะ และแน่นอนว่าในระหว่างที่ฉันนั่งลุ้นเบ็ดอยู่นั้น  หากกระป๋องเหยื่อมีอันต้องคว่ำลงมา ฉันคงไม่ได้ยินเสียงภัยมืดที่ค่อยคลืบคลานยั้วเยี้ยมาหาฉัน   วินานั้นฉันไม่อยากคิดเลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น        อย่ากระนั้นเลย  ฉันยืนดีกว่า  ฉันก็เลยต้องทนเมื่อยขาอยู่เป็นหลายชั่วโมง !! (กรรมตามสนองทันที ตั้งแต่เริ่มต้นทำบาป)   


วันนี้ฉันได้เป็นคนบาปสมใจนึกแล้วค่ะ    เมื่อฉันรู้สึกได้ว่าที่ปลายไม้ไผ่เหมือนมีอะไรมาหน่วงๆ  เหยื่อกระตุกทุ่นลอยน้ำที่ทำจากโฟมชิ้นเล็กๆกระเพื่อมไปมาเป็นจังหวะ   ในเสี้ยววินาทีนั้นเองฉันก็ไม่รู้ว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง   แต่คงเพราะเป็นสันชาติญานของนักล่าที่มีอยู่ในตัวของทุกชีวิตก็ได้นะคะ   ฉันกระตุกทีเดียวเบาๆและออกแรงอีกที ฉันก็ได้ส่งเสียง เฮดังลั่นคุ้งน้ำ  เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตสีขาวตัวใหญ่ขนาดข้อมือกำลังดิ้นรนเพื่อหาอิสรภาพอยู่ที่ปลายไม้อีกด้านหนึ่งของฉัน 


ทุกคนวิ่งมาล้อมวงที่ปลาโชคร้ายตัวนั้น   มือแข็งแรงของใครคนหนึ่งก็จับอย่างมั่นเหมาะเข้าที่กลางลำตัวปลาและค่อยๆแกะตัวเบ็ดที่เกาะเกี่ยวอยู่ระหว่างปากครึ่งจมูกครึ่งออกมาจากตัวปลา 


ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่เคยตกปลาได้ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย  จึงไม่มีประสบการณ์เช่นนี้  ครั้งนี้ฉันก็ไม่กล้าแกะเบ็ดด้วยตัวเองค่ะ   เพราะปลาดิ้นจนฉันจับไม่อยู่  และที่ร้ายยิ่งกว่านั้นคือเหยื่อไส้เดือนที่ถูกเกี่ยวไว้กับเบ็ดก็ยังอยู่ที่เดิมเพียงแต่มันถูกย้ายเข้าไปอยู่ในปากปลาเคราะห์ร้ายตัวนั้นเท่านั้นเอง      ก็เลยไม่รู้ว่าที่ฉันไม่กล้าแกะเบ็ดเป็นเพราแกะไม่เป็น หรือกลัวไส้เดือนกันแน่ !!


แกงส้มปักษ์ใต้หม้อใหญ่ แต่ถูกปรุงที่ทางเหนือส่งกลิ่นหอมกรุ่นชวนให้หิวในเวลามื้อเย็นเช่นนี้      

 ฉันได้แต่มองเนื้อปลาที่ถูกหั่นเป็นท่อนๆกลายเป็นสีเหลืองอ่อนจากขมิ้นซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของพริกแกง   แต่ถึงจะชวนให้ลองลิ้มชิมรสแค่ไหน   ฉันก็ไม่กล้าแม้แต่จะชิมน้ำแกง  เป็นเพราะว่าภาพแห่งความทรงจำตั้งแต่เมื่อเช้าถูกฉายขึ้นมาอย่างชัดเจนค่ะ   


ฉันนึกถึงภาพไส้เดือนตัวอ้วนๆ ยาวๆ สีแดงเข้มปนดำ ดิ้นไปดิ้นมาอย่างขนลุกขนพอง   แล้วไหนจะตอนที่มันเข้าไปอยู่ในปากปลาพร้อมเบ็ดอีกหล่ะ    หรือถึงแม้ว่าไส้เดือนถูกกลืนลงท้องปลาไปแล้วก่อนที่ฉันจะแกะเบ็ดออกมา   ฉันก็ไม่แน่ใจว่าฉันจะกล้ากินปลาตัวนี้หรือไม่  เพราะทุกขบวนการของการเป็นนักล่าของฉันในวันนี้ ต่างเกี่ยวข้องกับไส้เดือนทั้งสิ้น  


จึงเป็นอันว่า เย็นนี้ฉันต้องกินข้าวกับไข่เจียว และผัดยอดผักแม้ว ซึ่งฉันแน่ใจได้ว่าคงไม่มีขั้นตอนไหนที่เกี่ยวข้องกับไส้เดือนแน่นอน 

นี่แหละหนาที่พระท่านว่า  ....ให้ทุกข์แก่ท่าน  ทุกข์นั้นถึงตัว...... 

มันปรากฏชัดเจนอยู่เดี๋ยวนี้เองค่ะ !!!

ความเห็น

:confused:ถ้าไม่เล่าพี่กล้ากิน พอเล่า กินไม่ลงเลย:nonono:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

เหมือนกันเลยพี่เล็ก    กลัวไส้เดือน  จนไม่กล้ากินปลา :uhuhuh:

ไม่ชอบตกปลา  เคยถามเด็กว่า  เราตกปลาแบบไม่ใช้เบ็ดได้มั้ย  ใช้เชือกอย่างเดียว  เหยื่อก็เปลี่ยนจากใส้เดือนเป็นขนมปัง  เด็กบอกว่า  ก็เอาหนมปังไปโยนให้ปลากินก็สิ้นเรื่อง  เออ...เนาะ   แค่อยากห็นปลาว่ายมากินเหยื่อ

จริงด้วยสิคะป้าเล้ก   เราคงอยากเห้นแค่ปลากินเหยื่อเท่านั้นเอง  ไม่ได้อยากให้ติดเบ็ดสักหน่อย  อิอิ

Kiss ทำไมไม่ใช่กุ้งสดล่ะน้อง กุ้งเป็นเหยื่อปลาได้ดีทีเดียวนะ


              พี่เก้

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ณ โมเม้นนั้น  หากุ้งฝอยไม่ได้ค่ะ   

มีแต่ปลาร้า กับใส้เดือนให้เลือกค่ะ    เลือกยากทั้งคู่นะคะ  

 เคยดูสารคดี เขาใช้ไส้เดือนทำยา จำไม่ได้แล้วว่าแก้โรคอะไร อย่าไปกลัวเลย เพราะที่กลัวคือเรากลัวใจ(ความคิด)ของตัวเองต่างหาก

พูดง่าย แต่ทำยากจังค่ะลุงโรส  

ว่างๆคงต้องขอคำแนะนำจากลุงโรสเรื่องนี้บ้างแล้วสิคะ

ตกปลาไม่เคยได้ ทำบาปไม่ขึ้นเหมือนกัน แต่ไม่กลัวหรอก..ไส้เดือน

ซื้อเอาง่ายกว่าอีก ไม่ต้องทำเอง ไม่ต้องคิดหนัก..Innocent

Laughingทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาชีวิตน้อยลงทุกวัน

ตอนเด็กน้องก็เคยตกปลาค่ะ ใช้ปลาตัวเล็กเป็นเหยื่อ ไม่ก็ใช้ขนมปังผสมกับกล้วย ตอนเด็กๆ ได้ปลาก็ดีใจค่ะ พอโตมาไม่กล้าทำแล้วค่ะ...สงสารปลา

สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี

หน้า