อานิสงส์การทอดกฐิน
หลังจากออกพรรษามาแล้วก็จะเป็นกาลทำบุญทอดกฐินตามวัดวาอารามต่างๆ โดยภายในเวลาหนึ่งเดือนหลังจากวันออกพรรษา โดยวัดที่จะรับกฐินได้ต้องมีพระภิกษุตั้งแต่ 5 รูปขึ้นไปตามพุทธบัญญัติและสามารถรับกฐินได้ปีละครั้งเท่านั้น และมีใครรู้ไหมว่าอานิสงส์หรือผลของการทำบุญทอดกฐินมีมากน้อยแค่ไหน วันนี้อ่านเจอจึงขออนุญาตลอกมาให้อ่านกัน เพื่อจะได้เป็นกำลังใจสำหรับผู้ที่ได้ทำบุญทอดกฐินในปีนี้และปีต่อๆไปครับ
อานิสงส์การทอดกฐิน และตำนานกล่าวไว้ว่า
๑. ในภพนี้ได้อานิสงส์การทอดกฐินคือ ดังนี้คือ
๑. ได้ช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาไว้ ให้ดำรงค์เสถียรภาพอยู่ตลอดกาลนาน
๒. ได้เพิ่มกำลังกายใจให้แก่พระสงฆ์ผู้เป็นศาสนทายาท สืบอายุพระพุทธศาสนาต่อไป
๓. ได้ถวายอุปการะ อุปถัมภ์บำรุงแก่พระภิกษุสามเณรเป็นมหากุศลอันสำคัญยิ่ง
๔. ได้สร้างต้นเหตุของความสุขไว้
๕. ได้สร้างรากเหง้าแห่งสมบัติทั้งหลายไว้
๖. ได้สร้างเสบียงสำหรับเดินทางอันกันดาลในวัฏฏสงสารไว้
๗. ได้สร้างเกาะสร้างที่พึ่งที่อาศัยอันเกษมแก่ตัวเอง
๘. ได้สร้างเครื่องยึดเหนี่ยวแห่งใจไว้
๙. ได้สร้างเครื่องช่วยให้พ้นจากความทุกข์นานาประการ
๑๐. ได้สร้างกำลังใจอันยิ่งใหญ่ไว้ เพื่อเตรียมตัวก่อนตาย
๑๑. ได้จำกัดมลทินคือ มัจฉริยะออกไปจากขันธสันดาน
๑๒. ได้บำเพ็ญสิริมงคลให้แก่ตน
๑๓. ได้สร้างสมบัติทิพย์ไว้ให้แก่ตน
๑๔. เป็นที่รักใคร่ชอบใจของคนทั้งหลาย
๑๕. มีจิตใจผ่องใสเบิกบาน
๑๖. ได้บริจาคทานทั้งสองอย่างควบกันไปคือ อามิสทาน และธรรมทาน
๑๗. ให้ได้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ เป็นทาน
๑๘. ได้ฝังทรัพย์ไว้ในพระพุทธศาสนา คือทำทรัพย์ภายนอกให้เป็นทรัพย์ภายใน ซึ่งเรียกว่าอริยทรัพย์ คือทรัพย์อันประเสริฐ ๗ ประการ ได้แก่ ศรัทธา ศีล หิริ โอตัปปะ เสตะ จาคะ ปัญญา
๑๙. ชื่อว่ายึดถือไว้ได้ซึ่งประโยชน์ ๒ คือ ประโยชน์ภพนี้ ๑ ประโยชน์ภพหน้า ๑
ที่แสดงมาโดยย่อนี้ เป็นอานิสงส์ในภพปัจจุบัน บวกกับอานิสงส์ในภพหน้าบ้าง
๒. อานิสงส์ในภพหน้านั้นคือ
๑. อทฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค เป็นคนมั่งคั่งสมบูรณ์มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก
๒. อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก เป็นคนสวยน่าดู น่าเลื่อมใส
๓. สสฺสุสา มีบุตรภรรยา บ่าวไพร่ เป็นคนว่าง่ายสอนง่าย
๔. อตฺถ ปริปุรา มีประโยชน์เต็มเปี่ยมในเวลาจะตายและตายไปแล้ว
๕.ได้ประสบพบเห็นแต่รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ล้วนแต่ดีๆ
๖. โภคาภโย ไม่มีภัยแก่โภคทรัพย์
๗. กิตฺติสทฺโท มีชื่อเสียงดี
๘. สุคติปรายโน มีสุคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า
๙. เป็นพลวปัจจัยให้ได้สมบัติ ๓ ประการคือ มนุษย์สมบัติ ๑ สวรรค์สมบัติ ๑ นิพพานสมบัติ
ยกตัวอย่าง ตำนานเรื่องติณณบาลเทพบุตร
มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยดึกดำบรรพ์ ครั้งพระศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า บุรุษชาวเมืองพาราณสีคนหนึ่งเป็นคนเข็ญใจไร้ที่พึ่ง ไปอาศัยสิริธรรมเศรษฐีผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์ นับได้ 80 โกฏิ โดยยอมตนเป็นคนรับใช้ อาศัยอยู่กินหลับนอนในบ้านท่านเศรษฐี ๆ ถามว่า "เธอมีความรู้อะไรบ้าง?" เขาตอบอย่างอ่อนน้อมว่า "กระผมไม่มีความรู้เลยขอรับ" ท่านเศรษฐีจึงถามว่า "ถ้าอย่างนั้นเธอจะรักษาไร่หญ้าให้เราได้ไหม? เราจะให้อาหารวันละหม้อ" เพราะความที่เขายากจน บุรุษนั้นจึงตอบตกลงทันที แล้วเข้าประจำหน้าที่ของตนต่อไป และมีชื่อว่า ติณบาล เพราะรักษาหญ้า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นไป
วันหนึ่งเป็นวันว่างงาน เขาจึงคิดว่า "ตัวเรานี้เป็นคนยากจนเช่นนี้เพราะไม่เคยทำบุญอันใดไว้ในชาติก่อนเลย มาชาตินี้จึงตกอยู่ในฐานะผู้รับใช้คนอื่นไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีสมบัติติดตัวแม้แต่น้อย" เมื่อคิดดังนี้แล้วเขาได้แบ่งอาหารที่ท่านเศรษฐีให้ ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งถวายแก่พระสงฆ์ผู้เที่ยวบิณฑบาต อีกส่วนหนึ่งเอาไว้สำหรับตนเองรับประทาน ด้วยเดชกุศลผลบุญอันนั้น ทำให้ท่านเศรษฐีเกิดสงสารเขา แล้วให้อาหารเพิ่มอีกเป็น 2 ส่วน เขาได้แบ่งอาหารเป็น 3 ส่วน ถวายแก่พระสงฆ์ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งให้แก่คนจนทั้งหลาย ส่วนที่สามเอาไว้บริโภคสำหรับตนเอง เขาทำอยู่อย่างนี้เป็นเวลาช้านาน
ต่อมาเป็นวันออกพรรษา เหล่าชนผู้มีศรัทธาต่างพากันทำบุญกฐินเป็นการใหญ่ แม้ท่านเศรษฐีผู้เป็นนายของเขาก็เตรียมจะถวายกฐิน จึงประกาศให้ประชาชนทั้งหลายทราบโดยทั่วกันว่า สิริธรรมเศรษฐีจะได้ทำบุญกฐินเมื่อติณบาลได้ยินก็เกิดความเลื่อมใสขึ้นในใจ ทันทีว่า กฐินทานนี้แหละจะเป็นทานอันประเสริฐ แล้วเข้าไปหาท่านเศรษฐีถามว่า "กฐินทานมีอานิสงฆ์อย่างไรบ้าง?" เศรษฐีตอบว่า "มีอานิสงฆ์มากมายหนักหนาสมเด็จพระบรมศาสดาทรงตรัสโถมนาการ สรรเสริญว่าเป็นทานอันประเสริฐ"
เมื่อเขาได้ทราบดังนี้แล้ว ก็มีความโสมนัสปลาบปลื้มเป็นอันมาก จึงพูดกับเศรษฐีว่า "ผมมีความประสงค์ที่จะร่วมอนุโมทนาในการบำเพ็ญทานครั้งนี้ด้วย ท่านจะเริ่มงานเมื่อไรขอรับ?" ท่านเศรษฐีตอบว่า "เราจะเริ่มงานเมื่องครบ 7 วัน นับจากวันนี้ไป" ติณบาลได้ฟังดังนั้นก็ดีใจยิ่งนัก ได้กลับไปยังที่อยู่ของตน แล้วเกิคความคิดว่า เราไม่มีอะไรเลย แม้ผ้าผืนเดียว เราจะทำบุญร่วมกับท่านเศรษฐีได้อย่างไร เขาครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน ยิ่งคิดไปก็ยิ่งอัดอั้นตันปัญญา หาสิ่งที่จะร่วมอนุโมทนากฐินกับท่านเศรษฐีไม่ได้ ในที่สุดเขาได้เปลื้องผ้านุ่งของตนออกพับให้ดี แล้วเย็บใบไม้นุ่งแทน แล้วเอาผ้านั้นไปเร่ขายในตลาด ชาวตลาดทั้งหลายเห็นอาการเช่นนั้น ก็พากันหัวเราะกันออกลั่นไปเขาชูมือขึ้นแถลงว่า "ท่านทั้งหลายหยุดก่อน อย่าหัวเราะข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้ายากจนไม่มีผ้าจะนุ่ง จะขอนุ่งใบไม้แต่ในชาตินี้เท่านั้น ชาติหน้าจะนุ่งผ้าทิพย์" ครั้นพูดชี้แจงแก่ประชาชนชาวตลาดดังนี้แล้ว เขาได้ออกเดินเร่ขายเรื่อยไป ในที่สุด เขาได้ขายผ้านั้นในราคา 5 มาสก (1 บาท) แล้วนำไปมอบให้ท่านเศรษฐีๆ ได้ใช้ซื้อด้ายสำหรับเย็บไตรจีวร ในกาลครั้งนั้นได้เกิดโกลาหลทั่วไปในหมู่ชน ตลอดถึงเทวดาในฉกามาพจรสวรรค์
ฝ่ายพระเจ้าพาราณสีทรงทราบเหตุผล จึงรับสั่งให้นำติณบาลเข้าเฝ้า แต่เขาไม่ยอมเข้าเฝ้าเพราะละอาย จึงได้ตรัสถามความเป็นไปของเขาโดยตลอดแล้ว ทรงให้ราชบุรุษนำผ้าสาฎกราคาแสนตำลึงไปพระราชทานแก่เขา นอกจากนั้นได้พระราชทานบ้านเรือน ทรัพย์สมบัติ ช้าง ม้า วัว ควาย ทาสี ทาสา เป็นอันมากแล้วโปรดให้ดำรงตำแหน่งเศรษฐีในเมืองพาราณสี มีชื่อว่า ติณบาลเศรษฐี จำเดิมแต่บัดนั้นเป็นไป
ครั้งต่อกาลนานมา ติณบาลเศรษฐีเมื่อดำรงชีวิตอยู่พอสมควรแก่อายุขัยแล้ว ก็ตายไปเกิดเป็นเทพบุตรในดาวดึงส์พิภพ เสวยสมบัติทิพย์อยู่ในวิมานแก้ว สูงได้ 5 โยชน์ มีนางเทพอัปสรหมื่นหนึ่งเป็นบริวาร ส่วนสิริธรรมเศรษฐี ครั้นตายจากโลกมนุษย์แล้วได้ไปเกิดในดาวดึงส์สวรรค์ มีนางฟ้าเป็นบริวาร เช่นเดียวกันกับติณบาลเศรษฐี
ได้แสดงเรื่องกฐินมาก็สมควรแก่เวลา แล้วจึงสรุปใจความได้ดังนี้
๑. กฐิน เป็นสังฆทาน เป็นกาลทานที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้
๒. กฐิน ให้เกิดประโยชน์ คืออานิสงส์แก่พระสงฆ์และทายกทายิกาผู้ถวาย ดังที่แสดงมาแล้ว
๓. กฐิน เป็นพลวปัจจัยให้ได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ เช่น ติณณบาลเทพบุตร และนางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นตัวอย่าง
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก
http://www.obm16.com/index.php?topic=941.0
ขอบคุณบ้านสวนพอเพียงที่ให้โอกาสผมได้แบ่งปันครับ
- บล็อกของ สนิทเมืองอุดร
- อ่าน 4758 ครั้ง
ความเห็น
แจ้ว
22 ตุลาคม, 2011 - 17:46
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ค่ะ ทอดกฐินไปหลายวัดแล้วเหมือนกัน วันละ 10 บาท 20 บาทแค่รู้ว่าได้ทำบุญ วันนี้ได้อ่าน....ข้อความที่เป็นประโยชน์....
บุญพา
22 ตุลาคม, 2011 - 18:07
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
รู้แค่ว่าทำบุญ บางคนบอกว่าต้องทำบุญทอดกฐินให้ครบ 9 วัด
แต่..ไม่เคยรู้ว่าอนิสงฆ์ที่จะได้รับมีอะไรบ้าง ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาชีวิตน้อยลงทุกวัน
ralita
22 ตุลาคม, 2011 - 19:32
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
:admire2: :admire2:
jo korakod
22 ตุลาคม, 2011 - 19:41
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง แล้วแต่จังหวะจ้า
แต่ขอบคุณข้อมูลค่ะ
facebook https://www.facebook.com/ninkmax
ป้าลัด
22 ตุลาคม, 2011 - 21:52
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
วันนี้ป้าก็ได้ไปทอดกฐินที่ วัดเขาแตงอ่อน อ.ศรีราชา มาค่ะ ขอบคุณนะคะ :cute:
สาวน้อย
22 ตุลาคม, 2011 - 22:13
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
พรุงนี้จะไปทอดกฐิน...ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ..ยังไม่ทราบละเอียดขนาดนี้..
ชีวืตที่เพียงพอ..
สมศักดิ์ชาประเสริฐ
23 ตุลาคม, 2011 - 06:13
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
ที่บ้านผมตักบาตรเทโวและทอดกฐินสามัคคีได้เงินหนึ่งแสนเก้าหมื่นบาท
ป้าเล็ก..อุบล
23 ตุลาคม, 2011 - 07:55
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
วันนี้ ได้ร่วมทำบุญทอกฐินแล้วค่ะ
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
สมจิต
23 ตุลาคม, 2011 - 09:40
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
ตอนไปเยี่ยมยายพี่ก็ได้ร่วมทอดกฐินแล้วค่ะ
นู๋หวึ่ง
23 ตุลาคม, 2011 - 17:10
Permalink
Re: อานิสงส์การทอดกฐิน
บ้านข้อยไกลวัด บ่ได้ทอดเลย
ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้
หน้า