ส่งการบ้านลุงพี..เก็บพิลังกาสามาทำไวน์

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ตั้งแต่เข้าบ้านสวนพอเพียงมา..ทำให้ได้ศึกษาค้นคว้าไม่มีที่สิ้นสุด..หลาย ๆการบ้านที่ส่งคุณครูยังไม่ถึงครึ่งของวิชาทั้งหมดที่อยากลองเรียนรู้เลย...วันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวิชาที่ใช้เวลามาประมาณ 1 เดือนแล้ว..ขอส่งให้ครูและทุกท่านช่วยตรวจนะคะ...แรงบันดาลใจเริ่มจากที่บ้านเปรี้ยว-ส้ม มีพิลังกาสาออกลูกเต็มต้น เจ้าของมัววุ่นกับการเรียนป.โทและสอนเด็กๆ สาวน้อยเลยถือโอกาส เอามาทำการบ้านเสียเลย...มาเริ่มด้วยกันนะคะ..*-*



วัตถุดิบแรกนะคะ  ลูกพิลังกาสาสุกน้อยใช้ประมาณครึ่งกก. ลวกผ่านน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค..ก่อนนำมาคั้นเอาแต่น้ำ



สับปะรด..ตอนปรึกษาลุงพีบอกว่าให้ใช้สับปะรดฉ่ำๆ เพื่อให้ไวน์มีกลิ่นหอม..ตอนซื้อมาคงไม่ฉ่ำมาก..*-*..ใช้  เนื้อสับปะรด ครึ่งกิโลเช่นกันค่ะ



ส่วนอุปกรณ์ต่างๆก็ลวก เช่นกัน..



ที่นี้ก็มาคั้นสับปะรด(ใช้น้ำต้มสุกประมาณ 500  ซีซี)



เช่นเดียวกับพิลังกาสาใช้น้ำคั้นได้น้ำพิลังกาสาประมาณ 500 กรัม



เทส่วนของหัวเชื้อ (น้ำพิลังกาสาและสับปะรด)ลงในโหลแก้ว และเตรียมน้ำเชื่อมโดยใช้น้ำแร่ 2ลิตรตั้งไฟ เติ่มน้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม จนน้ำตาลละลาย ตั้งทิ้งไว้ให้อุ่น



แล้วนำมาเทในหัวเชื้อผลไม้..ทีนี้ก็เหลือวิธีเตรียมยิสต์นะคะ..ระหว่างรอให้น้ำผลไม้ที่เตรียมไว้เย็นลงประมารอุณหภูมิห้อง



วิธีการเตรียมยิสต์..ทำไปเปิดบล็อกลุงพีไป ตามนี้เลยค่ะ


  " การเตรียมเชื้อยีสต์สำหรับทำไวน์ ผมเลือกใช้ยีสต์ผงของ Red Star ชนิด Premier Curvée แทนที่จะใช้ Pasteur Champagne ซึ่งเหมาะสำหรับการทำไวน์ผลไม้เพราะว่าเคยทำแล้วได้ไวน์ที่ดีกรีแรงมากถึง 18 ดีกรี ถูกปากสมาชิกบ้านสวนฯเป็นอย่างยิ่ง วิธีการคือนำซองยีสต์มาวางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องอย่างน้อยสิบนาที (ปรกติผมเก็บไว้ในช่องแช่ผักในตู้เย็น) ใช้น้ำอุ่นที่อุณหภูมิระหว่าง 30-40 ํc (อุ่นพอสัมผัสได้) ปริมาณ 50ml สำหรับยีสต์ 5gram ซึ่งปรกติสามารถใช้ทำไวน์ได้ถึง 25-30 ลิตร แต่เนื่องจากเราไม่มีอาหารสำหรับยีสต์ผมเลยใช้ทั้งซองกันเหนียว"



ลูกศิษยNเลยตาม เริมจากละลายยิสต์ 1 ซองในน้ำอุ่น ประมาณ30-40 องศา ไม่ได้ใช้อาหารสำหรับยิสต์เนื่องจาก ครูบอกว่า บ้านเราอากาศร้อนเดี๊ยวยิสต์ก็ขยายตัวได้ สูตรนี้ใช้นำแร่ที่ต้มสุก ตั้งไว้ประมาณอุณหภูมิห้องเนื้อจากไม่มีเทอร์โมมิเตอร์วัด  



วางยิสต์ที่ละลายไว้ประมาณ 15-20 นาที แอบสังเกตุ มีฟองขึ้น ซึ่งเป็นการเริ่มขยายตัวของยิสต์  แล้วนำไปเทลงในขวดโหลแก้วต่อไป



เพราะความซุกซนของยิสต์ที่วิ่งพล่าน..บวกกับความซุกซนของลูกศิษย์ แอบเขย่าขวดบ่อยครั้ง เพื่อที่จะได้ดู ยิสต์วิ่งพล่านในขวดโหล ส่วนฝาขวดได้ใช้ผ้าก๊อตม้วนเป็นก้อนอุดไว้เพื่อให้มีการถ่ายเท..ไม่ไห้มีก๊าซในขวดโหลมากไป จนครบ 3 วัน เริ่มปิดฝาให้สนิท และเปิดฝาวันละ 1-2 วินาทีให้มีการระบายอากาศ


 จน


เริ่มทำการบ้านวิชานี้ตั้งแต่วันที่ 13/10/54  ไม่ได้ทำแอร์ลอค จึงใช้วิธีเปิดฝาขวดวันละ 1-2 วินาที ให้มีการถ่ายเทอากาศแทน เวลาผ่านไปประมาณ ครึ่งเดือน เห็นน้ำในขวดเริ่มใส มีการตกตะกอนของยิสต์และฟองที่ลอยตัวอยู่เริ่มยุบ เลยแอบตักมาชิมเล็กน้อย รสชาติใช้ได้ค่ะ



จนถึงเมื่อคืน ฟองอากาศในขวดยุบหมดแล้ว  จึงได้กรองเอาน้ำใส ๆใส่โหลแก้วหมักต่อ..แต่แอบตักมาชิมอีก 1จอก..*-*



นี่คือโฉมหน้าของยิสตืที่ตกตะกอนค่ะ....


การบ้านวิชานี้ ไม่ได้ง่ายเลย...ขนาดอ่านแล้วคิดว่าเข้าใจ พอลงมือทำจริง..มีรายละเอียดเล็ก ๆน้อย ๆที่ต้องศึกษาเพิ่ม..และต้องขอขอบคุณลุงพีสำหรับความรู้ที่แนะนำมา รวมทั้งเชื้อยิสต์ที่แบ่งปันให้เรียนฝึกวิชา...ไม่ได้ลองทำเพื่อการค้า..แต่อยากศึกษาไว้ประดับความรู้ของอีก 1 วิชา การหมัก...ขอบคุณค่ะ

ความเห็น

ไวน์แดง กับไวน์ขาว ครบสูตร สงสัยปีใหม่นี้ประหยัดได้เยอะ บ้านวสนเราก็มีอะไรดีๆเยอะ พึ่งพาตัวเอง จาดวัตถุดิบในสวน

แล้วพี่จะทำน้ำส้มต่อ เป็น Cider รอน้ำลดก่อน เพราะตอนนี้เชื้อน้ำส้มอยู่ที่เกษตรน้ำท่วมอยู่ไปเอาไม่ได้

มิตรภาพไร้พรมแดน

มาชิมนำ้สีแดงๆด้วย น่าอร่อย รู้วิธีืทำไวน์อีกต่างหาก ต่างจากไวน์ที่เค้าขายกันหรือปล่าวค่ะ

_________________________  

Our way is not soft grass, it’s a mountain path with lots of rocks. But it goes upward, forward, toward the sun. – Ruth Westheimer

ข้อนี้น้อยก็สงสัยเหมือนกันค่ะ...ปกติน้อยกินแต่สปาย...นานๆได้ชิมไวน์สักที เลยไม่รู้รสชาติที่แท้จริง...กำลังมองหากูรูชิมไวน์อยู่ค่ะ..แล้วจะมารายงานผลนะคะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

สีสันสดใส ขั้นตอนการทำถือว่าใช้ได้ เหลือแต่รสชาติที่ไม่ได้ชิม แต่เห็นบ่นว่าบาดคอ เนื่องจากเป็นไวน์สีสวยผมจึงขอแนะนำให้เพิ่มความหวานและดีกรีอีกนิดครับ โดยเตรียมน้ำตาลทรายครึ่งแก้ว แบ่งใส่แก้วสองใบเท่าๆกัน (อย่าลืมฆ่าเชื้อแก้วทั้งสองใบก่อน) จากนั้นรินไวน์ออกมาผสมประมาณค่อนแก้ว คนด้วยภาชนะที่สะอาด(มากๆ) จนน้ำตาลละลายจนหมดแล้วเทกลับไปในขวด บ่มไว้อีกหนึ่งเดือนก็น่าจะเอามาดื่มได้ แต่เมื่อถึงเวลานั้นจะเหลือไวน์กี่ซีซีกันน้อ

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

งั้นลูกศิษย์ขอต่อยอดในการพัฒนารสไวน์แล้วจะมารายงานความคืบหน้า..ตอน 3เดือนนะคะ...จะอดใจไว้ไม่ข่มขืนลูกตัวเองค่ะ..แต่ขอแบ่งไปให้ผู้เชียวชาญชิมรสชาติ สัก 2 เป๊กนะคะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

โอวววว:love: มันสวดดดดดยออดดดดดดมากกก ขอบคุณมากค่ะพี่น้อย :admire:

หน้า